xs
xsm
sm
md
lg

“อ๊อด บัณฑิต” ยันสมาคมผู้กำกับฯ โปร่งใส มีหลักฐานการเงินครบ ไม่โกรธ “ต้อม ยุทธเลิศ” ยื่นถอดถอน แต่กลัวโดนตัดงบ-ยุบสมาคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ๊อด บัณฑิต” แจงสมาคมคมผู้กำกับฯ ไม่ตอบไลน์ “ต้อม ยุทธเลิศ” เพราะต้องรอรวบรวมหลักฐาน ยันเรื่องเงิน THACCA (ทักก้า) โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่โกรธยื่นถอดถอน แต่กลัวโดนตัดงบ-ยุบสมาคม ยอมรับมีปัญหาภายใน ส่วนลิขสิทธิ์บุปผาราตรี ไม่เข้าข้างใคร อยากให้ “ต้อม - พิง ลำพระเพลิง” เคลียร์กันเอง

หลังช่วงสายของเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) “ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค”ผู้กำกับชื่อดัง ได้เดินทางไปสำนักการสอบสวนและนิติการวังไชยา เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบและเพิกถอนสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย เหตุสอบถามเรื่องงบที่ได้จาก THACCA (ทักก้า) แต่กลับไม่ได้รับคำตอบจากนายกฯ สมาคม หรือเหรัญญิก เลยคิดว่าดูมีพิรุธ ล่าสุดในช่วงค่ำของวันเดียวกัน “อ๊อด บัณฑิต ทองดี”เหรัญญิกของสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงบ้าง โดยยืนยันว่ามีหลักฐานการโอนเงินทุกอย่าง แต่ต้องใช้เวลารวบรวมเป็นเดือน เลยไม่สามารถตอบได้ทันที และมองเป็นเรื่องดี ที่ต้อมไปร้องให้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยตรวจสอบ เพราะในสมาคมก็มีแต่อาร์ติสต์ ทำบัญชีไม่เป็น

“ก็ติดตามข่าวมาตลอด เหรัญญิกที่พูดถึงก็คงจะเป็นผมนี่แหละครับ มันไม่ได้เป็นโดยแต่งตั้ง แต่ผมดูแลเงินมาตั้งแต่ผมเป็นนายกฯ แล้วบอกถึงยุคของคุณนุชชี่ เขาก็บอกว่างั้นดูแลต่อไป เพราะถ้าต้องเปลี่ยนลายเซ็นในการเบิกเช็คมันวุ่นวาย เราก็ยังเบิกเช็คคู่กันกับผู้กำกับอีกท่านหนึ่งทุกครั้งก็จะมีการรายงานตลอดว่ามีอะไร ทีนี้ปัญหาที่เกิดขึ้น คือไม่ทราบว่าพี่ต้อมแกคงอยากตรวจสอบอะไรบางอย่าง แกคงจะโกรธที่ไม่มีใครตอบรับแกในไลน์กลุ่ม คือแกทักมาปุ๊บ มันตอบเลยไม่ได้ มันต้องรวบรวมหลักฐาน สลิปเงิน

แกถามมาว่า THACCA (ทักก้า) เอาเงินเข้าสมาคมกี่ล้าน ให้ตอบแกหน่อย เราตอบไม่ได้เลย เพราะต้องเอาหลักฐานมาก่อน ต้องไปดูสลิปโน่นนี่ ผมเป็นอาร์ติสต์ไม่ใช่นักบัญชี ที่จะเก็บหลักฐานทำบัญชีเป็นเอกสาร เราก็ต้องปรึกษานายกฯ คือคุณมะเดี่ยว (ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล) ก่อน ว่าเอายังไงดีนายกฯ ก็บอกว่าเราหาหลักฐานให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปตอบเขาแล้วกัน ซึ่งมันก็ต้องเงียบ เพราะเรายังตอบเขาไม่ได้ เงียบไปแค่วันเดียวก็เกิดเรื่อง หาว่าเราไม่ตอบ มีพิรุธ และจะยื่นถอดถอนสมาคม”

