“คุณชายอดัม” เปิดตัวซีรีส์แนว Girls’ Love เรื่องแรก Two Nights Universe กับนักแสดง 12 คน เน้นรูปแบบซีรีส์แนวตั้ง สั้น 5 นาที เผยอยากลองสิ่งใหม่หลังทำค่ายมานาน 6 ปี ชูจุดเด่นสร้างจักรวาลตัวละครแบบหนังมาร์เวล
แม้จะคลุกคลีอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตสื่อบันเทิงมาแล้วทุกรูปแบบ ทั้งในฐานะผู้กำกับ ผู้จัด และโปรดิวเซอร์ แต่ล่าสุด “หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล”หรือ “คุณชายอดัม” ก็ขอลองทำในสิ่งใหม่ๆ เพิ่มอีก อย่างการทำซีรีส์แนว Girls’ Love เป็นครั้งแรก กับโปรเจกต์ “Two Nights Universe”ที่จะนำเสนอผ่านการประคองความสัมพันธ์ของตัวละคร 6 คู่ 6 เรื่อง ในรูปแบบ (Structure) ซีรีส์แนวตั้ง ความยาว 5 นาที
โดยเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ในงานแถลงข่าวเปิดตัวนักแสดงทั้ง 12 คน ณ TRUE ICON HALL, 7th FLOOR, ICONSIAM คุณชายอดัมก็ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อ ถึงเหตุผลที่โดดมาทำซีรีส์เกิร์ลเลิฟเป็นครั้งแรก ว่าเป็นเพราะอยากทดลองทำในสิ่งใหม่ๆ หลังเปิดค่ายมานานกว่า 6 ปีแล้ว
“ถามว่าทำไมถึงทำเรื่องนี้ เพราะมีความอยากทำ เราทำซีรีส์มาหลายอย่างแล้ว ก็อยากจะทดลองสิ่งใหม่ๆ อยากลองทำบอยเลิฟ เกิร์ลเลิฟ ซึ่งไม่เคยลองมาก่อนแล้วก็มีน้องๆ อยู่ในบ้านเยอะมากที่เป็นสาวๆ เราก็รู้สึกว่าอยากจะทดลองงานใหม่ๆ กับเขา และอยากจะลองทำงานที่เป็นไมโครดรามา ซีรีส์สั้น ซีรีส์แนวตั้งบ้าง เพราะว่ายังไม่เคยทำงานตรงนี้
ถ้าใครอยู่กับผมมานานพอจะรู้ว่า 20 ปีก่อน ผมทำอินเตอร์เน็ตทีวีเป็นเจ้าแรกๆ ในประเทศไทย แล้วเราก็อยากจะกลับมาทดลองด้านนิวมีเดียอีกครั้ง หลังจากไปทำภาพยนตร์ทำซีรีส์มานาน แล้วก็อยากจะเอาศาสตร์ที่เราไปท่องยุทธจักรมาจำนวนมากมารวมกัน แต่ท้ายที่สุดสิ่งสำคัญก็ยังอยากจะเล่าเรื่องราวของผู้คนหรือมนุษย์ที่ยังสะท้อนภาพของสังคมไทยอยู่ครับ”
เล่าที่มาคอนเซ็ปต์ Two Nights Universe เพราะอยากเล่าเรื่องราวในระยะ 2 คืน
“คือเราอยากให้เรื่องมันสั้นอยู่ในระยะ 2 คืน เพราะผมเชื่อว่าเรื่องราวในปัจจุบันมันเดินเร็ว โลกมันตัดสินใจเร็ว สิ่งต่างๆ มันมีผลของมันเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เราเลยสร้างโจทย์ให้ตัวเอง ไม่อยากให้โจทย์มันกว้างหรือมันยาวหรือมันมีเวลาที่แบบเป็นอาทิตย์เป็นปี เราเล่าเรื่องแค่ 5 นาทีต่อตอน 10 ตอนเนี่ยถ้าเล่าเรื่องผ่านไปเป็นปี ผมรู้สึกว่ามันยาวเกินไป ผมเลยอยากให้มันอยู่ในระยะที่คนรู้สึกว่ามันกระตุ้นต่อมของความอยากหรือการตัดสินใจบางอย่างมีระยะเวลาที่จำกัดจำเขี่ยพอสมควรได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นการกระตุ้นให้ตัวละครทำอะไรบางอย่างได้ดีขึ้นครับ”
ทั้ง 6 เรื่อง จะเป็นการสร้างจักรวาล คล้ายกับหนังมาร์เวล
