xs
xsm
sm
md
lg

อดีตดาราเด็ก “ไทเลอร์ เชส” จากซีรีส์ดัง Nickelodeon ถูกพบใช้ชีวิตเร่ร่อนในลอสแอนเจลิส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สร้างความสะเทือนใจให้แฟน ๆ ทั่วโลก เมื่อมีภาพและคลิปวิดีโอเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็น ไทเลอร์ เชส อดีตนักแสดงเด็กวัย 36 ปี ผู้เคยโด่งดังจากซีรีส์วัยรุ่นสุดฮิตของ Nickelodeon เรื่อง Ned’s Declassified School Survival Guide กำลังใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่บนท้องถนนในนครลอสแอนเจลิส

เว็บไซต์ Bored Panda รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) มีการเผยแพร่วิดีโอที่ชายคนหนึ่งแนะนำตัวว่าเป็น “ไทเลอร์ เชส” ขณะอยู่ในรถ และยังมีภาพถ่ายเพิ่มเติมที่เห็นเขานั่งอยู่บนทางเท้าในสภาพซูบผอม แต่งตัวเก่าโทรม และดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง

ไทเลอร์ เชส เคยแจ้งเกิดในช่วงกลางทศวรรษ 2000 กับบท “มาร์ติน ควีร์ลี (Martin Qwerly)” เพื่อนตัวเจื้อยแจ้วของตัวเอกในซีรีส์ Ned’s Declassified School Survival Guide ที่ออกอากาศทาง Nickelodeon เขาได้รับความรักจากแฟน ๆ ด้วยคาแรกเตอร์สุดกวนและมีเสน่ห์เฉพาะตัว


เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนบนโลกออนไลน์ต่างแสดงความเห็นใจและพยายามหาทางช่วยเหลือ หนึ่งในผู้ที่โพสต์วิดีโอถึงกับเปิดแคมเปญระดมทุนบน GoFundMe ซึ่ง reportedly สามารถรวบรวมเงินได้ราว 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 40,000 บาท)

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Los40 ระบุว่า ผู้จัดแคมเปญได้รับข้อความจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นสมาชิกครอบครัวของไทเลอร์ เตือนว่าการโอนเงินอาจไม่ใช่ความช่วยเหลือที่เหมาะสมที่สุด เพราะสิ่งที่เขาจำเป็นจริง ๆ คือการรักษาและการดูแลด้านการแพทย์ “เขาไม่สามารถจัดการเรื่องยาหรือเก็บโทรศัพท์ไว้ได้เกินไม่กี่วัน เงินอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง” ข้อความระบุ พร้อมย้ำว่า “เขาเป็นคนดีและบริสุทธิ์ แต่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน”

ก่อนหน้านี้ ไทเลอร์ เคยโพสต์คลิปบน YouTube ของตัวเองเกี่ยวกับภาวะ ไบโพลาร์ (bipolar disorder) ในชื่อวิดีโออย่าง “Bipolar Vlogs – The Absence of Color” และ “So Be It” ที่สะท้อนการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตของเขา ซึ่งยิ่งทำให้แฟน ๆ เป็นห่วงมากขึ้นหลังเห็นสภาพล่าสุด

ในขณะที่แฟน ๆ หลายคนแสดงความเสียใจและให้กำลังใจ เช่น “ไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือเขา” หรือ “เศร้ามาก ๆ” แต่ก็มีอีกหลายเสียงที่ตั้งคำถามถึงจริยธรรมของการนำภาพและวิดีโอของผู้ที่อยู่ในภาวะลำบากมานำเสนอเพื่อความสนใจทางออนไลน์ หลายคนมองว่าอาจเข้าข่าย “poverty porn” หรือการใช้ความยากจนของผู้อื่นเพื่อสร้างคอนเทนต์





กำลังโหลดความคิดเห็น