“ออย-บีม” ครอบครัวใหญ่ ไปไหนต้องใช้รถตู้ 2 คัน ลั่นหากไปร้านอาหารปิดโซนได้ก็จะปิด ถึงลูกยังเด็ก ก็ไม่มีอภิสิทธิ์ ไม่อยากให้รบกวนคนอื่น อยากมีเวลาอยู่ด้วยกันสองคนแต่ไม่ได้หวาน ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแยกกันนอน ประกาศไม่มีลูกเพิ่มอีกแล้ว บีมเผยอยากมีโมเมนต์จุ๊บเหมือน “ณเดชน์-ญาญ่า”
จากมีกันแค่สองคน ตอนนี้ครอบครัว “บีม กวี - ออย อฏิพรณ์ ตันจรารักษ์” กลายเป็นครอบครัวใหญ่มาก กระเตงกันไปไหนถึงขั้นต้องใช้รถตู้ 2 คัน เพื่อหนีบลูกแฝด “น้องธีร์-น้องพีร์” กับ “น้องอัยวา-น้องอัญญา” รวมถึงผู้ช่วย และอุปกรณ์ต่างๆ ของลูก งานนี้ออยบ่นอุบระหว่างมาร่วมงาน “ไข้หวัดใหญ่ ป้องกันง่าย ไม่งอแง” ณ อีเวนต์ฮอลล์ ชั้น 2 อาคาร B โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล (ศรีนครินทร์) อยากมีโมเมนต์สวีตกับสามีสองคน
ออย : “ไปไหนไปยกบ้านตลอด ถามว่าจัดการยากไหมเรียกว่าตอนนี้ไปจนชิน ถ้าย้อนไปสมัยก่อนจัดการยากมาก อันนั้นก็สำคัญอันนี้ก็สำคัญ รถคันนึงใส่ของไม่พอแทบจะต้องอุ้มแม้กระทั่งเครื่องอบขวดนมไป กะละมังอาบน้ำไป พอเราไปหลายๆ ทีเข้าเราก็รู้ว่าแค่ไหนพอ ไซส์มันก็เลยเล็กลง ไปไหนมาไหนทีตอนนี้ก็ใช้รถตู้ 2 คัน 1 คันอัดลูก+คาร์ซีท 4 ตัว ออย บีม คนขับ ผู้ช่วย 1 คนนั่งอยู่ข้างหลัง ตรงกลาง บางทีถ้าลูกไม่ไหว ออยก็จะปีนไปหา ออยจะมีเก้าอี้พับตัวน้อยกางอยู่ข้างหลังกับลูก อีกคันก็เป็นคันเก็บของตามไป พร้อมผู้ช่วยอีกกลุ่มนึง
จริงๆ ก็ไม่ได้ลำบากแล้วเพราะมันชิน แต่กว่าจะชินก็นานเหมือนกัน ตอนแรกเรามี 2 คนเริ่มชินพอมา 4 คนก็เหมือนปรับตัวใหม่อีกรอบนึง เรื่องที่นั่งอีกเด็กก็ต้องนั่งคาร์ซีท ก็กลายเป็น 4 ตัวพี่เลี้ยงนั่งไม่พอ ก็ต้องมีงอกมาอีกคันนึง”
รับอยากหาเวลาอยู่ด้วยกันสองคน
ออย : “แรกๆ มีแบ่งกันไป จริงๆ แล้วออยชอบไปกับบีม 2 คน แล้วบีมก็จะชอบบอกว่าเราพาลูกไปดีไหม”
บีม : “ลูกอยู่บ้านก็กลัวเขาจะเบื่อก็พาเขาไปเปิดหูเปิดตาบ้าง เขาใจว่าเขามีเวลาอยู่กับลูก แต่ว่าลูกอยู่แต่บ้าน ก็สงสารลูกไง เด็กก็เบื่อ บางทีเรากะจะออกไปแป๊บเดียว แต่ลูกเขาเดินตามมาแล้วเขาอยากไปด้วย บางทีเราก็ต้องให้เขาออกไปดูว่าคนข้างนอกเขาอยู่กันยังไงบ้าง”
