“จี๋ สุทธิรักษ์” ลุยธุรกิจ 5 เดือน ยอดขายน่าพอใจ ตั้งเป้าไประดับโลก 1,500 ล้าน ขอบคุณ “เมย์ วาสนา” ไม่มีเมย์ก็คงไม่มาไกลถึงขนาดนี้ ยังมองหางานแสดงที่ทำให้ไฟในตาลุกโชน เผยคนแห่เปิดวาร์ป “น้องเจ็ม” น้องชายต่างพ่อ ถึงจะโตแค่ไหน ก็ยังเป็นน้องชายตัวน้อยที่ตนจะหอมแก้มตลอดไป
หันมาลุยงานธุรกิจอีกคนแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม “จี๋ สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร” หลังจากที่ร่วมงานกับสาวเก่ง “เมย์ วาสนา อินทะแสง” ตอนนี้หนุ่มจี๋พร้อมจะลุยไปตลาดต่างประเทศแล้ว ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท หันมาลุยธุรกิจเต็มที่ แต่ก็ยังไม่ปิดกั้นการแสดง เพราะยังมีอะไรอยากทำอีกเยอะ
“ธุรกิจตอนนี้อีกประมาณอาทิตย์กว่าๆ จะครบ 5 เดือนแล้วครับ ยอดขายก็คือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่ถ้าถามว่าเป้าหมาย ผมตั้งใจจะไประดับโลกให้ได้ อยากจะขยายไปต่างประเทศให้ได้ ก็ยังต้องลุยกันอีกครับ เป้าตอนนี้ยังไม่ถึงครับ ตั้งไว้ปีนี้ 1,500 ล้าน กำลังเดินทางไปให้ถึงครับ โชคดีที่มีทีมดีครับ ทุกคนช่วยกันมากๆ พี่เมย์ก็เก่ง ตอนนี้ผมกับพี่เมย์ก็ยังไม่ได้ดึงเงินออกมาจากยอดขายเลย พยายามจะเอาใส่เข้าไปซัปพอร์ตธุรกิจให้มันไปต่อได้ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการครับ
ตอนนี้ก็ลุยธุรกิจเต็มที่ด้วย เรื่องงานแสดงก็ยังหาอะไรที่สนุกเต็มที่เหมือนกันครับ ไม่ได้ปิดกั้นโอกาส มันยังเป็นเส้นทางความฝันที่ยังมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะมากๆ ในสายการแสดง คนแซวว่าเป็นซีอีโอท่านหนึ่ง (หัวเราะ) ก็ขอบคุณ ดีใจ และยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะมากในโลกธุรกิจในยุคที่เศรษฐกิจถดถอย ถามว่าเครียดไหม ผมรู้สึกว่าผมกลายเป็นคนจริงจังมากขึ้น ถ้าเทียบกับเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่สัมภาษณ์หน้าแบ็กดร็อปแบบนี้ พอถามปุ๊บก็จะมีเล่นกันยิงมุกบ้าง แต่พอมาจับงานด้านธุรกิจแล้วความคิดมันเปลี่ยนไป งานธุรกิจกับงานแสดง ผมว่ามันใช้สมองคนละซีกนะ ถ้าไปพาร์ตงานแสดงเราจะใช้สมองด้านสร้างสรรค์ แต่พอไปทำธุรกิจมันใช้สมองฝั่งตรรกะ พอความคิดมันเยอะๆ เราไม่สามารถโบ๊ะบ๊ะได้เหมือนเมื่อก่อน
ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมจะต้องเตรียมตัวเหมือนกัน เพราะเดือนหน้าจะมีเปิดกล้องอีก เปิดกล้องโปรเจกต์ใหม่ ก็พยายามบาลานซ์มายด์เซ็ตให้ได้อยู่ พยายามหาจุดตรงกลางอยู่ เอาเข้าจริงๆ ผมก็เพิ่งมีโอกาสแสดงจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ ในแง่ธุรกิจก็เพิ่งได้มาจับเต็มตัว มันเหมือนพาร์ตนักแสดงผมก็ยังต้องเรียนรู้ และยังไม่ได้เก่งมาก
