“อิงฟ้า-ชาล็อต” ภูมิใจ GL คู่แรกที่ได้ไปจัดแฟนมีตฯ ทั้งยุโรปและฝั่งลาติน อยากลองตีตลาดจีนดูบ้าง ยอมรับก่อนหน้านี้เคยมีช่วงที่ทะเลาะถึงขั้นไม่มองหน้ากัน ทำบรรยากาศมาคุ ถูกผู้ใหญ่เรียกเคลียร์ต่อหน้า ตอนนี้เข้าใจกันมากขึ้น รักกันดีแล้ว จะใช้เวลาที่เหลือด้วยกันอย่างมืออาชีพ
เพิ่งกลับมาจากไปทัวร์แฟนมีตติ้งที่ประเทศฝั่งยุโรปและลาติน สำหรับสองสาวเกิร์ลเลิฟ “อิงฟ้า วราหะ” และ “ชาล็อต ออสติน” ซึ่งล่าสุดทั้งคู่ได้มาร่วมงานบวงสรวงและแถลงข่าว “Unlimited Love บริษัทนี้ไม่มีจำกัด” ซิตคอม Girls Love เรื่องแรกของไทย ณ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และได้เปิดใจว่าครั้งนี้ถือว่าได้ไปเจอแฟนคลับในหลายๆ ประเทศที่ไม่คิดว่าจะได้ไปและใกล้ชิดกับแฟนคลับต่างแดนมากขึ้น
ชาล็อต : “ดีใจค่ะที่ได้ไปหลายๆ ทวีป โดยเฉพาะทวีปที่เราไม่คิดว่าจะได้ไปก็คือทวีปฝั่งลาติน เม็กซิโก บราซิล เพราะมันไกลมากๆ และล่าสุดที่ไปมาก็จะมีสเปน ฝรั่งเศส และลอนดอน เป็นอีกที่นึงที่รู้ว่าเรามีแฟนคลับต่างชาติในยุโรปเยอะขนาดนี้เลยเหรอ พอไปถึงมันเป็นฟีลอบอุ่นมาก หนูไม่รู้ว่ามันเป็นธรรมชาติของด้อมอิงล็อตหรือเปล่า ทุกประเทศที่ไปมันจะรู้สึกถึงความอบอุ่นและความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่แค่ศิลปินกับแฟนคลับ แต่มันจะเหมือนเป็นครอบครัวกัน แชร์กัน บอกเล่ากัน เลยรู้สึกค่อนข้างที่จะผูกพันกับแฟนคลับด้อมอิงล็อตทุกที่ที่ไปค่ะ
ที่เคยไปซ้ำครั้งที่ 2 ส่วนมากจะเป็นอเมริกาช่วง 2 ปีแรกค่ะ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้ไป ก็จะย้ายไปที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน เม็กซิโก บราซิล ฟิลิปปินส์ ฝรั่งเศส สเปน อังกฤษ ก็จะมีอีกเรื่อยๆ ในอนาคตค่ะ ก็มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นบ้าง และมีที่อยู่กับเราตั้งแต่ปีแรกด้วยเหมือนกันค่ะ อย่างแฟนคลับที่เขาเจอเรายากๆ พอได้เจอเราเขาก็ร้องไห้เขาคงดีใจที่ได้เห็นพวกเรา เพราะบางคนก็ไม่สามารถบินมาไทยได้ เขาก็เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่อิงล็อตจะได้ไปที่บ้านเขาสักที พอเราได้ไปก็รู้สึกว่าฉันมาแล้วนะ เราได้เจอกันแล้วนะ ต่อให้มันไกลแต่เราก็ได้เจอกัน”
