เวที Emmy Awards 2025 เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ Adolescence กวาด 8 รางวัลใหญ่, The Pitt พลิกชนะดราม่ายอดเยี่ยม, ขณะที่ The White Lotus ชวดเกือบหมดได้เพียงรางวัลเดียว
งานประกาศรางวัล Emmy Awards 2025 เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์และการพลิกความคาดหมาย โดยซีรีส์สัญชาติอังกฤษ Adolescence กลายเป็นผู้ชนะยิ่งใหญ่ กวาดไปถึง 8 รางวัล รวมถึงรางวัลซีรีส์ลิมิเต็ดยอดเยี่ยม (Best Limited Series) ส่วน The Pitt ซีรีส์ดรามาแพทย์ที่ถูกเปรียบว่าเป็น ER ยุคใหม่ พลิกชนะคว้ารางวัลซีรีส์ดรามายอดเยี่ยม (Best Drama Series) ไปอย่างเหนือความคาดหมาย
ขณะที่ The White Lotus ซึ่งเข้าชิงถึง 23 สาขา กลับได้รางวัลเพียงหนึ่งเดียวคือ เพลงไตเติ้ลเปิดยอดเยี่ยม (Original Main Title Theme Music)
“Adolescence” กระแสแรง สะท้อนสังคม
Adolescence ซึ่งออกอากาศทาง Netflix เล่าเรื่องเด็กชายวัย 13 ปี ถูกจับในข้อหาฆาตกรรมเพื่อนร่วมชั้นหญิงด้วยมีด ซีรีส์สะท้อนด้านมืดของพิษสังคมชายเป็นใหญ่และข้อความอันตรายที่เยาวชนได้รับจากสมาร์ตโฟนและโซเชียลมีเดีย จนจุดกระแสถกเถียงไปทั่วโลก ซีรีส์นี้ยังสร้างสถิติยอดชมกว่า 140 ล้านครั้งใน 3 เดือนแรก โดยแต่ละตอนถูกถ่ายทำแบบลองช็อต (single take) ทั้งตอน
สตีเฟน แกรม หนึ่งในผู้สร้างและนักแสดงในบทบิดาของเด็กผู้ต้องสงสัย กล่าวว่า “เราไม่เคยคาดคิดว่าซีรีส์เล็ก ๆ ของเราจะสร้างผลกระทบได้มากมายขนาดนี้”
รางวัลการแสดงยังตกเป็นของนักแสดงวัย 15 ปี โอเวน คูเปอร์ ที่คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม กลายเป็นนักแสดงชายที่อายุน้อยที่สุดที่เคยชนะรางวัล Emmy
“The Pitt” คว้าดราม่ายอดเยี่ยม
The Pitt เล่าเรื่องการทำงานในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในเมืองพิตต์สเบิร์ก โดยทั้ง 15 ตอนเกิดขึ้นภายในกะทำงานที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความกดดัน ประเด็นที่ถูกนำเสนอครอบคลุมตั้งแต่สิทธิการทำแท้งไปจนถึงเหตุกราดยิง
โนอาห์ ไวลี คว้ารางวัลนักแสดงนำชายดรามายอดเยี่ยมจากบทหัวหน้าห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยบาดแผลทางใจ พร้อมกล่าวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ขณะที่แคทเธอรีน ลาแนซา ได้รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
แม้ก่อนงานจะมีการคาดการณ์ว่าซีรีส์ไซไฟ Severance ที่เข้าชิงสูงสุด 27 สาขาจะมาแรง แต่สุดท้ายรางวัลใหญ่ตกเป็นของ The Pitt โดยนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นของบริท โลเวอร์ และทราเมลล์ ทิลล์แมน คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
“The Studio” ครองสายคอเมดี้
ฝั่งซีรีส์คอเมดี้ The Studio ผลงานเสียดสีวงการฮอลลีวูดที่ร่วมสร้างโดย เซธ โรเกน กวาดรางวัลรวม 13 สาขา ทำลายสถิติเดิมในหมวดคอเมดี้ พร้อมคว้าซีรีส์คอเมดี้ยอดเยี่ยม โรเกนยังชนะรางวัลนักแสดงนำชายคอเมดี้ยอดเยี่ยม และได้รางวัลด้านเขียนบทและกำกับ
ด้านนักแสดงนำหญิงคอเมดี้ยอดเยี่ยมตกเป็นของจีน สมาร์ต จาก Hacks ซึ่งถือเป็นรางวัล Emmy ตัวที่สี่ของเธอ ขณะที่ฮันนาห์ ไอน์บินเดอร์ คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงคอเมดี้จากบทผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์
การเมืองปะปนเวที
แม้ผู้จัดจะพยายามหลีกเลี่ยงประเด็นการเมือง แต่ไอน์บินเดอร์ใช้เวทีประกาศรางวัลโจมตีหน่วยงานผู้อยู่เบื้องหลังการกวาดล้างผู้อพยพของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมตะโกน “Free Palestine” โดยสถานี CBS ต้องปิดเสียงคำหยาบกลางรายการ
อีกหนึ่งโมเมนต์คือ The Late Show with Stephen Colbert คว้ารางวัลวาไรตี้ทอล์กโชว์ยอดเยี่ยม ก่อนที่รายการจะปิดตัวในปี 2026 ท่ามกลางกระแสข่าวโยงกับการยุติคดีระหว่างบริษัทพาราเมาท์กับทรัมป์
พิธีกร เนต บาร์กัตเซ กับกติกาใหม่
พิธีกรงาน Emmy ปีนี้ เนต บาร์กัตเซ สร้างสีสันด้วยกติกาใหม่ไม่เหมือนใคร เขาประกาศจะบริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับองค์กร Boys & Girls Clubs of America
กติกาคือ หากผู้ชนะขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์เกินเวลา 45 วินาที จะถูกหักเงินออกครั้งละ 1,000 ดอลลาร์ต่อวินาที แต่ถ้าพูดสั้นกว่านั้นจะได้เพิ่มคืนกลับเข้าไป ทำให้การประกาศรางวัลครั้งนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและเสียงหัวเราะตลอดทั้งคืน
