ไกล่เกลี่ย 9 ชม.! จบมหากาพย์ฮุบบริษัท “ออม สุชาร์” ทุ่มจ่าย 25 ล้านซื้อหุ้นคืนจากคู่กรณี ยุติทุกคดี ถอนฟ้องทั้งหมด ครองหุ้น Fleen Beauty 100% ซึ้งทุกแรงซัปพอร์ต สินค้าขายดีจนขาดตลาด “แอมป์ พิธาน” ให้กำลังใจ ป้อง “หนุ่ม กรรชัย” ไม่เป็นกลาง ชี้แค่พยายามเข้าใจทั้งสองฝ่าย เพราะดีเทลเยอะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วกับ “ทนายแก้ว-อ.ตฤณห์” อวยยศน้องสาวท้อง 5 เดือน แต่สู้เพื่อตัวเอง ต้องแบ่งหุ้นให้แล้ว
กลายเป็นมหากาพย์ความขัดแย้งที่ดูจะไม่จบง่ายๆ หลังนางเอกสาว “ออม สุชาร์ มานะยิ่ง”ถูกกล่าวหาฮุบบริษัท 100 ล้าน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำร่วมกับ 2 หุ้นส่วน อย่าง “พริม ณัฐชา ชุณหะ”และอดีตผู้จัดการส่วนตัว “ศสา” ซึ่งที่ผ่านมานอกจากจะยังเคลียร์กันไม่ได้แล้ว ทั้งสองฝ่ายยังยื่นฟ้องร้องกันหลายคดี โดยเรื่องนี้ทนายออมเผยในรายการโหนกระแสว่า ออมฟ้องพริม 2-3 คดี รวมถึงฟ้องศสา ในกรณีเปิดเผยข้อมูลที่ต้องรักษาเป็นความลับ ส่วนทางฝ่ายพริมฟ้องออม 5-6 คดี
ล่าสุด เวลา 09.00 น. วันนี้ (22 ก.ย.2568) ออมพร้อมด้วย “อัง”น้องแท้ๆ และทนายความส่วนตัว “ทนายติ่ง หม่อมหลวง นำลาภยศ ศรีธวัช” เดินทางมายังศาลแพ่งพระโขนง แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ หลังศาลนัดไกล่เกลี่ยในคดีเพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ พริมเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท อินโนฟีน่า จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์ “Fleen Beauty”ที่ “ออม สุชาร์” นั่งแท่นเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัท เป็นจำเลย ซึ่งสุดท้ายแล้วไกล่เกลี่ยสำเร็จ โดยใช้เวลายาวนานมาราธอนกว่า 9 ชั่วโมงกว่าที่ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ ออมซื้อหุ้น 48% จากพริมคู่กรณี ในราคา 25 ล้านบาท เท่ากับว่าเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทแบบ 100% และถอนฟ้องทุกคดี
โดยวันนี้นักธุรกิจหนุ่ม “แอมป์ พิธาน องค์โฆษิต”แฟนของออม ก็ได้เดินทางมาเพื่ออยู่ข้างๆ ให้กำลังใจแฟนสาวด้วยเป็นเวลาครึ่งวัน ก่อนจะกลับไปทำงานต่อ