แจงเงินมันไม่ได้มาก้อนเดียว เลยตอบทันทีไม่ได้ กลัวตัวเลขคลาดเคลื่อน
ไม่ได้มาก้อนเดียวครับ มาทีละก้อน เพราะมีเทศกาลหนังปูซาน หนังเมืองคานส์ แต่ละงานก็มาทีละครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 67 มามันมีหลายเทศกาลมาก รวมถึงงานอบรมต่างๆ ด้วย ซึ่งเราต้องหาหลักฐาน เราไม่ได้ทำเป็นแฟ้ม(กลัวตัวเลขคลาดเคลื่อน?) ใช่ครับ เราต้องบอกให้ชัดเจน เลยต้องมีเวลาในการเตรียมหลักฐาน แล้วก็ตั้งตัวว่าจะทำยังไง มันก็เลยต้องเงียบ พอเงียบแกก็คงโกรธ เลยคิดว่าเรามีพิรุธกันหรือเปล่า ก็อยากบอกพี่ต้อมครับ ให้เวลาพวกเราหาหลักฐานนิดหนึ่ง ทุกอย่างตอบได้หมดครับ เพราะเราต้องแจงกับรัฐบาล”

เผยเงินที่ได้มาไม่ถึง 100 ล้าน แต่เป็น 70 ล้าน
“ไม่น่าถึง แต่ก็น่าจะเกือบๆ เฉพาะส่วนที่เข้ามาน่าจะสัก 70 ล้าน ตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ผ่านมาเงินส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับหนังต่างประเทศ ที่เป็นก้อนใหญ่ๆ แล้วก็จะจ่ายเช็คกับออแกไนซ์ต่างๆ เพราะเราทำกันเองไม่ได้ ต้องมีออแกไนซ์มารับ ท่านอนุกรรมการเขาจะจัดหามา ว่างานนี้ใครดูแล ก็จ่ายเช็คตามหน้าที่”

ยันใช้เงินถูกจุดประสงค์ของ THACCA (ทักก้า) และมีความโปร่งใส
“ใช่ครับ เพราะกรรมการสมาคมส่วนหนึ่ง ก็เป็นกรรมการของ THACCA (ทักก้า) ด้วย เขาก็จะประชุมกัน แต่ผมไม่ได้อยู่นะ ไม่รู้เรื่องการประชุมของเขา แต่สุดท้ายก็สรุปมาเป็นเนื้องานเดียวกัน แล้วก็มอบหมายงานในกลุ่มคณะกรรมการ แต่ผมเหมือนกองคลัง ถ้าอธิบดีหรือปลัดกระทรวงเซ็นชื่อมาแล้วว่าต้องเบิก เราก็ต้องให้ แต่ทุกอย่างมันตรวจสอบได้หมดครับ โปร่งใส ไม่มีนอกมีในครับ ส่วนเรื่องส่วนต่างผลกำไร ก็เป็นเรื่องปกติของบริษัท เพราะเราใช้เอกชนดูแลเรื่องการรันงานเทศกาลต่างๆ”

ถ้าเบิกงบแบบไม่สมเหตุสมผล ทางการก็ไม่อนุญาต
“คือ THACCA (ทักก้า) เขามีหลายส่วน หลายงบ (ใครเป็นคนตัดสิน ว่าแต่ละงานใช้งบเท่าไหร่?) คนตัดสินคืออนุกรรมการเกี่ยวกับด้านภาพยนตร์ครับ คือจะเสนอไปว่าต้องใช้เท่านี้ๆ เขาก็จะตัดสินว่าอันนี้ควรได้เงินเท่าไหร่ แล้วก็จะเสนอไปให้กับทางกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณา เราประเมินจากค่าใช้จ่ายจริงครับ มีแต่ความจริง คือราชการเขาไม่ปล่อยเงินง่ายๆ อยู่แล้ว เขาจะมีราคากลางของเขาอยู่ ค่าตั๋ว 2 หมื่น เบิก 5 หมื่นเนี่ยเขารู้ เขาก็จะไม่ให้ ถ้าไม่สมเหตุสมผลเขาก็ไม่อนุมัติอยู่แล้ว

