xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.ตฤณห์” ขอโทษแล้ว วิเคราะห์ “เหลี่ยม” ตามหลักการ ไม่ได้กล่าวหาหรือตัดสิน “ออม สุชาร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ.ตฤณห์” ขอโทษแล้ว ยันไม่ได้กล่าวหา “ออม สุชาร์” เหลี่ยม วิเคราะห์ตามหลักการ ไม่ได้ตัดสินใจหรือกล่าวหาใครเป็นการส่วนตัว แจงที่มาตบมุกงอน

หลังจากที่ “ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา” นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร อาจารย์ประจำคณะวิชาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ม.มหิดล วิเคราะห์ข้อมูลตามสิ่งที่ปรากฏในรายการโหนกระแส ซึ่งมาจากคำบอกเล่าฝ่ายเดียวของ “พริม-ศสา” อดีตหุ้นส่วนธุรกิจ “ออม สุชาร์ มานะยิ่ง” พร้อมเผยว่าการกระทำดังกล่าว เรียกว่า “เหลี่ยม” จนทำให้ “ออม สุชาร์” ออกอาการงอน ซึ่งอ.ตฤณห์ ก็ได้เล่นมุกอีกว่าตนก็งอนเหมือนกัน เพราะออมยังไม่สะดวกเจอตนเองในรายการ

ภายหลังออม สุชาร์ ได้ชี้แจงฝั่งตนเอง ทำให้โลกออนไลน์เทใจเลือกข้างออมอยู่ไม่น้อย ทัวร์กลับไปลงพริมกับศสายับ โดยมองว่าเป็นฝั่งออมที่ถูกพริมกระทำก่อน เรียกว่าเหลี่ยมก่อนเลยเจอเหลี่ยมกว่า พร้อมจี้ อ.ตฤณห์ ออกมาเคลียร์ถึงประเด็นนี้

ล่าสุด อ. ตฤณห์ ได้เผยข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันไม่ได้กล่าวหาใครเป็นตัวบุคคล และขอโทษหากทำให้เข้าใจผิด

“ผมขอชี้แจงดังนี้ครับ

ผมได้รับเชิญให้ไปวิเคราะห์ในรายการ จึงวิเคราะห์ตามข้อมูลที่มีอยู่ ณ ขณะนั้น โดยทำหน้าที่ในฐานะ “นักอาชญาวิทยา” ไม่ใช่นักกฎหมายหรือทนายความ การวิเคราะห์ของผมจึงเป็นการมองผ่านมุมของสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ไม่ใช่นิติศาสตร์

ในทางอาชญาวิทยา ความชั่วร้ายไม่จำเป็นต้องหมายถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายเสมอไป ที่ภาษาละตินเรียกว่า Mala Prohibita (สิ่งที่ผิดเพราะกฎหมายห้าม) ในขณะที่การกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมเรียกว่า Mala In Se (สิ่งที่ผิดโดยตัวมันเอง) ซึ่งคำถามสำคัญคือ ในสังคมนี้ เรายังสามารถยึดถือศีลธรรมได้เพียงใด

ดังนั้น ผมจึงวิเคราะห์จากข้อมูลที่ปรากฏในรายการสดเท่านั้น ไม่ได้ตัดสินหรือกล่าวหาว่าใครกระทำผิด หากเมื่อวานได้เข้าร่วมรายการ ผมก็พร้อมจะวิเคราะห์ตามข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน
 
สำหรับในมุมมองส่วนตัว หากพฤติกรรมเป็นไปตามที่เล่ามา การแอบทำสิ่งใดลับหลังหุ้นส่วนถือว่า “ไม่โปร่งใส” (Transparency) ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม หรือที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า “เหลี่ยม” ซึ่งในทางธุรกิจ “เหลี่ยม” ไม่ได้หมายความว่าผิดกฎหมายเสมอไป แต่เป็นเรื่องของศีลธรรมและความน่าเชื่อถือ

โดยสรุป สำหรับผู้ที่รอการวิเคราะห์ กรณีนี้สะท้อนคำกล่าวที่ว่า “ในเวทีธุรกิจไม่มีมิตรแท้” เพราะแต่ละฝ่ายต่างมีจุดยืนและมุมมองของตนเอง และมักเล่าในมุมที่ตัวเองดูดี พร้อมหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของตน

บทเรียนสำคัญสำหรับทุกคน คือ การทำธุรกิจและการทำธุรกรรมทางกฎหมาย ควรมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ ไม่ควรพึ่งพาเพียงคำพูดหรือความไว้ใจ เพราะในโลกธุรกิจ ความชัดเจนและเอกสารคือเกราะป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด

การป้องกันย่อมมีราคาน้อยกว่าการแก้ไขเสมอ
ผมต้องขอโทษ หากทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นการกล่าวหาที่ตัวบุคคล ผมคิดว่าเหลี่ยมหมายถึงได้ทุกคน ถ้าทำตัวไม่โปร่งใส เพราะคำว่าเหลี่ยมคือคำอธิบายเชิงพฤติกรรม ใครที่ทำตัวไม่โปร่งใสก็เหลี่ยมทั้งนั้น

และที่โพสต์เรื่องงอน เพราะผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่ได้มีเรื่องเคืองใจ ผมโพสต์ตบมุกเพราะทางนั้นบอกงอนผม ผมก็เลยแซวว่าผมก็งอนที่เขาไม่ให้ผมเจอ

ขอบคุณมากครับ”











กำลังโหลดความคิดเห็น