“บุ๋ม ปนัดดา” คุย “กัน จอมพลัง” พร้อมร่วมมือกองทัพ ร่วมด้วยช่วยกันสร้างกำแพงกั้นชายแดน เชื่อทุกคนจะช่วยระดมกันสมทบทุน ในส่วนขององค์กรทำดี ออกเงินไปแล้วทั้งสิ้น 22 ล้านบาทในการช่วยเหลือชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่นหากรัฐบาลชุดใหม่ตัดตั้งตนพร้อมรับตำแหน่งศบ.ทก โฆษกจิตอาสา ต่อ
ทำหลายคนเสียดายกับ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี”ที่ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งศบ.ทก โฆษกจิตอาสา เพื่อมาต่อกรกับ “พลโทหญิง มาลี โสเจียตา” โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อถามเรื่องนี้กับบุ๋ม เจ้าตัวเผยว่าแม้จะไม่ได้รับตำแหน่งแล้วแต่จุดยืนไม่เปลี่ยน หากรัฐบาลใหม่ติดต่อมาตนก็ยินดีรับตำแหน่ง
“สำหรับตำแหน่ง ศบ.ทก โฆษกจิตอาสา ตอนนี้หมดหน้าที่แล้วนะคะ เพราะว่า ศบ.ทก มีตามรัฐบาลที่แล้ว ตอนนี้รัฐบาลใหม่แล้ว เลยเห็นเราเปิดฉากอย่างที่เห็น เพราะที่ผ่านมาไม่กล้า ถือว่าเราเป็นภาพประเทศไทยเนอะ เราต้องเรียบร้อยหน่อย พ้นตำแหน่งปุ๊บเราก็จัดเลย เขารักประเทศเขา เรารักประเทศเราเหมือนกัน
ประเด็นชายแดน ต้องเข้าใจก่อนว่าทางฝั่งกัมพูชา เขาเป็นม็อบจัดตั้ง อย่าไปหลงกลเขาเด็ดขาด ม็อบจัดตั้งคืออะไร ด้วยกฎหมายของกัมพูชา เขาไม่สามารถชุมนุมได้เกิน 5 คน ดังนั้นถ้าเห็นเกิน 5 คนคือม็อบจัดตั้งจากกัมพูชา ภาพที่เขาต้องการคือภาพเจ้าหน้าที่ทหารของไทย ไปทำร้ายประชาชนของเขา เพื่อเอาไปยื่นศาลโลกเลยต้องเปลี่ยนสถานการณ์เป็นผู้ควบคุมฝูงชน ให้ดูซอฟต์ลง ที่ผ่านมาเราไม่หลงกลเขมรเด็ดขาด”
แจงกิจกรรมจากอีสานใต้ เปลี่ยนมาสระแก้วเพราะแม่ทัพภาคที่ 1 ขอมา
“เราเพิ่งไปจัดกิจกรรม คืนรอยยิ้มให้ประชาชนที่สุรินทร์ ทีนี้ตอนไปประชุม GBC บังเอิญไปนั่งกินข้าวกับแม่ทัพภาค 1 ท่านเลยบอกว่ามาจัดให้ผมบ้าง ก็เลยไปจัดที่สระแก้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เลยเป็นที่มาของการไปจัดครั้งที่ 2 พอจัดครั้งที่2 เสียงร่ำลือมาก คนมาเป็น 1,000 สนุกมากเลย อาหารเพียงพอ จังหวัดอื่นเรียกร้องอีก เดี๋ยวจะตามไปจัดให้นะคะ ตอนนี้ควบคุมสถานการณ์นิดนึง เพราะเริ่มมีการยิงจากฝั่งโน้น เพื่อทดสอบระบบ ขอใช้คำนี้ก่อน”
แม้จะไม่ได้รับตำแหน่งแล้วแต่จุดยืนไม่เปลี่ยน ยังลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทำเพื่อประเทศชาติต่อไป
“ไม่ได้เปลี่ยนจุดยืน ต่อให้วันนี้ไม่มีตำแหน่งบุ๋มก็ยังลงพื้นที่ของบุ๋มเหมือนเดิม ดังนั้นการทำงานของบุ๋มไม่ได้เปลี่ยนเลย ด้วยตำแหน่งที่เป็นจุดสนใจ ทำให้กัมพูชาเกลียดดิฉันขึ้นเท่านั้นเอง แต่ด้วยไม่มีตำแหน่งก็พูดได้ตรงมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องห่วงภาพเท่าไหร่บุ๋มยังอยู่พื้นที่ชายแดนทุกวันเหมือนเดิม”
ในส่วนขององค์กรทำดีหมดไปกับเรื่องชายแดน 22 ล้านบาท