มั่นใจไม่มีงานไหนงบเวอร์เกินจริง
“ไม่มีครับ ไม่มีแน่ๆ ผมยืนยัน เพราะทุกอย่างมันถูกตรวจสอบโดยที่เอกชนเสนอไป แล้วราชการเป็นคนตรวจอีกที เพราะเงินของรัฐเขาจะไม่ปล่อยง่ายๆ ถ้าไม่สมเหตุสมผลก็ตัดงบ

มีหลักฐานการโอนเงิน แต่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน กำลังให้บริษัทบัญชีมาช่วยดู
“หลักฐานการโอนเงินหาได้ แต่ใช้เวลานิดหนึ่ง ส่วนหลักฐานเรื่องการใช้จ่ายต่างๆ ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ของทีมงาน ของดาราที่ไป ผมไม่รู้แล้ว ก็เป็นเรื่องของออแกไนซ์ แต่หลักฐานการโอนเงินแต่ละครั้งเรามีอยู่แล้ว (ในสมาคมมีการตรวจค่าใช้จ่ายหลังเบิกไหม?) ตรวจสอบเป็นก้อนใหญ่ครับ เป็นก้อนรวม ว่าออแกไนซ์นี้เท่านี้ๆ แต่ค่าปลีกย่อยเราไม่ได้ตรวจสอบขนาดนั้น ใช้เวลาหาหลักฐานต้องมีเป็นเดือนครับ ตอนนี้เราติดต่อบริษัทบัญชีมาช่วยตรงนี้ด้วย เพราะสมาคมมีแต่อาร์ติสต์ แค่นี้ก็ประสาทกินกันแล้ว(หัวเราะ) ถ้ามาทำงานเอกสารนี้ยาก”

เผย “ต้อม ยุทธเลิศ” ถามวันเดียวไม่ได้คำตอบ วันต่อมาเตรียมเรียกนักข่าว และยื่นถอดถอนเลย
ก็คือสมมติถามมาวันนี้ไม่ได้คำตอบ พรุ่งนี้ก็เตรียมการเรียกนักข่าวไว้แล้ว เพราะเราได้ข่าวตั้งแต่เมื่อวาน ว่าจะมีการยื่นถอดถอน แล้ววันนี้ก็ยื่น เท่ากับว่า 3 วัน แต่วันเดียวก็เตรียมการแล้ว เราทำให้ไม่ทันอยู่แล้วครับ

เขาต้องการคำตอบเลย กระชั้นไป มันต้องตั้งสติ ตั้งหลัก เราไม่ใช่บัญชีที่ทำเป็นชิ้นเป็นอันเราก็อีเหละเขละขละกันไป ตามสไตล์คนทำหนัง ถ้าจะเอาจริงๆ ก็ต้องใช้เวลากันนิดหนึ่ง”

ถือเป็นเรื่องดีที่ให้หน่วยงานรัฐมาช่วยตรวจสอบ
“ดีเลยครับ ถือเป็นเรื่องที่ดีเลย จะได้ตอบสังคมได้ ถ้าไม่มีคนรื้อฟื้น มันก็อาจจะกำกวมคุกรุ่นไปเรื่อยๆ ตรวจสอบก็เป็นเรื่องที่ดี มันคาราคาซังเพราะตั้งแต่มีงบ THACCA (ทักก้า) เข้ามา ก็มีเงินผ่านมาให้สมาคมหลายสิบล้าน ถ้ามีการตรวจสอบจริงจังก็ดีที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าอีเหละเขละขละกันเอง อินดี้ (หัวเราะ) ไม่ใช่นักวิชาการ เลยไม่ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อยเท่าไหร่”

เข้าใจ ไม่โกรธ “ต้อม ยุทธเลิศ”
“โห…ไม่โกรธหรอก พี่ต้อมผมไม่ได้โกรธไรพี่นะ พี่กับผมก็รู้จักกันมา กินเหล้ากันมาตั้งหลายครั้งนะ เพียงแต่ว่าหน้าที่ผมมันต้องไปอยู่ตรงนั้นพอดี ก็เข้าใจเขานะ”

