"แพรรี่" เคลียร์ใจเรื่อง "สมปอง" เผยให้เงิน 1 แสนเพราะสมปองขอ มีหนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ายืมเงินบริจาควัดต้องรับผิดชอบตัวเองให้ได้
เกือบมีเรื่องให้อดีตพส.สุดฮอตอย่าง "แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร" กับ "สมปอง นครไทสง" ต้องขัดเคืองใจกันซะแล้ว กับกรณีที่สมปองโดนแฉว่าไปยืมเงิน "ทิดอลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุจำนวนกว่า 13 ล้าน และสมปองก็พูดกลางรายการโหนกระแสว่าน้อยใจแพรรี่ที่ไม่มั่นใจในตน ซึ่งแพรรี่ก็บอกว่าที่ต้องออกมาพูดเพราะตอนแรกมีพาดพิงถึงตนด้วย และยืนยันได้ว่าตนไม่เคยยืมเงินทิดอลงกตแน่นอน เพราะเคยเจอแค่ครั้งเดียว
"หนูต้องพูด ไม่พูดก็ไม่ได้ เพราะตอนที่มีข่าวอักษรย่อดันมีชื่อหนูด้วย มี พ. มี ส. แต่หนูรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่หนูหรอก เพราะหนูไม่เคยยืมเงินพระอลงกต หนูเจอเขาครั้งเดียวตอนเป็นพระตอนที่เขามารับบิณฑบาตรที่วัดสร้อยทอง แต่ไม่เคยคุยกับท่านเป็นการส่วนตัว แต่พอเป็นเคสพี่ชายเรา ต่อให้เราไม่พูดก็ไม่ได้แล้ว เพราะคนจะว่าอ้าวพี่ชายมึงว่ายังไง ทีเรื่องคนอื่นมึงปากแจ๋วจังเลย เรื่องพี่ชายมึงเข้าข้างกันเหรอ รู้กันมั้ย ส่วนแบ่งหรือเปล่า เขายืมมาแบ่งให้มึงด้วยมั้ย (หัวเราะ) เราก็จำเป็นต้องออกมาพูด แต่เราพูดด้วยความเป็นธรรม เรารู้แค่ไหนก็พูดแค่นั้น เราพยายามจะยืนยันว่าพี่เราเล่าให้เราฟังแค่ไหนเรื่องอะไรบ้าง เราก็พูดให้ฟังหมดเลย"
"แต่ลึกๆ ไม่รู้ว่าเขาเอาไปใช้ทำอะไร ก็เพื่อความเป็นธรรมของหนู หนูมาสนิทกับพี่สมปองจริงๆ ช่วงที่เป็นพระ คืออยู่วัดเดียวกันก็จริง แต่โอกาสเจอกันน้อยมาก เพราะก่อนโควิดพี่ปองเขาทำงานทุกวันจริงๆ พระรูปอื่นออกบิณฑบาตร แต่พี่ปองต้องออกเทศน์ เพราะเขามีเทศน์ทุกวันจริงๆ อันนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขา จะมาสนิทกับเขาก็ช่วงเป็นพระสงฆ์ เพราะมีโควิดไปไหนไม่ได้ก็ถูกขังอยู่ในวัด ก็เลยมาไลฟ์สดกัน จนเกิดตำนานพส. และเรื่องที่ไปยืมตังค์ เขายืมก่อนหน้านี้แล้ว ยืมก่อนหน้าที่จะมารู้จักหนูอีก และเขาอ้างว่าเขาดูแลแม่ ตอนนั้นแม่ป่วยด้วย แล้วก็เหมือนไปกู้หนี้นอกระบบ ตอนนั้นเขาทำสวนยางที่เป็นข่าวไป และสุดท้ายก็ทำไม่ไหว"
บอกที่ "สมปอง" มีเงินไปคืนหลักแสน หลักล้านได้ เพราะรับเทศน์ รับงานบรรยายเยอะ
"ถามว่าพระเป็นหนี้ ไปหยิบยืมเงินคนอื่นได้ด้วยเหรอ ปกติมันไม่ควร เพราะเราก็ไม่ได้มีเรื่องที่จะต้องยืมเงินกันขนาดนั้น เขาก็ไม่ได้มายืมเงินหนู มันเป็นการคุยกันระหว่างพี่น้อง หนูเป็นคนเอ่ยปากเองว่า ถ้าเขามีหลานเดี๋ยวหนูให้รับขวัญหลานแสนนึง แล้วมันมีช่วงที่เขาอาจจะช็อตหรืออะไร เขาก็แกล้งบอกว่าขอก่อนได้มั้ยแสนนึงน่ะ หนูก็บอกว่าได้ แล้วก็ให้เลย เป็นการให้แบบไม่ต้องมาหยิบยืมกัน ถามว่าตอนเป็นพระทำไมพี่ปองถึงมีเงินไปคืนขนาดเป็นแสนเป็นล้านขนาดนั้น คือถ้าเป็นรูปอื่นไม่น่าจะมี แต่ถ้าเป็นพี่ปองเขาก็ยอมรับมาตลอดนะว่า ตอนเขาบรรยาย เขาก็มีเรตบรรยาย และเขาก็เสียภาษี ฉะนั้นตอนที่ยังไม่มีโควิด ตอนที่เขาบรรยายมันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะมีเงินที่ไปคืนทีละแสนทีละอะไรที่เขาบอก ก็เป็นไปได้ เพราะเขารับงานบรรยายทุกวัน"
เป็นหนี้เป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่เกี่ยวข้องเงินวัด
"หลังจากเกิดเรื่องนี้ก็ได้คุยกันเลย พอออกรายการโหนกระแส พี่ปองก็พูดในรายการทำนองว่าน้อยใจหนู หนูก็เลยต้องรีบเคลียร์กัน แล้วพี่ปองก็ชวนหนูขึ้นไลฟ์ แล้วก็คุยกัน หนูก็ต้องพูดเป็นกลาง จะให้หนูไปพูดในส่วนที่หนูไม่รู้ก็เป็นไปไม่ได้หรอก ก็ต้องพูดในส่วนที่หนูรู้ แต่ความเคารพนับถือยังเหมือนเดิม หนูยังเห็นเขาเป็นพี่ชายเหมือนเดิม การเป็นหนี้เป็นเรื่องปกตินะ ถ้าสมมติว่าหนี้ก้อนนี้เป็นเงินส่วนตัวระหว่างกันไม่ได้เกี่ยวกับเงินบริจาค แต่ถ้ามันไปเกี่ยวข้อง หรือถ้าพี่เขามีความเป็นผู้ใหญ่มากพอเขาก็ต้องรับผิดชอบตัวเองได้"
"เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรนะ เพราะล่าสุดเขาก็มีทีมทนายไปที่สอบสวนกลางแล้ว เอาเอกสารหลักฐานไปยื่นแสดงความบริสุทธิ์แล้วว่าไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นเงินวัด คิดว่าเป็นเงินหลวงพ่อ คิดว่าหลวงพ่อน่าจะมีเงิน เขาอ้างว่าอย่างนี้ การมองว่าพระเป็นอาชีพไม่ผิด แต่อาชีพของพระคือเป็นภิกษุ คุณเป็นภิกษุคุณไม่ต้องทำงาน คุณอยู่ได้ คนให้ข้าวให้น้ำคุณฉันได้ แต่คุณต้องปฏิบัติอยู่ในกรอบความเป็นภิกษุ คุณไปทำอาชีพเกินกว่านี้ไม่ได้ ไปยักยอก ไปโกงเงิน ฟอกเงินไม่ได้"
