xs
xsm
sm
md
lg

ฟ้องจริง ไม่ยอมความ! “ชาล็อต” ยินดีรับทุกคำด่า ร้องเพลงไม่เพราะ แสดงไม่ได้ แต่อย่าลามปามพ่อแม่ ลั่นฟ้องไปแล้ว 2 ครั้ง (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชาล็อต” ไม่ขอทน โดนด่าลามถึงครอบครัว บอกด่าตนรับได้ ร้องเพลงไม่เพราะ แสดงไม่ได้ แต่ลามถึงพ่อแม่ หาว่าแม่ทิ้งตนเหมือนที่พ่อทิ้งแม่ กร้าวดำเนินคดีแน่นอน เคยฟ้องไปแล้ว 2 ครั้ง ย้ำหน้าแรงแต่จริงๆ น่ารัก ยังหวังได้เงินคืนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน



น่าจะถึงที่สุดแล้วถึงได้เห็นสาว “ชาล็อต ออสติน” ออกมาโพสต์ใน X บอกว่าด่าหนูหนูไม่ว่า แต่อย่ามาลามปามถึงบุพการีและครอบครัวหนู ใครจะยอมก็ยอม แต่หนูไม่ยอม ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวก็ออกมาเผยว่าตนโดนติ โดนด่า โดนวิจารณ์มาตลอด 3 ปี ถึงจะโดนว่าแรงแค่ไหนก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนตัวเองเสมอ แต่พอลามมาถึงครอบครัวและพ่อแม่ ตนคงไม่ทนอีกต่อไป ประกาศจะดำเนินคดีทางกฎหมาย

“ไม่โอเคเลยค่ะอันนี้ หนูว่า 3 ปีที่อยู่มา หนูโดนวิจารณ์ โดนติ โดนด่าค่อนข้างที่จะเยอะ หนูก็เห็นแล้วหนูค่อนข้างที่จะปล่อยผ่านไปในแต่ละปี ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอง ดูแลมายด์เซ็ตตัวเองได้ แต่ว่าครั้งนี้เคสนี้ พูดถึงพ่อแม่เรา บุพการีเราไม่ดีเลย เรารู้สึกว่ามันลามปามเกินไป หนูแค่ไม่ยอมเฉยๆ เขาแค่ไม่ชอบหนูเฉยๆ แค่นั้นเลย เหมือนเป็นแอนตี้แฟน ไม่ชอบก็เลยหาเรื่องมาว่าเรา แต่ดันไปว่าถึงแม่ถึงครอบครัวเรา แล้วมันเป็นเรื่องที่เรารู้สึกเซนซิทีฟตรงที่ว่าพ่อแม่เราแยกทางกัน แล้วมาพูดว่าแม่ทิ้งเราเหมือนที่พ่อทิ้งแม่ เราก็เลยรู้สึกว่าคิดอย่างนี้ได้ยังไง รู้สึกเซนซิทีฟไปช่วงหนึ่งก็เลยให้กฎหมายจัดการไปเลย เรารู้ตัวแล้วนะคะว่าเขาอยู่ที่ไหน

หนูแค่อยากบอกมากกว่าว่าหนูเข้าใจว่ามีคนไม่ชอบหนูเยอะ มีคนไม่โอเค มีคนติ มีคนวิจารณ์ในสิ่งที่หนูเป็น ไม่ชอบที่หนูเป็นหนู หนูเข้าใจมาก ในวงการบันเทิงมันมีสิ่งนี้อยู่แล้ว แต่แค่อย่าลามปามไปถึงพ่อแม่หนูได้ไหม ขอแค่เรื่องเดียว จะว่าหนูร้องเพลงไม่เพราะ แสดงไม่ได้อะไรก็แล้วแต่ ยินดีพร้อมรับคำด่า แต่หนูขอเรื่องพ่อแม่ไว้เรื่องเดียว คิดว่าหลายคนคงเป็นเหมือนกันถ้าเกิดว่าอยู่ดีๆ มีคนมาว่าพ่อแม่เราก็คงไม่โอเค”