ทนายติ่ง : “เกี่ยวกับเรื่องคดี ศาลเขาขอไม่ให้พูดมาก ว่ามันมีอะไร เพราะว่าวันนี้เป็นกระบวนการขึ้นศาลอีกคดีหนึ่ง ศาลก็ได้กรุณาทำการไกล่เกลี่ยให้ ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง เช้าถึงเย็น (คดีที่พริมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องออม?) ก็ใช่ครับ ฟ้องกันไปฟ้องกันมาหลายคดี แต่อันนี้เป็นคดีที่เขาฟ้องเพิกถอนจัดการประชุมเปลี่ยนกรรมการออก แต่ว่าเวลาเราคุยกัน เราคุยตกลงกันทุกคดี ผลการไกล่เกลี่ยสรุปเลยก็คือทั้งสองฝ่ายต่างตกลงแยกกันด้วยดี จากกันด้วยดี เราก็ได้สิ่งที่เราต้องการ เขาก็ได้สิ่งที่เขาต้องการตามความเหมาะสม”
ออม : “คือความต้องการของออมก็ชัดเจนอยู่แล้วนะคะ ตั้งแต่ที่เป็นข่าว ไปคุยในรายการ ออมก็ชัดเจนว่าอยากจะขอซื้อหุ้นเขาในราคาที่เป็นธรรม ซึ่งกระบวนการตอนแรก จริงๆ วันนี้มันต้องมาอยู่แล้ว เป็นคิวอยู่แล้ว ก็ไม่น่าเกิดเหตุ 2 วันนั้นขึ้นเลยเนอะ ออมก็ไม่เป็นไรค่ะ ผ่านมาแล้ว วันนี้รู้สึกโล่งนะ เพราะว่าได้ตกลงที่จะซื้อหุ้นคุณณัฐชา ทั้งหมด 48 เปอร์เซ็นต์ มาเป็นของออม หุ้นของ Fleen Beauty ค่ะตัวเลขที่ตกลงกันก็คือ 25 ล้านบาทค่ะ
สำหรับออม ออมเหนื่อยแล้วค่ะ มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับออม ที่ผ่านมามันไม่เหมาะกับออม ออมอยากทำงานแล้ว อยากเอาเวลาไปรักษาใจของออม รวมถึงคดีลำดับต่อจากนี้ไป จริงๆ ก็จะมีคิวอยู่แล้ว มันก็ไปๆ มาๆ อย่างนี้ วันนี้ก็ต้องขอบคุณทางศาลที่ช่วยเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย ให้เกิดข้อยุติที่ดีที่สุด (25 ล้านเป็นตัวเลขในใจอยู่แล้วไหม?) ออมก็ไม่รู้ว่าจริงๆ มันควรจะเท่าไหร่ แต่มันเป็นตัวเลขที่ออมโอเคที่จะจ่าย แล้วเขาก็ยินดีที่จะรับ ตามความเหมาะสมซึ่งกันและกันแล้วกันนะคะ
(เป็นตัวเลขที่เขาเรียกมา?) ก็เป็นเรื่องปกติของการที่เราอยากซื้อขายของสิ่งๆ หนึ่ง ถ้าเราเห็นว่าสิ่งๆ นั้น มีมูลค่าที่เราอยากจะจ่าย เป็นความพอใจของเรา ที่อยากจ่ายให้ทุกอย่างคลี่คลาย ตอนนี้ออมก็ถือ 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ แต่น่าจะต้องแบ่งให้คนนี้แล้วแหละ (น้องสาว) คนนี้น่าจะต้องได้แล้ว”
ไกล่เกลี่ยนาน 9 ชั่วโมง เพราะตกลงกันเรื่องเงิน
ออม : “ก็เรื่องเงินนี่แหละค่ะ (หัวเราะ) สำหรับออมอยากเดินหน้าต่อ ไม่อยากมานั่งทะเลาะเบาะแว้งในโซเชียลแล้วค่ะ มันไม่ใช่ออม เอาเวลาไปตั้งใจอยากทำงาน ทำแบรนด์ พอมันมาโฟกัสสิ่งนี้ สิ่งนั้นมันก็ลดลง เรามาโฟกัสที่เราจะต่อสู้กัน เวลาตรงนั้นแทนที่จะเอาไปทำงาน ทำแบรนด์ให้มันดีขึ้นมันก็เสียไป ออมคิดว่าเวลาน่าจะเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดสำหรับออม เลยอยากจะจบที่ตรงนี้ดีกว่า แล้วก็ไม่ได้อยากไปต่อกับคดีอะไรแล้วค่ะ”
