“มดดำ” รับสนิท “อ.อุ๋ย” 8-9 ปี แต่ไม่รู้เรื่องฉ้อโกง ไม่รู้ขายองค์เทพ ประกาศเลิกเชิญหมอดูออกรายการ ยกเว้น อ.ลักษณ์ - หมอช้าง - หมอปลา หากเกิดเหตุซ้ำ พร้อมลาออกวงการ! บอกอ่านคอมเมนต์แล้วน้ำตาไหล
ต้องยอมรับว่าพอมีเรื่องราวเกี่ยวกับผู้วิเศษออกมาในช่วงนี้ คนที่ถูกพูดถึงไปพร้อมๆ กันก็ต้องเป็นพิธีกรคนดังอย่าง “มดดำ คชาภา ตันเจริญ”ที่ทำรายการเกี่ยวกับเรื่องสายมูมานาน มีทั้งภาพและคลิปที่ไปเกี่ยวข้องกับหมอดูหลายๆ คนที่ทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุดก็คือกรณีของ “อ.อุ๋ย ชนิษฐา สัตย์ซื่อ” ที่กำลังเป็นประเด็นว่ามีผู้เสียหายออกมาเปิดเผยว่าโดนฉ้อโกงเรื่องการซื้อขายองค์เทพเป็นหลักหลายล้าน คนส่วนใหญ่เลยจับจ้องไปที่มดดำ บอกว่าเป็นสารตั้งต้นของการนำหมอดูออกมาให้สาธารณชนได้รู้จัก ทั้งเชิญมาออกรายการแฉ และรายการต่างๆ ของเจ้าตัวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในรายการข่าวใส่ไข่ช่วงเย็นที่ผ่านมา มดดำก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ บอกว่าน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทุกอย่าง และยอมรับว่าสนิทกันจริง
“ถ้าพูดถึงเรื่องอ.อุ๋ย พูดเลยว่าเป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว สนิทกันมาก เพื่อนกันก็เปิดไพ่ดูกันเล่นๆ แต่ตลอดระยะเวลาก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร เขาไปขายพระแม่ลักษมี อันนั้นยอมรับว่าไม่รู้ เขาไม่ได้บอก ถ้าเขาบอกก็ต้องมีเรารีวิวแล้วสิ มดดำกับเขาเป็นเพื่อนสนิทกันนะ แต่ตัวเราเองไม่ได้อะไรกับตุ๊กตุ่นตุ๊กตา มดดำจะไหว้แต่องค์พระพิฆเนศที่ห้อยติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยไปซื้ออะไรเพิ่มด้วยแต่ที่ผ่านมาก็เป็นเพื่อนกันมาตลอด
แต่วันนั้นยอมรับตรงๆ ว่าฉันเรียกนางเข้ามาเลย มาฟัง เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าในระหว่างทางที่ผ่านมาเธอไปทำอะไรมาบ้าง เพราะคบมา 8-9 ปีแรกๆ ก็ดูดวง ฉันเรียกเขามาฟังพุทธทอล์กพร้อมกันเลย ตัวเองก็ตกใจนะคะ เฮ้ย ทำไมมึงไปขายเขาแพงขนาดนั้น เพราะฉันเคยพูดเสมอว่า 1. อยู่กับฉันอย่าหลอกคน 2. อย่าเอาแต่ผลประโยชน์ หรือแม้กระทั่งมีรูปฉันไปดู คือเวลาดูฉันก็ลงไอจีอยู่แล้ว แต่คำว่าดูดวงของมดดำคือไปหลงรักใครเราก็ดู หรือเวลาที่มีปัญหาก็ดู เหมือนการคุยเล่นกันไม่มีอะไร และเป็นเพื่อนเที่ยวกันมาตลอด อันนี้ไม่ปฏิเสธ
แต่ขณะเดียวกันการกระทำที่บอกว่ามีการขายองค์อะไร มดดำพูดได้เต็มปากว่าเราไม่รู้ มันเป็นเรื่องส่วนตัว และไปทำธุรกิจมีแอดมินที่อเมริกา เราไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าจะบอกว่าคนรู้จักเขาก็เพราะมดดำ อันนี้น้อมรับทุกอย่าง ถามว่าที่ผ่านมาอ่านทุกคอมเมนต์ไหม อ่านคอมเมนต์ค่ะ และน้ำตาไหลเลย เพราะมันคือเรื่องจริง”
ประกาศชัด ถ้ามีการเอาหมอดูแปลกๆ มาออกรายการอีก พร้อมจะยุติทุกอย่างในวงการบันเทิง
“วันนึงเรามีเพื่อนและเราอยากจะโปรโมทเพื่อนเราออกทีวี แต่ปรากฎเราไม่รู้ว่าวันนึงเพื่อนของเราจะไปทำเลว ทำชั่วอะไร เราไม่รู้ แต่ช่วงที่ผ่านมาก็เอาออกทีวีจริง เพราะฉะนั้นยอมรับทุกอย่าง ไอ้ที่เขาจะด่ากันว่าสารตั้งต้น มดดำยอมรับและน้อมรับทุกคอมเมนต์ด้วย อันนี้พูดจากใจเลย