บอกมีหลายแอ็กเคานต์ที่กระหน่ำเข้ามาด่าว่าตน แต่พอเจอจริงๆ กลับมาบอกแค่คำว่าขอโทษ และไม่มีเงินชดใช้
“จริงๆ ก็ใช้กฎหมายจัดการมาแล้วสองรอบ เจอตัวทั้งสองรอบเลย พอถึงเวลาจริงๆ เขาก็จะขอโทษ เราก็พยายามจะไม่ใจอ่อน แต่บางคนอายุ 70 หนูก็ไม่อยากใจร้าย เขามาว่าหนูว่าตอแหล มันก็ฟ้องได้ ก็เลยฟ้องให้ดูเป็นตัวอย่าง อีกคนก็จะวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบให้เสียชื่อเสียง หนูก็เลยรู้สึกว่าก็ต้องฟ้อง เพราะมันสามารถจับตัวได้ง่าย แต่ถ้าอันไหนที่มันยากก็จะต้องใช้กระบวนการอีกนาน ตอนเจอกันเขาก็ไม่ได้ให้เหตุผลอะไร หนูทักไป โทร.ไปเขาก็ยังไม่รับสายหนูเลย หนูยอมรับว่าโกรธจริงแล้วก็โทร.ไป เห็นปุ๊บหนูก็หาแอ็กเคานต์ เจอแล้วก็กดโทร. เขาก็ไม่รับ จริงๆ มันเป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่ด้วยอารมณ์เราตอนนั้นแหละ

ซึ่งสติสัมปชัญญะเขาก็เต็ม 100% ค่ะ เป็นบ้านมีฐานะด้วย อายุ 70 เคสนี้ไม่ได้เป็นเคสล่าสุดค่ะ คนที่เป็นเคสล่าสุดอยู่ต่างประเทศ ประเทศที่บินไกล เคยไปมาแล้ว กับเคสที่เป็นคนอายุ 70 หนูก็ได้คุยมาแล้วฟ้องไป 50,000 เอง ก็ไม่ได้เยอะ เพราะทีแรกจะปรับ 100,000 เพราะมันสูงสุด เขาบอกว่าเขามีให้ประมาณ 10,000 ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้หรอกทนายเขาบอกว่าไม่ได้ แต่เขาก็บอกว่าถ้าไม่ได้ก็ไปชั้นศาล เรารู้สึกว่าไปชั้นศาลอีกแล้ว ก็เลยตัดสินใจหมื่นนึงก็หมื่นนึง แล้วก็เอาเงินไปทำบุญไม่ได้เอาไปใช้อะไร แต่กับเคสล่าสุดเดี๋ยวให้เจอตัวก่อนดีกว่า แต่จะเอาแค่ 100,000 หรือจะจัดหนักกว่านั้นตอนนี้ยังไม่ได้คิดตรงนี้ค่ะ”

เผยตอนนี้อาการแพนิกเริ่มดีขึ้น ส่วนโรคซึมเศร้าหายแล้ว
“มีหลายแอ็กเคานต์มาก เยอะมาก หนูไปทำอะไรให้เอ่ย แต่ก็ไม่เป็นไร เห็นปุ๊บเราก็บล็อกตามที่จิตแพทย์บอก เราก็ยังไปหาจิตแพทย์อยู่ตามปกติ ก็เพิ่งไปหามาตามที่หลายๆ คนบอกให้ไปหาหมอ ด้วยความที่เป็นโรควิตกกังวล คิดมาก คิดเล็กคิดน้อย เราก็ได้ไปหาหมออาการก็ดีขึ้น มันคือการสะสมมาระยะยาว แล้วบวกกับเราเจอเรื่องมิจฉาชีพเมื่อปีที่แล้ว มันกลายเป็นว่าเราไม่ได้ไปรักษาเลย

