การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมท่องเที่ยววิถีพุทธ และวัฒนธรรม โครงการแข่งขันสวดสรภัญญะ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธ รักษาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้มายังกลุ่มประชาชนในพื้นที่ โดยมี ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง และนายสุรกิจ ศรีเกษม เลขานุการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และปฏิรูปประเทศ พร้อมคณะ เข้าร่วมงานณ วัดป่าประสารอำไพวงษ์ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี ๒๕๖๘
การท่องเที่ยววิถีพุทธ คือ การเดินทางท่องเที่ยวที่เน้นการเรียนรู้ และสัมผัสวิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา และวัฒนธรรม ชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของตน เพื่อให้สามารถดำรงคงอยู่โดยไม่สูญสลายหายไปกับยุคสมัยของความเปลี่ยนแปลง ในท้องถิ่นอีสานมีการสวดสรภัญญะ ที่กำลังจะเลือนหายไป การสวดสรภัญญะนอกจากจะมีความไพเราะสร้างความบันเทิงแล้ว เนื้อหาส่วนใหญ่ได้นำมาจากพระเวสสันดรชาดก และประพันธ์ขึ้นมาใหม่ ล้วนแฝงไว้ด้วยแง่คิดด้านการดำเนินชีวิตคติธรรม การอบรมขัดเกลาจิตใจ
การสวดมนต์หมู่บูชาพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย เกิดสมาธิ เป็นการเสริมสร้างสติปัญญา และเป็นการเสริมสิริมงคลแก่ตนเอง อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน และกลุ่มคนที่เข้าร่วมกิจกรรม และยังสามารถเผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณี ในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นอีกด้วย
การสวดสรภัญญะในจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นประเพณีทางศาสนาที่สืบทอดกันมา โดยมีลักษณะเป็นการสวดบทประพันธ์ทำนองสังโยคที่เน้นการสวดเป็นจังหวะหยุดตามฉันทลักษณ์ มักใช้กาพย์ยานี 11 บทสวดสรภัญญะในจังหวัดร้อยเอ็ดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับศาสนา พุทธประวัติ นิทานชาดก หรือเรื่องราวในท้องถิ่น การสวดสรภัญญะในจังหวัดร้อยเอ็ดมีความสำคัญและเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวบ้านมีเวลาว่างจากการทำนาและรอการเก็บเกี่ยว การสวดสรภัญญะไม่ได้เป็นเพียงการสวดเพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสืบทอดคำสอนทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่ชาวอีสานได้ร่วมใจกันสืบสานการสวดสรภัญญะให้คงอยู่ ด้วยการสวดในกิจกรรมวันธรรมสวนะและงานบุญต่างๆ รวมไปถึงได้จัดให้มีการประกวดสวดสรภัญญะอยู่เสมอ มีการแข่งขันตั้งแต่ระดับตำบลจนถึงระดับภาค นอกจากนั้นแล้ว ยังได้ถ่ายทอดให้กับเยาวชนโดยการบรรจุอยู่ในเรียนการสอนวิชาวรรณกรรมท้องถิ่นในโรงเรียนต่างๆ ของภาคอีสานอีกด้วย จึงเชื่อได้ว่าการสวดสรภัญญะอันเป็นอีกหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมนี้จะยังคงอยู่คู่กับชาวอีสานต่อไปตราบนานเท่านาน