“ตอนนี้ลงกับชายแดนไป 22 ล้าน เพราะว่าทำบังเกอร์หนักมาก ที่ไหนขอเราจัดให้หมด แล้วมีถนนที่ทำเพื่อไปย้ายพื้นที่ชายแดน ถนนแต่ละเส้นใช้เงินเยอะ บังเกอร์แต่ละจุด ฐานใหม่หมดเลย เราทำแบบแข็งแรง เลยหมดเยอะอย่างที่เห็น เงินที่ได้มาคือเงินประชาชน มันต้องถึงประชาชน ยืมเงินมามากเท่าไหร่บุ๋มก็ใส่หนักมากเท่านั้น มันเป็นที่มา
(เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนแม่ทัพแต่ละภาคมีผลต่อชายแดนไหม?) อาจจะมีผลในเรื่องของของขวัญและกำลังใจ ต้องเข้าใจก่อนว่าในการเป็นผู้นำของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน เชื่อว่าทหารไทยมีแนวทางแล้วแหละ ล่าสุดมีคุยกันแล้วว่าเขาก็ไม่ยอม ถ้าจะรบก็คือรบ บุ๋มรอดูการปฎิบัติงานของเขาก่อน เราอาจจะรู้สึกว่า เอาแบบนี้เลยเหรอ ก็ได้ เชื่อว่ามันต้องจบในรุ่นนี้”
ฝากถึงนายกฯ คนใหม่ หากจะเปิดศึกอย่ารับสายประเทศที่ 3
“สถานการณ์การยั่วยุจากฝั่งโน้น เขายั่วยุเราไม่หยุดเลย เขาเขียนข่าวเฟกนิวส์ไม่หยุด เขาพยายามติดต่อต่างประเทศให้เป็นตัวกลาง อยากฝากท่านนายกฯ อย่ารับสายประเทศที่ 3 กลัวจะเหมือนคราวที่แล้ว ถ้าเปิดศึกไม่ต้องฟังสายที่ 3 เราจัดได้เต็มเลย ขอแค่นี้ จุดที่เป็นห่วงคือจันทบุรี และตราด นั่นคือจุดเศรษฐกิจ และกัมพูชาอยากได้ที่สุด ตรงนั้นน่ากลัวสุด
(หลายคนบอกว่าตอนเราเป็นโฆษก มาลีไม่มาเลย แต่พอเราไม่อยู่เขากลับมา?) คุณต้องตั้งฉันใหม่ไหม ถ้าทางภาครัฐติดต่อมาให้ทำงาน ก็ยินดีค่ะ เพราะเราอยู่ตรงพื้นที่นั้นอยู่แล้ว เรารู้เรื่องอยู่แล้วว่าชายแดนเป็นยังไง เราเป็นสื่อกลางตรงนี้ได้ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งเราก็ใส่เต็มให้ประชาชนอยู่แล้วค่ะ ไม่รู้ว่ามาลีจะกลัวอะไรดิฉันนักหนา ประชุมคราวหน้าอย่าพลาดนะต้องไปด้วย พร้อมดีเบต”
คุยกับกองทัพอยากให้สร้างกำแพง ซึ่งตัวแทนภาคประชาชนแบบตนพร้อมร่วมด้วยช่วยกัน
“วันก่อนคุยกับกัน จอมพลัง ว่าจะสร้างกำแพงตรงไหน เราคุยกันว่าจะได้ทำต่อกัน มันจะได้เร็ว คิดว่าทุกคนร่วมสมทบทุน เชื่อว่าทางทหารเองก็พร้อมจะสร้างกำแพงอยู่แล้ว ให้ทหารเป็นคนนำทาง เราไม่รู้ว่าเขตแดนที่ถูกต้องที่สุดคือตรงไหน จะไปสร้างเลยไม่ได้นะ ทุ่นระเบิดเพียบเลย ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่ได้กู้ ให้ทหารเป็นคนนำทางเราดีกว่าและบุ๋มเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะมาเป็นพลังให้กับบุ๋มแน่นอน”
แม้จะช่วยดูแลประเทศชาติ แต่ก็ยังมีเวลาเติมเต็มให้กับครอบครัว
“เห็นค่ะ เพียงแต่ไม่ได้ถ่ายรูปให้ประชาชนดู เพราะหน้าดิฉันสดเกินไป เราไม่อยากเอาเวลาส่วนตัวลูกมานั่งเซลฟี่ลง เราไม่อยากจับมือถือเลย อยู่บ้านแล้วก็จะอยู่กับลูก ด้วยเวลาที่จำกัดมาก บุ๋มใส่สุดวิญญาณแล้ว ดังนั้นคือขอกอดลูกให้ชื่นใจดีกว่า”