คุณหมอก็บอกว่าอยู่ได้ยังไง เพราะสมองเราคิดหลายอย่างมาก หนูเป็นคนคิดเยอะ พอเจอเรื่องแบบนี้มันยิ่งคิด ไม่มีทางมีความสุขได้แน่นอนหลายๆ อย่างหลายๆ เหตุการณ์ ชีวิตประจำวันมันก็ส่งผลเหมือนกัน อย่างการที่เรามาทำงานแล้วเรารู้สึกไม่แฮปปี้เพราะเราคิดเยอะ แต่พอทานยาไปเราก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นมากค่ะ อาการแพนิกก็ดีขึ้น

ส่วนโรคซึมเศร้าไม่เป็นแล้วค่ะ ก็ดีใจ แล้วก็อยากบอกทุกคนที่เป็นเหมือนกันว่าไม่ต้องอาย ไม่ต้องกลัวที่จะไปหาหมอจิตแพทย์เลย เพราะต่อให้คนจะบอกว่าเราไม่ควรทานยา ควรรักษาด้วยตัวเอง แต่ในเรื่องสารเคมีในสมองหนูว่าเป็นสิ่งที่เราควรไปปรึกษาหมอถ้ามันทำให้ชีวิตเราดีขึ้น”

บอกยังหวังว่าจะได้เงินคืนจากโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก
“ยื่นอุทธรณ์มาเมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว มันก็เลยต้องผัดไปอีกสี่เดือน แล้วก็ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ศาลจะเรียกเข้าไปนัดคุยเจรจาเดี๋ยวต้องรอดูในสิ้นเดือนนี้ค่ะ สู้อยู่ค่ะ จ่ายไปเยอะไม่ไหวแล้ว ก็ต้องเอาให้ได้ค่ะเป็นไงเป็นกัน ต้องจบสวยค่ะ เพราะว่าฝากความหวังไว้ที่ทนายไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถามว่าหวังไหมก็แอบคิดว่าคงไม่ได้หรอกมั้ง แต่ถ้ามันได้มันก็ดีนะ อย่างน้อยครึ่งนึงที่อายัดไว้ได้มันก็ดีเหมือนกัน แต่ตามกฎหมายแล้วหนูก็ต้องรอให้เขาทำตามกระบวนการไปตามนั้นค่ะ

กับคู่กรณีไม่เคยเจอค่ะ เพราะเขาขอยื่นอุทธรณ์ ซึ่งตอนนั้นเราติดงานอยู่ที่ยุโรป กลายเป็นว่าทนายเป็นคนไปเจอและเจรจา ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นคุณป้าอีกแล้ว เป็นคุณป้าขายผัก แล้วเขาไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร เขาได้เงินแค่นิดเดียว เขาทำด้วยความไม่รู้ ซึ่งเคสนี้กำลังคุยกับทนายว่าวันที่เราไปคุยไปเจอเราจะทำยังไงได้บ้าง เดี๋ยวเป็นยังไงจะมาอัปเดตแน่นอน

คือถ้าจะว่าอะไรก็เดินมาว่าต่อหน้าก็ได้ดีกว่าค่ะ ไม่ต้องพิมพ์หรอก หนูมองว่าคนเราเจอเรื่องที่เครียดเยอะ แล้วบางทีในโซเชียลไม่ต้องไปอะไรกับมันมาก ถ้าไม่ชอบก็แค่ปล่อย ถ้าเครียดไม่รู้จะทำอะไรอยากจะลงที่ฉันเหลือเกิน เธอมาดูเรื่องนี้ เพราะฉันเล่นให้เธอได้สะใจเลยล่ะ เธอมาดูฉันในซีรีส์ก็ได้ แล้วถ้าเกิดว่าเธอไม่ชอบเธอมาหาฉันได้เลย ฉันอยู่ MGI ที่นี่ เธอก็มาบอกฉันว่าเธอไม่ชอบฉัน โอเคฉันขอโทษนะ แล้วให้ทำยังไงล่ะในเมื่อฉันเป็นแบบนี้ เอาอย่างนี้ดีกว่าลองเปิดใจดูหน่อย หนูแค่เป็นคนหน้าแรง หน้าดุเฉยๆ แต่จริงๆ แล้วหนูเป็นคนน่ารักนะ”









กำลังโหลดความคิดเห็น