ถึงเป็นเด็ก ก็ไม่มีอภิสิทธิ์รบกวนคนอื่น
ออย : ”แต่ออยอยู่กับลูกตลอดเวลา ก็อยากจะหาเวลาอยู่ด้วยกัน 2 คนบ้าง ไปกินข้าวกันแค่ 2 คนบ้าง เขาก็จะสวนมาเลยว่าพาลูกไปด้วยไหม พอเขาพูดพาลูกไปด้วยไหม ในหัวออยคือลิสต์ขึ้นมาทันทีว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง และก็จะระวังมากๆ ไม่ให้ลูกเราไปรบกวนคนอื่น ด้วยความที่เด็กเราเยอะ ก็รู้แหละเขาคือเด็ก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกเราจะไปมีอภิสิทธิ์สนุกเท่าไหร่ก็ได้ ก็จะเป็นห่วงว่าลูกเราจะไปรบกวนคนอื่นมากกว่า มันก็เลี่ยงไม่ได้ในการจะเกิดปัญหา”
บีม : “เวลาไปร้านอาหารถ้าเราสามารถเลือกโซนที่อยู่ห่างไกลจากคนหน่อยเราก็จะจัดไม่ว่าจะมุมสุด ในสุด หรือมีห้องแยก ด้วยความที่เรามีสมาชิกมาเยอะอยู่แล้ว เราก็สามารถปิดโซนได้สำหรับบ้านเรา เราไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไรนะ แต่เราก็ไม่อยากให้ไปรบกวนคนอื่น”
ออย : ”อีกอย่างที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือการ์ตูน แรกๆ จะให้เขานั่งโดยที่ไม่มีจอ จนมันสุดทางของเราแล้ว มันก็ต้องมีตัวช่วยเสริมถึงในใจจะปวดร้าวก็ตามที่ยื่นแท็ปเล็ตให้ลูก แต่มันเป็นทางออกไม่อย่างนั้นคนอื่นจะ…(ถอนหายใจ) รบกวนคนอื่น”
เผยข้อความจุดพลุ ปิดซอยเลี้ยง ไม่ได้หมายถึงมีลูกอีก บีมลั่นอยากมีโมเมนต์เหมือน ณเดชน์-ญาญ่า
บีม : “ไปเดินเล่นกันที่เอเชียทีค วันนั้นบรรยากาศสวยมาก พระอาทิตย์ใกล้จะตก ฟ้าที่ส้ม ความอยากได้รูปคู่ ปกติเขาจะไม่ยอมให้ถ่ายรูป เขาไม่ชอบสกินชิพ วันนั้นเขาให้หอมแก้มเลยรู้สึกว่ามันพิเศษ พอได้ภาพก็เลยโพสต์ โอกาสมันมีน้อยเราก็ต้องรีบตักตวงไว้ ตอนโพสต์ก็เขียนว่าจุดพลุ ปิดซอยเลี้ยง บางคนก็เข้าใจว่าเราจะมีลูกอีก ไม่ใช่นะ”
ออย : “ทำไมคนไปเข้าใจ ชอบคิดว่าเราจะมีลูกอีก เราเป็นผู้หญิงหัวโบราณ จะไม่ชอบให้มาสกินชิพ”
บีม : “คู่อื่นเขาก็ทำ โชว์บ้าง ณเดชน์ - ญาญ่า เขาก็มีโมเมนต์เม้าธ์ทูเม้าธ์ ผมก็เขียนบ้างเลยว่าคราวหน้าไม่รอด โดนแน่ ต้องจัดแบบนี้เลย ตอนนี้ผมก็พยายามหลอกล่ออยู่ เพราะอยากทำคลิปแบบเกาหลี ที่เขาทำปากยื่นมาจุ๊บกัน“