ตอนนี้เคลียร์จบทุกคดี ที่ต่างฝ่ายต่างฟ้องกัน
ทนายติ่ง : “ทุกเรื่องจบลง จบกันหมด ตัวแทนตกลงประนีประนอมยอมความ ส่วนคดีอื่นก็ถอนฟ้องไป สรุปแล้วก็คือทุกคดีจบหมด (รวมของศสาด้วย?) จบทุกคดีครับ ไม่มีคดีอะไรต่อกัน”
โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก
ออม : “ใช่ค่ะ ออมไม่อยากทะเลาะกับใครเลย ไม่ชอบทะเลาะกับใคร ก็โอเคถ้าศาลเห็นว่าแนวทางนี้มันดีที่สุด ออมก็น้อมรับค่ะท่านก็มีเหตุผล จริงๆ การต่อสู้กันไปเรื่อยๆ ก็มีแต่เสียเวลาชีวิต เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าค่ะ”
อัง : ”อยากให้แบรนด์ไปต่อได้ เพราะพี่ออมจริงจังกับการทำแบรนด์มากๆ ถ้าเรายังมีคดีความต่อกัน เราก็ต้องโฟกัสในเรื่องคดีความในทางศาล ทำให้เราไม่โฟกัสเรื่องงาน แล้วธุรกิจที่เรากำลังดำเนินไป มันก็จะติดขัด แบบนี้ก็เป็นวิธีที่ดีเหมือนกันค่ะ”
ออม : “วันนั้นที่ไปโหนกระแส วันนั้นออมกลับมาสลบไป 2 วัน มันเครียด มันไม่ใช่แค่ต่อสู้พิสูจน์ความจริง เหมือนต่อสู้กับอคติของคน ที่เขาไม่พร้อมจะเชื่อเราด้วย มันเหนื่อยจริงๆ (ความรู้สึกที่มีต่อคู่กรณีในตอนนี้?) ออมใช้คำว่าเฉยๆ แล้วกันค่ะ วางเฉยไม่ได้อยากโฟกัสกับความรู้สึกที่มีต่อเขา มันไม่ต้องใช้ความรู้สึกอะไรเลย”
แพลนหลังจากนี้คือกลับฟื้นฟูแบรนด์ เรื่องกอบกู้ชื่อเสียง ไม่ได้คิดอะไรแล้ว
ออม : “หลังจากนี้เราต้องกลับมาฟื้นฟูแบรนด์ของเราค่ะ เราจ่ายเงินไปเยอะ (หัวเราะ) ก็ต้องตั้งใจไลฟ์มากขึ้นจากที่เคยไลฟ์เท่านี้ อาจจะต้องเบิ้ลขึ้นไปหน่อย จะได้ได้ตังค์เยอะๆ (จากชื่อเสียงที่กระทบตรงนี้ คิดว่าสามารถกอบกู้ กลับมาได้ไหม?) ออมว่าไม่มีอะไรกู้ได้หรอก เราต้องวางเฉยไป ไม่ต้องคิดแล้ว มีทั้งคนที่รักเราและไม่รักเรา”
หลังไปออก “โหนกระแส” ฟีดแบ็กดีมาก ลิปขายหมดของขาดตลาด
อัง : “โหนกระแส sold out ค่ะ”
ออม : “ชื่นใจเลย ตอนนี้ลิปหมดค่ะ มีแค่หน้าร้าน ออนไลน์ขาดตลาด ถือว่าเป็นกำลังใจ ที่ทุกคนเห็นความตั้งใจ และมาซัปพอร์ตเรา เพราะเราตั้งใจกับการทำสิ่งนี้จริงๆ ค่ะ”
ขอบคุณกำลังใจจากทุกคน และขอบคุณที่เชื่อใจ
ออม : “อยากขอบคุณทุกคนเลย เพื่อนที่อยู่เมืองนอกได้ดูข่าวเราหมดเลย ขอบคุณกำลังใจจากทุกคนที่ส่งมาให้ออม ขอบคุณทุกคนที่เชื่อใจในตัวออมจริงๆ ขอบคุณมาก ครั้งนี้ทำให้ออมได้เห็นกำลังใจจากทุกคน ที่พร้อมจะสนับสนุนออม เห็นออมลุกขึ้นมาทำแบรนด์นี้ ก็ดีใจมาก ออมไม่ถอยกับการที่ออมจะเอาอันนี้มาเป็นของออม มันชัดเจนว่าออมรักสิ่งนี้จริงๆ มันไม่สามารถมีอะไรมาการันตีได้ ว่าจริงๆ แล้วมูลค่าอันนี้มันจะเท่านี้ แต่สำหรับออมความสบายใจนะตอนนี้ สุขภาพจิตออมสำคัญมากที่สุด ก็โอเคที่จุดนี้แล้วค่ะ“