อิงฟ้า : “ดีค่ะ ถือว่าเป็นการไปที่เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับไปอีกเมื่อไหร่ ก็พยายามทำให้บรรยากาศหรือทุกอย่างมันออกมามีความอบอุ่น มีความสุข และอะไรที่เราสามารถทำให้พวกเขาได้ เราก็ทำให้ ณ ตอนนั้นเลย ก็ดีใจ เหมือนเราเป็นคนเอเชียที่ไปมีแฟนคลับฝั่งยุโรป มันก็ยาก เพราะหลายๆ ที่ก็เหมือนเราจะเป็นคู่แรกที่มีมีตติ้ง มีแฟนมีตที่โน่น อย่างฝรั่งเศสเขาก็บอกว่าน่าจะเป็นคู่แรกที่มีมีตติ้งที่นี่นะ ส่วนมากก็จะเป็นงานสายแฟชั่น แต่นี่เหมือนจะเป็น GL คู่แรกที่เราได้ไปจัดแฟนมีตฯ ทานข้าวกับแฟนคลับ ซึ่งจริงๆ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยนะ ก็ไปแบบเป็นตัวเองเลย 100% เพราะเหมือนเขาก็ชอบที่เราเป็นแบบนี้อยู่แล้วด้วย”
ได้ฉายาเป็นคู่เกิร์ลเลิฟตายาย ด้วยความเป็นตัวเองที่แฟนๆ เห็นกันมาตั้งแต่แรก
ชาล็อต : “ก็ได้ฉายาว่าเป็นคู่ตายาย ถ้า GL มาก็น่าจะต้องนึกถึงอิงล็อตบ้างสักชื่อนึง”
อิงฟ้า : “ก็ใช้ความเป็นตัวเองนี่แหละค่ะ เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น หน้ากล้อง หลังกล้อง อาจจะรับรู้ได้ถึงความจริงใจมั้งคะ แฟนคลับอาจจะเห็นความเรียล ความที่เป็นอิงล็อต และอาจจะเป็นคู่แรกๆ เลยที่มีคู่ GL ที่เป็นนางงามด้วย ก็เลยอาจจะเป็นภาพจำของเขาไป เพราะหลายคนก็รู้จักเราก่อนที่จะมีซีรีส์ด้วยซ้ำ และพอไปที่นู่นทำให้เราได้รับโอกาสหลายๆ อย่างด้วย ทำให้หลายๆ ประเทศที่เขารอคอยมีติดต่อเข้ามา ทางฝั่งยุโรป ทางฝั่งลาตินอีกหลายๆ ที่ก็ติดต่อเข้ามาว่าอยากให้เราไปแฟนมีตฯ ที่โน่น เหมือนบราซิล เม็กซิโกก็รอเรามาเกือบ 3 ปีกว่าเราจะได้ไป เราก็มีเรื่องเพลง เรื่องชุด และอาจจะมีคำศัพท์ทักทายเล็กๆ น้อยๆ แต่หลักๆ จะเป็นเรื่องของเพลงมากกว่าที่ช่วงแฟนมีตฯ เราจะเสิร์ฟวัฒนธรรมบ้านเขา”
บอกอยากลองไปบุกตลาดจีน เพราะตอนนี้แฟนคลับจีนบินมาหามากกว่า
อิงฟ้า : “จริงๆ หนูอยากไปจีนสักครั้งนึง แต่ก็พอทราบว่าที่จีนอาจจะมีสิทธิบางอย่างที่ไม่เหมือนประเทศเรา”
ชาล็อต : “แฟนคลับจีนเรามีประมาณ 50 คนได้ (หัวเราะ) เอาจริงๆ โดยธรรมชาติอิงล็อตอาจจะไม่ได้ถูกใจแม่จีน แต่เราก็มีแม่จีนที่ไม่ว่าจะมีอีเวนต์อะไรก็แล้วแต่ เขาจะบินมาหาเรา เขาบอกว่าไม่ต้องบินไปหาฉันหรอก เดี๋ยวฉันบินมาหาเธอเอง มันก็เลยเป็นฟีลครอบครัวจีนน่ารักๆ แต่ถ้าสมมติในอนาคตมีโอกาสได้บินไป และได้เจอแฟนคลับจีนที่มากขึ้นก็ยินดีค่ะ”