ประชุมกันในสมาคม ต้องเป็นระบบและจริงจังกันได้แล้ว เตรียมจ้างบริษัทบัญชี หลังมีรายได้เพิ่มขึ้น
“มีพูดคุยครับ ทุกคนก็ตกใจกันหมดว่า อุ้ย อะไร (หัวเราะ) ก็มีการประชุมกันว่าเอาไงกันดี ก็ต้องตั้งสติกันทุกคน คุยกันว่าต้องจริงจังเป็นระบบระเบียบกันได้แล้ว จ้างบริษัทบัญชีเลย ตอนนี้สมาคมก็มีรายได้เพิ่มขึ้น กระทรวงวัฒนธรรมให้งานมาทำ ก็มีค่าดำเนินการ พอมีรายได้เราก็เอามาทำตรงนี้ให้ถูกต้อง ที่ผ่านมาเราไม่มีเงิน เลยจ้างบัญชีไม่ได้ คนทำงานไม่มีใครได้เงินสักคน ทำฟรีหมด

ยอมรับมีปัญหาภายใน
“(หัวเราะ) มันก็พูดยากครับ เราก็ไม่กล้าบอกว่าไม่มีหรอกครับ มันเป็นการพูดไม่ตรงความจริง คือมันก็มีปัญหาภายในกันแหละครับ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มีเรื่องตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง มันอาจจะมีคนไม่ไว้วางใจบ้าง เพราะฉะนั้นจะตอบว่าไม่มีก็คงไม่ใช่ แต่มันก็พอคุยกันได้”

กลัวหลังจากนี้จะได้งบสนับสนุนน้อยลง
“ผมกลัวนะ แต่คนอื่นไม่รู้ยังไง มะเดี่ยวกลัวไหมเราไม่รู้ เพราะเขาอาจจะอยู่วงในของ THACCA (ทักก้า) หรือซอฟต์พาวเวอร์ ไม่รู้นายกฯ เขาไปคุยยังไงต่อ แต่ผมกลัว พอเกิดเรื่องก็อาจจะเกิดความกังวลมากขึ้น แล้วงบประมาณที่จะมาถึงสมาคมมันอาจจะน้อยลง ก็กังวลอยู่ครับ”

การยื่นถอดถอน ร้ายแรงที่สุดคือยุบสมาคม แต่คิดว่าคงไม่เกิด
“ถ้าสุดท้ายมันทำอะไรไม่ได้ ร้ายแรงสุดก็ต้องยุบแหละครับ แต่ผมว่าไม่เกิด เต็มที่ได้ 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะเราชี้แจงได้หมด แต่ภาษากฎหมายนะบางที แม้แต่พระยังไม่รอด เราก็ไม่รู้มันยังไง (มั่นใจไม่มีการทุจริต?) ถ้าสมาคมผมมั่นใจ แต่นอกจากสมาคมไปแล้วผมไม่รู้ครับ ขอยอม ไม่กล้าการันตีแทนคนอื่น”

ทางออกเรื่องเงินตรวจสอบได้ แต่เรื่องภายในสมาคม ไม่รู้จะสมานยังไง
“เรื่องการชี้แจงเนี่ยเราหาทางออกได้ เพราะเราพูดความจริง ทุกอย่างตรวจสอบได้หมด เราจะเอามาให้ดู แต่เรื่องของภายในสมาคมเนี่ย ตอบไม่ได้เลยว่ามันขัดแย้งกันขนาดไหน เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องตรวจสอบ มันมีเรื่องลิขสิทธิ์หนังที่เป็นข่าวด้วย ก็มีการแบ่งทีมชัดเจนเหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง แต่เราคนกลาง เราไม่เทคไซด์ เรารักทุกคน อยากให้กลับมาเป็นเหมือนสมัยก่อน ยุคผมเป็นนายกฯ ทุกคนก็ยังรักกันดีนะ ยังสนุกกันอยู่ ตอนนี้ไม่รู้จะสมานเรื่องราวนี้ยังไงเหมือนกัน แต่คิดว่าจะพยายาม”