ทนายติ่ง : “ในห้องวันนี้คุณพริมมา แต่คุณศสาไม่มาครับ”
เผย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” มีทักมาแสดงความเป็นห่วง
ออม : “มีพี่หนุ่ม กรรชัยค่ะ แกก็ค่อนข้างเป็นห่วงความรู้สึกออม ว่าออมเป็นยังไงบ้าง แกเห็นออมลงมาแล้วร้องไห้เยอะ คือออมไม่ได้อยากจะร้อง แต่ลงมาแล้วพี่ๆ สื่อถามว่าเหนื่อยไหม เลยน้ำตาแตก พี่หนุ่มแกก็ถามออมเป็นยังไง ออมก็บอกไม่เป็นไรแล้วค่ะ วันนี้จะมาเคลียร์กันอยู่แล้ว ก็พยายามหาจุดที่ลงตัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ได้อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราว วันนี้หายเหนื่อย เห็นหลายคนบอกว่าพี่หนุ่ม ทนายแก้ว (ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล) ไม่เป็นกลาง แต่ออมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยนะคะ ขอดีเฟ้นให้แกนิดหนึ่ง ออมรู้สึกแกพยายามทำความเข้าใจนะทั้งสองคน แต่เรื่องดีเทลมันเยอะ ด้วยที่มันเป็นกฎหมายเฉพาะ ขนาดเราเล่าเองยังลำดับงงๆ เลย”
บอกจริงๆ ไม่ต้องมีใครมาขอโทษ เพราะไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว หลังอาจารย์ตฤณ โพธิ์รักษา โพสต์ขอโทษ
ออม : “ออมไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ คือออมไม่ได้อยากแบบว่า จะต้องมานั่งโฟกัสกับการไม่พอใจคนนั้นคนนี้อีกต่อไปแล้ว ออมอยากมูฟออนจากสถานการณ์ตรงนี้ แล้วก็ไปทำงานจริงๆ ไม่ต้องมีใครต้องมาขอโทษออม เพราะออมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองพูดรู้เรื่องนะ แต่ทุกคนบอกว่าแกพูดไม่รู้เรื่องเลย กลับไปก็คือโดนเพื่อนด่าเลย ว่าทำไมไม่เข้าเรื่องสักทีวะ คนก็ด่าแกอยู่นั่นแหละ”
อัง : “นี่ก็กลัวเวลาจะหมด จะไม่ได้เล่า รีบพูดมากเลย”
ออม : “ณ สถานการณ์ตอนนั้น คนเข้าใจผิดเราทั้งประเทศเลยนะ ออมเห็นภาพที่มันดรามามากๆ แม่ออมเข่าทรุดลงไปร้องไห้ วันนั้นเรามีเวลาแค่ 2 ชั่วโมง ถ้าเราไม่พยายามอธิบายตัวเองให้คนเข้าใจ เราก็คงจบแล้วแหละ
(รู้ฟีดแบ็กใช่ไหม ว่าโดนวิจารณ์เรื่องการพูด สีหน้า และภาษากาย?) หนูก็มีความรู้สึกนะคะ แต่หนูไม่ได้งอน อุ้ย งอนอีกแล้ว ไม่ได้งอนทนายแก้ว แต่ว่าข้างหลังทนายแก้วจะมีรูปแบ็กกราวด์หลายๆ คน เป็นจอมอนิเตอร์คนนั้นคนนี้ แล้วเราก็รู้สึกว่าหนูไม่อยากพูดแล้ว จังหวะนั้นก็คืองอนภาพเงาของคนที่อยู่ข้างหลังทนายแก้วมากกว่า ช่างมันเถอะค่ะ มันก็จบไปแล้ว”
