“ชมพู่ อารยา” ลั่นไม่กดดันเรื่องแฟชั่น แค่จุดทศนิยมเล็กๆ เผยเคล็ดลับแต่งตัวไว ไม่ง้อชาวเน็ต สามีชอบชวนคุยตอนแต่งตัว ต้องตัดบทสนทนา! หัวใจหลักครอบครัวคือการสื่อสาร-ทีมเวิร์ก
ถูกยกให้เป็นตัวแม่ตัวมัมที่ขับเคลื่อนแฟชั่นเมืองไทย สำหรับ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต”ล่าสุดชมพู่เปิดใจระหว่างมาร่วมงานแถลงข่าวการจัดงาน ELLE Fashion Week 2025 ลั่นตนเป็นแค่จุดทศนิยมเล็กๆ อายุขนาดนี้เลยจุดกดดันแล้ว
“ไม่หรอกค่ะ เป็นจุดเล็กๆๆ เป็นจุดทศนิยมเล็กๆมากๆ ยังต้องอาศัยพาร์ตเนอร์ทุกๆ คน เรื่องคนคาดหวังแฟชั่น เอาจริงๆ อายุขนาดนี้แล้วมันเลยจุดกดดันไปแล้ว เราทำมาหมดทุกอย่างแล้ว ด้วยงานด้วยอาชีพเรามันก็เอื้อให้เราได้ทดลองอะไรหลายๆ แบบ เรียกว่าเลยจุดกดดัน
เรารู้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร เทรนด์แฟชั่นมันก็วนๆ เป็นลูป เป็นเรื่องของอินสไปเรชั่น เหมือนเราทั่วๆ ไปที่มองอยู่ เราสามารถหยิบยกมาใช้ เราไม่ต้องไปวิ่งตามมันทั้งหมด เราเห็นอันนี้รู้สึกว่ามันได้นะ มันสะท้อนอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับตอนนี้ เวลานี้
แฟชั่นจากดีไซเนอร์เองก็ตามมันก็มาจากสิ่งรอบตัวที่มันกระทบเขาในตอนนี้ เวลานี้นั้นแหละแล้วมันก็ออกมาเป็นคอลเลกชั่น เราในฐานะคนที่เสพ คนที่ดูเราก็หยิบยกแรงบันดาลใจพวกนี้มาใส่ตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเอามาทั้งหมด วิ่งตามทุกอย่าง ก็ให้มันเป็นเรื่องของกระแส ภาพสะท้อนของเวลาตอนนั้น”
รับทุกวันนี้แต่งตัวแน่น แต่ไม่ได้แต่งเพื่อชาวเน็ต
”นี่ก็แน่นอยู่นะ ร้อนอยู่ เราไม่เหนื่อย เพราะเราไม่ได้แต่งตัวเพื่อชาวเน็ต เรามีความสุขในทุกๆ วันกับการที่เราหยิบจับอะไรมาใส่ เรารู้สึกว่ามันเข้ากับเรา มันโดนมู้ดเรา ณ วันนี้ และเหมาะสมกับโอกาส กาลเทศะ ทุกวันนี้ใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน ลูก 3 เนอะถ้าเป็นเมื่อก่อนก็วนๆ มันอยู่อย่างนั้นแหละ แต่งหน้าเป็นชั่วโมง เสื้อผ้าก็ลองเข้าลองออก สภาพห้อง เดินออกจากห้องคือดูไม่ได้
เดี๋ยวนี้ชมลดทอนอะไรไปเยอะมาก คิดเร็ว ตัดสินใจเร็วขึ้น ด้วยอายุและประสบการณ์ มันทำให้เรารู้และเข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้ว่าอะไรเหมาะกับเรา เราไม่สามารถจะแต่งตัวเป็นชั่วโมงๆ ได้อีกแล้ว”
“น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” สามีชอบขัดตอนแต่งตัว จนพยายามตัดบทสนทนา โชคดีเข้าใจ ไม่เคยงอน
“ตอนนี้บางทีก็ยังเป็น สามีจะชอบเดินมาดีฟทอล์ก จะมาอะไรตอนนี้ ก็มีเหมือนกันบางทีแกเหมือนนึกอะไรได้ มีเรื่องจะคุยแต่เรากำลังแต่งตัว เรากำลังรีบ เวลาเราไม่ได้มีเหมือนเมื่อก่อนตอนสาวๆ เวลาที่เราใช้ในการอาบน้ำแต่งตัวมันน้อยแล้วแกจะมาชวนดีฟทอล์กอีก ก็จะต้องพยายามตัดบทสนทนา บอกรีบอยู่ๆ เขาก็เข้าใจ ไม่งอน คือถ้าแต่งตัวอยู่ไม่สามารถจริงๆ
เราก็คุยปกติเหมือนครอบครัวทั่วๆ ไป มันก็ต้องอัปเดต ต้องคุย เป็นพ่อแม่คนเราก็เหมือนมีโปรเจกต์ร่วมกันมันเป็นทีมเดียวกันก็ต้องคุยกัน ก็คุยกันตอนลูกหลับ หรือไม่ก็ช่วงที่นั่งรถไปด้วยกัน ทานข้าวบ้าง ที่คุยกันเยอะจริงๆ คือช่วงเดินทาง เวลาเราเดินทางมันก็จะสโลว์ไลฟ์หน่อย มีเวลาได้ถกกันเยอะ”
หัวใจหลักครอบครัวคือการสื่อสารและทีมเวิร์ก
“เขาก็ต้องช่วยสิ ชมว่าในทุกๆ ความสัมพันธ์การสื่อสารเป็นหัวใจอยู่แล้ว ส่วนที่เข้าใจมันก็เข้าใจ แต่เราคือทีมเวิร์กมันต้องคุยกัน”