“ณ เวลานี้เป็นช่วงต้นของการสร้างจักรวาลนี้ ตัวละครแต่ละตัวจริงๆ แล้วต่อไปมันจะมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น แต่ว่าตอนนี้เราต้องการสร้างให้น้องๆ ทั้ง 12 คนเป็นที่รู้จักก่อน แล้วก็จะมีเรื่องเส้นทางเดินของตัวเองก่อน ลองคิดเหมือนจักรวาลมาร์เวลครับ ทุกคนมีหนังของของตัวเองก่อน เป็นไอรอนแมน เป็นกัปตันอเมริกา แต่ท้ายสุดมันจะมีอเวนเจอร์ของมันอยู่ครับ”
ศักยภาพของน้องๆ ทั้ง 12 คน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีซีรีส์เกิดขึ้น
“คัดเลือกไม่ได้คัด จักรวาลเริ่มต้นจากการที่มีน้องๆ ไม่ใช่ว่าน้องๆ มาหลังจากจักรวาลเกิด เราทำงานกับน้องๆ เรารู้จักน้องๆ มากพอที่จะรู้สึกว่า น้องทุกๆ คนมีศักยภาพ คุณภาพ มีความสามารถ มีความพร้อม ถึงแม้ว่าน้องจะบอกว่าหนูยังไม่พร้อมด้วยซ้ำ แต่ผมเชื่อ ความเชื่อเป็นสิ่งสำคัญ เชื่อในศักยภาพของคน เราทำงานกับนักแสดงจะเห็นว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทำงานกับนักแสดงใหม่จำนวนมาก พี่ๆ นักข่าวทุกคนก็เห็นตั้งแต่ยุคดั้งเดิมมาเลย แล้วทุกๆ ครั้งผมเชื่อว่าน้องๆ ทุกๆคนต้องการแรงสนับสนุนที่ถูกต้อง ผมก็เชื่อว่าผมอยากเป็นแรงนั้นครับ”
ไม่ได้คาดหวังอะไร นอกจากการทำงานให้ออกมาดีที่สุด
”ผมว่าผมอยู่กับน้องๆ ในค่ายมา 6 ปีแล้วครับ ผมว่าผมอยู่ยาวกว่าค่ายเกิร์ลเลิฟจำนวนมากเยอะมาก เบื้องหลังการอยู่กับสาวๆ มันเป็นเรื่องที่ปวดหัวมากนะฮะ แต่วันแต่ละอย่าง ต้องทำหน้าที่เป็นพ่อเป็นแม่ด้วย ผมเชื่อว่าการรันค่าย… คือหลายๆ คนเริ่มจากซีรีส์ก่อน แล้วมารันค่ายทีหลัง แต่ผมรันค่ายมาเป็นเวลายาวนานแล้ว แล้วค่อยมาทำซีรีส์เกิร์ลเลิฟทีหลัง เชื่อว่าการทำซีรีส์ทุกเรื่องเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น บอยเลิฟ, เกิร์ลเลิฟ หรือชายหญิง ไม่ว่าจะเป็นแนวไหน สิ่งสำคัญคือเรื่องมันดีหรือไม่ เราทำให้มันดีในทุกๆ ศาสตร์ ใช้ไวยกรณ์ของภาพยนตร์ได้ดีหรือไม่ เราสามารถทำให้นักแสดง ทำให้คนเชื่อได้จริงหรือเปล่า ไม่ต่างกัน
แต่ในส่วนของค่าย ผมเชื่อว่าประสบการณ์ 6 ปี กับความวุ่นวายของน้องๆ และการที่น้องๆ ช่วยกันประคับประคอง มีดี มีร้าย มีขึ้น มีลง มันผ่านกันมาเยอะก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นผมเชื่อว่าเขี้ยวลากดินกันทุกๆ ท่านแล้ว น้องทุกๆ คนโปรกันหมดแล้ว ดังนั้นอย่างที่บอก ค่ายเกิร์ลเลิฟเกิดขึ้นหลังจากซีรีส์เกิด แต่ผมค่ายเกิดก่อนมานาน มันก็จะแตกต่างหมดเลยโดยสิ้นเชิง คนอื่นทำซีรีส์ยาว ผมทำซีรีส์สั้น
ผมทำเกิร์ลเลิฟหลังมีค่ายเป็นสาวๆ ทั้งนั้นเลย คนอื่นเขาประกาศแคสฯ แล้วค่อยทำ ไปหา IP (Intellectual Property) มา ส่วนเราแต่ง IP เอง แทบจะพลิกทุกอย่างที่เป็นตำราการทำเกิร์ลเลิฟปกติ แต่ถามว่าทำได้ไหม ถ้ามันดี ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำ ต้องทำให้ดีที่สุดความคาดหวัง ไม่ได้คาดหวังสิ่งอื่น คาดหวังตัวเอง คาดหวังว่าพวกเราจะทำงานให้ดีเสมอ ทุกๆ งานที่ผ่านมา ทุกท่านที่เคยสัมภาษณ์จะรู้ ว่าเราจะส่งมอบงานที่ดีที่สุดให้กับผู้ชมในทุกๆ ครั้งครับ”