อิงฟ้า : “หนูว่ามันอาจจะด้วยตัวแนวทางและซีรีส์ที่เขาอาจจะยังไม่เคยได้ชมผลงานของเราหรือเปล่า เพราะช่องทางแต่ละช่องทางซีรีส์ของเราก่อนหน้านี้ก็จะอยู่ในแอปฯ ซะส่วนใหญ่ ยังไม่ได้อยู่ช่องทางสาธารณะ แต่เดี๋ยวจะมีเรื่องต่อๆ ไปที่จะเปิดกว้างมากขึ้น แต่จริงๆ เราก็ไม่ได้คาดหวังแบบกดดันว่าเราจะต้องมีแม่จีนนะ แต่แค่เราเห็นว่าเวลาเราจัดอีเวนต์จะมีแฟนคลับจีนมาหาเรา เอาเงินมาให้บ้าง เอาของขวัญมาให้บ้าง ก็เลยอยากจะมีสักครั้งนึงที่เราได้ไปหาเขาบ้าง”
ชาล็อต : “เผื่อเรื่องนี้จะพาไปได้ค่ะ เพราะมีหลายคู่ ไปเป็นกลุ่ม ไปเป็นเพื่อนกัน”
ยอมรับเคยมีช่วงที่ทะเลาะกัน ถึงขนาดไม่มองหน้ากัน จนโดนคณะกรรมการบริษัทเรียกคุย
อิงฟ้า : “ก็จริงค่ะ (หัวเราะ) หมายถึงว่าอาจจะเป็นจุดขายที่ทำให้แฟนคลับเห็นถึงความเรียล อย่างเวลาปกติอยู่หน้ากล้องอาจจะต้องคุยกัน แต่บางทีถ้าสมมติมันมีจุดที่เรายังไม่พร้อมที่จะคุยก็ยังไม่คุย”
ชาล็อต : “พี่ๆ ก็เห็นว่าเราก็ตีกันหน้าสื่อไปเลย หนูว่ามันเป็นปกติของมนุษย์ผู้หญิงที่เราก็ไม่ได้โตมาด้วยกัน ไม่ได้ถูกซึมซับมาด้วยกัน เรามาจากการแข่งขันนางงาม มันก็จะมีบ้างที่ไม่ถูกใจ ลิ้นกับฟันตีกันบ้าง แต่สุดท้ายเราก็คุยกัน รักกัน ไม่ได้ถึงขั้นว่าฉันจะไม่ยุ่ง ทุกวันนี้ก็รักกันดีนะคะ ก็มีการเคลียร์กันตลอด มีบ่อย (หัวเราะ)”
อิงฟ้า : “ก็บ่อย ก่อนหน้านี้ก็บ่อยค่ะ มีการคุยกันบ้างว่าจุดไหนที่ไม่เข้าใจ แต่หลังๆ ก็ต้องยอมรับว่าเวลามันกระชับมากขึ้นที่จะมีโอกาสทำงานด้วยกัน ได้อยู่ด้วยกัน เราก็ใช้เวลาที่เหลือให้เต็มที่กับสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมืออาชีพหรือการอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่พอใจเรื่องอะไรก็คุยกันเลย จะได้ไม่ต้องให้มีโมเมนต์ก่อนหน้านี้ที่เคยเกิดขึ้น ก็ได้คุยกันเยอะค่ะ”