ให้เครดิตน้องสาว ท้อง 5 เดือนแต่สู้มาก เพราะรู้ว่าพี่สาวพูดไม่รู้เรื่อง
ออม : “นี่เขาท้องอยู่ 5 เดือนด้วยนะ คุณแม่สู้มาก”
อัง : “คือจริงๆ ไม่เครียดเลย เพราะเราเล่าตามความจริง ตอนนั้นเราอยากรีบพูด กลัวเวลาจะหมด จริงๆ ก็คิดว่าตัวเองพูดเร็วไปหรือเปล่า อยากซัปพอร์ตเขาเพราะรู้ว่าเขาพูดไม่รู้เรื่อง คนชมไม่ตายไมค์ ขอบคุณค่ะ ส่วนที่คนไปหาประวัติเราเยอะมาก ไม่ค่อยได้เล่นโซเชียลด้วย ไม่ค่อยมีประวัติอะไรให้ดูเลยค่ะ ที่คนมาโฟกัสก็ไม่ได้อะไร ก็มีเพื่อนๆ ทักมาแสดงความยินดีเยอะมาก ก็ขอบคุณเพื่อนๆ แล้วก็ขอบคุณแทนพี่ออมด้วย ก็ซึ้งใจ”
ออม : “คือทุกคนเป็นห่วงออม เพราะออมพูดไม่รู้เรื่อง แล้วเวลามันน้อย วันนั้นเจอสถานการณ์กดดันเยอะ เราต้องอธิบายกับประชาชนที่อคติกับเราไปแล้ว มันเหมือนคำพูดของเรามันไม่พอ แค่บอกว่าไม่ใช่นะ ไม่ได้เป็นอย่างนี้ มันก็ไม่พอ ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง ทำหน้ายังไงก็ผิด จะดุบ้าง จะเสียใจ จะร้องไห้ สำหรับเขามันคืออคติไปหมด มันเป็นการวางตัวที่เครียด กับการที่เราต้องเอาความจริงออกมา กับข้อมูลที่มันเยอะมากๆ ไม่คิดว่าชีวิตนึงจะได้ไปยืนอยู่ตรงนั้น”
หวานใจ “แอมป์ พิธาน” อยู่ด้วยครึ่งวันเพราะมีงานต่อ แต่ช่วยแนะนำว่าอะไรจบได้ให้จบ
ออม : “เขาอยู่ด้วยประมาณครึ่งวัน แล้วไปทำงานช่วงบ่าย เขาก็แนะนำว่าวันนี้ถ้าอะไรจบได้ก็จบ เพราะสุขภาพใจเราสำคัญที่สุด เราจะได้เอาพลังไปทำงาน ไปสร้างแบรนด์ จริงๆ มีอะไรที่ออมอยากทำเยอะแยะเลย แต่ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งของชีวิตมาโฟกัส กับการที่ ออม สุชาร์ เรกคอร์ด คือหนูไม่ได้อยากทำ”
อัง : “จริงๆ ออม สุชาร์ ไม่เคยเรกคอร์ดค่ะ หนูเรดคอร์ดเอง”
ออม : “คือบางทีพูดอย่างเดียว ไม่รู้ว่าใครจะเชื่อเราไหมไง มันก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อปกป้องตัวเอง คือออมไม่เคยคิดจะทำร้ายเขานะ เพราะรู้สึกว่าทุกอย่างมันไกล่เกลี่ยได้ที่วันนี้เลย ตามคิวเลย แต่เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้น แล้วมันผลักให้ออมออกมา ออมไม่มีทางเลือก ที่ออมต้องออกมา เพราะถ้าออมไม่ออกมาออมก็ตาย จริงๆ มีอีกหลายรายการที่อยากให้ไป แต่ออมไม่ไหวแล้ว ออมขอเคลียร์แค่ที่รายการพี่หนุ่มดีกว่าค่ะ”