ที่บอกว่าน้ำตาไหลไม่ใช่เสียใจนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง เพราะฉะนั้นก็เลยปฏิญาณกับตัวเองเลยว่าไม่ว่าจะเป็นรายการแฉหรือคชาภาพาไปมู มดดำก็จะหยุดเรื่องพวกนี้ทุกอย่าง แต่ยกเว้นอาจารย์ลักษณ์ อาจารย์ช้าง ฉันไม่หยุดนะ เขาไม่ได้เป็นผู้วิเศษ อันนี้ก็ต้องบอกก่อน หรืออย่างหมอปลามาเล่าเรื่องผี มดดำก็ไม่หยุดนะ แต่หมายถึงว่าผู้วิเศษ หมอดูที่มาดูดวงอะไรก็แล้วแต่ จะหยุดทุกอย่างตั้งแต่วันนี้ไม่ว่าจะเป็นรายการใด
และที่สำคัญถ้ามีการเอาหมอดูแปลกๆ แบบนี้มาอีก มดดำขอหยุดอาชีพวงการบันเทิง มดดำชัดเจนอย่างนี้เลย เพราะที่ผ่านมาก็ไม่รู้จะรับผิดชอบยังไงกับสิ่งที่ตัวเองทำไป เพราะฉะนั้นก็คือขอโทษ (ยกมือไหว้)กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ขอโทษจริงๆ คือตัวเองก็ต้องมานั่งอ่านข่าวผู้วิเศษ จะต้องอ่านโน่นอ่านนี่ ไม่รู้สิ ได้แต่คำว่าขอโทษจากใจ ซึ่งคำว่าขอโทษครั้งนี้มันก็เป็นบทเรียนนะ แต่มันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขาเป็นเพื่อนเราไหม เขาเคยอยู่กับเราไหม ปฏิเสธไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องจริง ต่อไปนี้จะไม่มีมาแนะนำเพื่อนหมอดูอะไรอีก ไม่มีอีกแล้ว เอาง่ายๆ ฉันไม่เคยคิดว่ามันเป็นผู้วิเศษนะ ฉันเรียกไอ้ อี ฉันไม่เคยมาเรียกอาจารย์ ไม่ได้ขนาดนั้น”
ไม่ขอเข้าข้างคนผิด ขอให้ไปเคลียร์เรื่องของตัวเอง
“เอาจริงๆ วันนี้ปัญหาคือการขายองค์เทพ แต่ตัวมดดำเรียกว่าตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา ถ้าสมมติว่าดีจริงมดดำก็เอามารีวิวแล้วสิ เพราะฉะนั้นมดดำก็ไม่ได้สนับสนุน และมดดำก็บอกกับนางเลยว่ามึงรับผิดชอบกับสิ่งที่มึงทำนะ เพราะวันนี้คนที่เสียไม่ใช่แก คนที่เสียคือฉันเต็มๆ เลย เพราะมันมีรูปและคนรู้จัก เธอไปเคลียร์เรื่องของเธอให้จบนะ และถ้าสมมติวันนี้มีอะไรผิด ฉันไม่เข้าข้างคนผิดแน่นอน ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าเขาผิดก็เคลียร์ปัญหาชีวิตเขาเอง ไม่เกี่ยว แต่ถ้าวันนี้อยู่ดีๆ มดดำจะมาบอกว่าฉันไม่รู้จักเลย ก็คงไม่ใช่มดดำ วันนี้พูดจบก็ยังเป็นเพื่อนกันนะ เป็นเพื่อนกันปกติ แต่เรื่องที่เขาจะไปขายองค์เทพหรืออะไร คุณจะต้องไปเคลียร์ชีวิตคุณ ไม่เกี่ยวกับมดดำ มันคนละส่วนกัน
บางอย่างถ้ามันไม่จริงก็จะปล่อยผ่านไป เพราะเป็นคนไม่ออกอีเวนต์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไรอยู่แล้ว ก็จะอยู่ในเซฟโซนของเรา มีคอมเมนต์บอกว่าพ่อก็ปราบพระ จับพระไป ลูกก็สร้างแต่เรื่องงามหน้าอย่างนี้ ก็อ่านหมดนะคะ เราก็เจอกระแสอะไรมาเยอะนะ บางทีเราก็เลือกปล่อยผ่าน แต่เรื่องนี้เราไม่ปล่อยผ่าน เพราะเราทำจริง เป็นคนเอาเขามาออกรายการจริงๆ
ไปอ่านเพจอวยไส้แตกฯ เขาก็สอนมดดำเยอะนะ เขาบอกว่าวันหลังก็โทร.คุยกันเองสิ ทำไมไม่โทร.คุยกันเองล่ะ ทำไมจะต้องมาบอกให้สาธารณชนรู้ มันเหมือนไปสร้างความหวังให้กับคน วันที่คุณพุทธ อภิวรรณ เล่าว่ามีคนป่วยเป็นมะเร็ง มดดำรู้สึกผิดกับเรื่องนี้มากนะ มดดำเซนซิทีฟกับเรื่องนี้มาก เพราะย่าตัวเองก็ตายไปเพราะมะเร็ง วันนั้นชี้หน้าด่านางเลย ว่าเธอทำไมทำอย่างนี้ เรื่องโรคภัยไข้เจ็บนี่ไม่ได้นะ วันนี้มดดำก็ตอบอย่างชัดเจน เพราะมดดำก็ไม่มีโอกาสไปสัมภาษณ์กับใครอยู่แล้ว ชีวิตก็อยู่ในแต่สตูดิโอ ไม่ได้มีโอกาสไปเจอผู้เจอคนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ถือโอกาสพูดตรงนี้แล้วกันนะคะ”