ชาล็อต : “หนูว่าปรับจูนด้วยกันไม่ได้บ่อย แต่การทลายกำแพงของแต่ละคนที่มันทำไปเองโดยไม่รู้ตัว มันเลยได้อิงล็อตในเวอร์ชั่น 2025 ที่ทุกคนได้เห็นกันแบบนี้ มันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไปนี่แหละค่ะ ตอนนี้หนูกล้าเล่นกับเขามากขึ้นโดยที่หนูไม่ห่วงว่าเขาจะรำคาญหรืออะไรเราไหม บางทีเราก็ไปเกาะแกะเขา ซึ่งเมื่อก่อนเราก็จะไม่กล้า อยากจะกอดก็ไม่กล้า กลัวว่าเขาจะหาว่าเราไม่ให้เกียรติไหม แต่ตอนนี้อยากกอดก็กอด (กอดให้ดู) เขาชอบไหมหนูไม่รู้ แต่มันคือสิ่งที่เราอยากทำ มันเหมือนพี่น้องกอดกัน”
อิงฟ้า : “ก็ชอบที่เขาโตขึ้น มีสติมากขึ้น ไม่คิดเยอะในการที่จะต้องทำอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งบางทีมันเกิดจากการคิดมาก คิดไปเอง ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเราอยากให้เขาเป็นเหมือนน้องๆ ทั่วไปที่เข้ามาเล่น เข้ามาคุยกันได้ ถ้าคิดเยอะเราจะเข้าไม่ถึงว่าคิดอะไรอยู่ บางทีเราอาจจะไม่ได้มีเวลามากที่จะมานั่งเคลียร์กัน บางทีคิวไม่ตรงกัน ก็อยากให้เขาไม่ต้องคิดเยอะและพอเขาเริ่มโตขึ้นก็จะเริ่มคิดได้เองว่าเวลาอยู่ด้วยกัน หรือเวลาอยู่ภาพรวมมันจะสดใสขึ้น หรือสนุกมากขึ้น ก็คิดว่าทุกคนก็น่าจะสัมผัสได้ตรงนี้”
ชาล็อต : “อยากให้แซว อยากให้เล่นบ้างเฉยๆ ประมาณนั้น”
อิงฟ้า : “บอสอาจจะไม่ได้เรียกโดยตรง แต่จะเป็นทางกรรมการบริษัทที่เรียกเราเข้าไป หมายถึงมันเคยมีครั้งนึงที่ไม่มองหน้ากันเลย มาคุเลยล่ะ ก็ได้มีการเรียกเข้าไปว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร ก็เลยได้มีโอกาสพูดความคิดของแต่ละคน แชร์กัน พอผ่านตรงนั้นมันเหมือนต้องยอมลดกันคนละ 50-50 และรับฟังกันมากขึ้น แฟนคลับก็มีผลนะ อย่างบางทีอาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่เราไม่อยากเข้าใกล้กัน”
ชาล็อต : “เวลาเขาตีกัน”
อิงฟ้า : “ใช่ ก็มีบ้าง แต่ส่วนมากก็มาจากพวกเราด้วย บางทีคิดไปเอง คิดเยอะ”
ชาล็อต : “ส่วนตัวยอมรับเลยว่าเป็นคนคิดเยอะ กลัวว่าจะไม่พอใจ กลัวจะไม่ถูกใจ จนมันอาจจะทำให้บรรยากาศมาคุ ไม่น่าสนใจ แต่หลังๆ ก็เริ่มดีขึ้นค่ะ แฟนคลับก็ยังอยู่ด้วยกันนี่แหละ ไม่มีล็อตก็มีอิง ไม่มีอิงก็มีล็อต ยังมีผลงานกันอยู่ ยังไม่ได้ไปไหน (หัวเราะ) แต่แฟนคลับก็ชอบแต่งคลิปว่าหนูเป็นมะเร็งบ้าง หนูป่วยบ้าง เศร้า หนูอ่านนะ ไม่มีหรอกรักกัน หวานกันน่ะ ไม่มีเลย แล้วหนูก็จะพิมพ์กลับไปว่า โอ้ย คำเดียว ให้รับรู้ว่าฉันเห็นแล้วนะ ไม่เอาขมได้ไหม ชีวิตจริงมันดีแล้วอะไรแบบนี้ ก็จะแซวๆ เขาไปค่ะ”