ก็มาจับโลกของธุรกิจที่ก็ยังไม่ได้แข็งแรงพอ ก็ยังต้องทรงตัวให้ดีหน่อย ก็ไม่ได้คิดถึงขั้นคนดูจะรักเราน้อยลง เพราะแฟนๆ ของผมน่ารักอยู่แล้ว และผมก็เข้าใจเพราะผมบอกทุกคนว่าทุกคนก็มีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเอง เราก็มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ แต่สุดท้ายเรารู้ว่าเรามีกันและกัน มีกำลังใจ ผมว่าทุกคนก็คงเป็นไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนหรือลุยแล้วโดดเดี่ยว แต่อย่างน้อยเราก็ยังรู้ว่ามีใครสักคนที่คอยเชียร์อัพ ผมว่ามันก็ทำให้โลกมันง่ายขึ้น”
เผยถ้าไม่มี “เมย์ วาสนา” คอยช่วย คงไม่ได้มาถึงวันนี้
“ช่วงนี้ผมอาจจะนอนน้อยนิดนึง อาจจะอ๊องๆ เมื่อกี้ผมยังพูดไม่ทันพี่ๆ เขาเลย ผมก็พยายามจัดการตัวเอง เจออะไรตรงหน้าก็พยายามประคองมันไปให้ดีที่สุด อะไรที่มันทำให้เราหนักก็อาจจะผ่านไปบ้าง โฟกัสกับสิ่งที่จำเป็น คนที่รักและเป็นกำลังใจให้กับคนที่สำคัญในชีวิตบ้าง พี่เมย์เป็นคนไม่เครียดเลย เป็นคนที่ทำให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น คอยสอนแนะนำเป็นที่ปรึกษาดีขึ้นด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีพี่เมย์คงจะแย่กว่านี้เยอะ
ถามว่าพอเป็นนักธุรกิจจะต้องเลือกรับบทมากขึ้นไหม ไม่เลยครับ เพราะจิตวิญญาณการเป็นนักแสดงมันก็เป็นหนึ่งในความฝันอันสูงสูด และยังคงมองหาบทบาทที่ทำแล้วไฟลุกในดวงตา ยังโชกโชนอยู่เสมอ ผมก็ยังใช้มาตรฐานเดิมในการเลือก ถ้าบทไหนที่สนุกก็พร้อมลุยเลย อยากใช้ชีวิตให้เหมือนทุกวันเป็นวันสุดท้ายเสมอ”
บอกจะขอหอม “น้องเจ็ม” ตลอดไป แม้จะเป็นพี่น้องต่างพ่อ แต่ก็เลี้ยงมาตั้งแต่เป็นเบบี๋
“ห่างกันประมาณ 16 ปีครับ ที่สนิทกันมากเพราะผมช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเป็นเบบี๋เลย เปลี่ยนแพมเพิสเลย แต่ถ้าพูดตรงนี้เขาโตแล้ว เดี๋ยวเขาจะเขิน แต่ผมยังรู้สึกว่าตอนหอมแก้มเขาตอน 1-2 ขวบเป็นยังไง ตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกว่าเขาเป็นอย่างนั้น เป็นไอ้เจ้าก้อนคนเดิม ผมก็ยังหอมแก้มเขา ต่อให้เขาแต่งงานมีหนวดแล้วผมก็จะหอมแก้มเขาเหมือนเดิม ที่เขาโดนเปิดวาร์ป เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เขาไม่ค่อยเล่นโซเชียล เขาจะโฟกัสเรียนฟิสิกซ์มากกว่า เรียกว่าไม่น่าจะมีความสนใจที่เหมือนผมเลย (หัวเราะ) แต่เขาก็มีถามบ้าง เป็นซัปพอร์ตเตอร์ที่ดีมากๆ ครับ แต่เขาก็จะเขินๆ ไม่ค่อยกล้าชมผมมาก อย่างมากสุดก็แค่บอกว่าดีมาก”