คาด “ต้อม ยุทธเลิศ” อาจจะมีความรู้สึกโดดเดี่ยว
“ก็อาจจะมีอื่นๆ ใดๆ มาจากความรู้สึกว่าทำไมมีแต่คนแบบว่า…เหมือนแกโดดเดี่ยว ใช้คำนี้ พอแกโดดเดี่ยวก็เลยรู้สึกว่าพวกสมาคมเป็นอะไรกันนะ ทำไมปล่อยให้แกโดดเดี่ยว มีปัญหาเรื่องนี้ทำไมถึงไม่ออกมาเทคแอ็กชั่นบ้าง (เรื่องพิง ลำพระเพลิง?) (หัวเราะ) ก็ประมาณนั้นแหละครับ ความขัดแย้งระหว่างพี่ต้อม-พี่พิง เขาอาจจะคิดว่าเขาโดดเดี่ยว เลยต้องมาทวงถามความยุติธรรมกับสมาคม แต่สมาคมก็ไม่อยากยุ่ง ผมเองก็ไม่ได้เข้าข้างใคร สมาชิกทุกคนก็คงคิดคล้ายๆ ผม เพราะถ้าเข้าข้างใครแล้วมันจะเป็นเรื่องการขัดแย้ง ว่าเป็นพรรคเป็นพวก”

ลิขสิทธิ์ “บุปผาราตรี” ไม่เข้าข้าง อยากให้เคลียร์กันเอง
“พอมันเป็นเรื่องกฎหมายไปแล้ว ผมว่าต้องให้เขาคุยกันเอง แล้วพอเขาแรงทั้งคู่ เราไม่มีคนที่มีพาวเวอร์พอที่จะไปสมานฉันท์หรือเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย เราไม่มีผู้ใหญ่ที่สองคนนี้ให้ความเคารพ แบบมาพูดปุ๊บทุกคนต้องยอม มีแต่รุ่นพี่ไม่กี่ปี แล้วเราก็เด็กด้วยซ้ำ มันก็ยาก ผมไม่เข้าข้างใคร ให้เขาเคลียร์กันเอง แต่ในใจลึกๆ ก็คิดว่าคงยาก เพราะว่าเขาแรงทั้งคู่ ให้กฎหมายตัดสิน”

สมาคมต้องคงอยู่ เพื่อทำให้คนรู้จัก ให้คนรักและกลับมาดูหนังไทยมากขึ้น
“สมัยก่อนเราตั้งสมาคมขึ้นมา เพื่อดูแลสมาชิกเป็นหลัก ใครเจ็บป่วย ใครตาย เราดูแลกัน แล้วก็เป็นตัวแทนเพื่อไปช่วยเหลืออุตสาหกรรมหนังทุกส่วน แต่ ณ วันนี้มันขยายไปไกลกว่านั้น คือให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ เป็นนโยบายของยุคหลัง ว่าจะต้องทำให้คนรู้จักและรักภาพยนตร์ไทยมากขึ้น สมาคมต้องคงอยู่ เพื่อทำตรงนี้ต่อไป ให้คนรักและกลับมาดูหนังไทยมากขึ้นครับ เรามีโครงการเยอะมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการส่งเสริมเหล่านี้ มันทำให้อุตสาหกรรมหนังไทยคึกคัก”

หนังทุนสูงไม่ได้การันตีความสำเร็จ แต่ก็มีโอกาสมากกว่าหนังทุนน้อย
“ไม่มีอะไรการันตีได้ ว่าหนังจะประสบความสําเร็จ ต่อให้หนังที่ลงทุนสูงมหาศาล ก็ไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จ แต่มันมีโอกาสมากกว่าหนังที่ลงทุนน้อยๆ เพราะอย่างน้อยมีเงินทุนโปรโมต แต่บางทีโปรโมตดี แต่บทไม่ดี คนก็ไม่ดู แต่ถ้ามีเงินมันทำได้ดีอยู่แล้วครับ พอมีเงินมันก็ทำอะไรได้ดีมากขึ้นครับ โปรดักชั่นมันจะดีขึ้นอยู่แล้วครับ”











กำลังโหลดความคิดเห็น