ออย : “บีมมาชวนทำคอนเทนต์ ออยไปบอกไม่เอา ไม่รู้สิ เขินมั้ง แต่ไหนแต่ไรเราก็ไม่ได้เป็นคนแสดงออกหรือโชว์อะไรอยู่แล้ว”
บีม : “วันนั้นที่ยอมทำไม่รู้อะไรเข้า วิญญาณแถวนั้นคงเข้าร่างเขา คือเขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว ยิ่งมีลูกยิ่งเป็น เราก็ต้องอาศัยรอจังหวะเขาเผลอแล้วก็รีบคว้า ก็ 2 ปีที่ผ่านมาที่มีลูกไง”
ออย : “เขินเพราะมีคนมาดูไง”
บีม : “มืดๆ เขาก็ไม่เอา”
มีเวลาอยู่ด้วยกันสองคน แต่ไม่ได้หวาน ใช้ชีวิตแยกกันนอน
บีม : “เวลาอยู่ด้วยกันเราก็มีอยู่ แต่ก็ไม่ได้หวานขนาดนั้นนะ เราใช้เวลาด้วยกันในตอนเช้า หลังจากส่งลูกไปโรงเรียนแล้วจากนั้นก็เป็นเวลาของเราสองคน เราก็จะไปหาอาหารเช้าอร่อยๆ กิน ออกกำลังกายด้วยกันบ้าง”
ออย : “เราพอจะมีเวลาประมาณ3 ชั่วโมงตอนเช้า ชานมไข่มุกจะเข้า เพราะหวาน”
บีม : “ถามว่าพอไหมผมว่าไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าถามเขาก็ต้องบอกว่าพอแล้ว”
ออย : “ถึงบ้านก็หมด ไม่มีหวาน ไหนจะอาบน้ำลูก เตรียมจัดกระเป๋าลูกไปโรงเรียน เดี๋ยวนี้ออยเปลี่ยนเวลาตื่นเป็น 04.30 น. จัดการตัวเองเสร็จ ลูกคนแรกจะตื่น 05.15 น. ก็จะอุ้มมาแปรงฟัน เช็ดตัว เปลี่ยนชุด กินนม จัดที่นอน แล้วก็อุ้มไปส่งพาขึ้นรถแล้วรับคนใหม่มาต่อ จนครบ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแยกกันนอน บีมนอนคู่แฝดชาย ออยนอนคู่แฝดหญิง ด้วยความเคยชิน เป็นกิจวัตรพอคิดว่าจะเอามารวมกัน มันไม่ไหว เด็กมันเยอะ แล้วเขาตื่นไม่พร้อมกัน นอนไม่พร้อมกัน คือเรายังไม่รู้จะหาแนวทางไหนเอาเขามารวมกันได้”
ยันไม่มีลูกเพิ่มอีกแล้ว แปลกใจคนยังเชียร์อยู่ เผื่อผีผลัก
บีม : “ไม่มีดีกว่า ผมงงมากคนเข้าใจว่าเราจะมีลูกอีก”
ออย : “อย่างที่ผ่านมาเราไม่ได้ตั้งใจให้กำกวมด้วย”
บีม : “คือในชีวิตมันมีเรื่องอื่นที่น่าสนใจมากกว่าการมีลูก มีเรื่องให้น่าดีใจมากกว่านั้นเยอะแยะ”
ออย : “ออยก็แปลกใจที่คนยังเชียร์อยากให้เรามีลูกเพิ่ม ก็อาจจะเพราะออยตอนสัมภาษณ์ออยไปตอบว่าจริงๆ ออยก็อยากมีเพิ่ม แต่มันไม่ไหวแล้ว หลายคนก็อาจจะคิดว่ามันเป็นปลายเปิดนิดนึง เผื่อผีผลัก”
