xs
xsm
sm
md
lg

กระทรวงยุติธรรมตอกย้ำความสำเร็จ คุ้มครองพยานปลอดภัย 100% ตลอด 22 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “22 ปี กฎหมายคุ้มครองพยาน ยืนหยัด เคียงคู่กระบวนการยุติธรรมไทย” เพื่อเป็นการประกาศถึงความสำเร็จตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของกฎหมายฉบับนี้ว่า เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจให้กับพยานบุคคล ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการขับเคลื่อนความยุติธรรมของประเทศ

สำหรับภายในงานดังกล่าวมี นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นผู้กล่าวรายงานกระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ แถลงความสำเร็จการบังคับใช้ พระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่มีผลบังคับใช้มากว่า 22 ปี ยืนยันบทบาทสำคัญของกฎหมายดังกล่าวในการสร้างความมั่นใจให้พยานบุคคล ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่เริ่มใช้กฎหมาย จนถึงปัจจุบันมีพยานเข้าสู่โครงการคุ้มครองพยานแล้วกว่า 1,630 เรื่อง รวม 3,193 ราย โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการคุ้มครองพยาน ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมราชทัณฑ์กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. สำนักงาน ก.ก.ต. โดยพยานทุกคนได้รับความปลอดภัย 100% และได้รับคำชื่นชมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเป็นพยานที่มีคุณภาพ สามารถให้การตามข้อเท็จจริงโดยไม่ถูกแทรกแซงจากภายนอก โดยมีผลงานเด่นในรอบ 22 ปี ได้แก่

•การคุ้มครองพยานคดีค้ามนุษย์ (เช่น คดีแก๊งนกฮูก คดีค้ามนุษย์เกาหลี และสแกมเมอร์)
•การคุ้มครองพยานคดีความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ (คดีระเบิดบิ๊กซีปัตตานี)
•การคุ้มครองพยานคดีทุจริต (เช่น คดีฟุตซอล)
•การคุ้มครองพยานคดีเลือกตั้ง (การเลือกตั้งท้องถิ่น)

ด้าน พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า “การคุ้มครองพยานคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนความยุติธรรมของประเทศ เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการ “ลับ รวดเร็ว ปลอดภัย” เพื่อให้พยานทุกคนมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด อันเป็นไปตามนโยบาย “ความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความยุติธรรมนำประเทศ” 22 ปี ของกฎหมายคุ้มครองพยานในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเรื่องล้าสมัย แต่กลับเป็นความก้าวหน้าและมีพัฒนาการไปข้างหน้าแบบ “มีความหวังและสดใส”

ทิศทางอนาคต ในอีก 10 ปีข้างหน้า งานคุ้มครองพยานของไทยจะถูกยกระดับสู่มาตรฐานสากล ผ่านการบูรณาการ การทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับภัยอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมทั้งพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากรทั่วประเทศและนำเทคโนโลยีความปลอดภัยสมัยใหม่มาเสริมประสิทธิภาพการทำงาน

ภายในงาน “22 ปี กฎหมายคุ้มครองพยาน ยืนหยัด เคียงคู่กระบวนการยุติธรรมไทย” ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ กิจกรรมภายในงานที่จัดขึ้นภายใต้ แนวคิด : “Voice of the shadow.” โดยเปรียบเทียบการเป็นพยานเหมือนผู้ที่ต้องอยู่ในเงามืด ปิดบังตัวตนเพื่อความปลอดภัย แต่สามารถบอกเล่าเรื่องราวความจริงเพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับสังคม รวมถึงยังมีนิทรรศการ และกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น

นิทรรศการพัฒนากฎหมาย นำเสนอเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองพยาน อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และประสิทธิภาพในการใช้บังคับให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด

นิทรรศการแสดงความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการการประสานและร่วมมือกับหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานและในด้านข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองความปลอดภัยของพยาน

การเสวนาหัวข้อ “22 ปี กฎหมายคุ้มครองพยาน ยืนหยัด เคียงคู่กระบวนการยุติธรรมไทย” โดยผู้ร่วมเสวนา ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พันตำรวจโทธัญญะ ระย้า ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองพยาน และนายไพฑูรย์ สว่างกมล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองพยาน

สำหรับประชาชนที่มีความสนใจ และต้องการสอบถามข้อมูลหรือข้อสงสัยต่างๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านช่องทางเว็บไซต์ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามผ่านสายด่วนยุติธรรม โทร 1111 กด 77 หรือ สถานีตำรวจทั่วประเทศ ศูนย์ปฏิบัติการคุ้มครองสิทธิคดีค้ามนุษย์จังหวัดกระบี่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครพนม และจังหวัดลำพูน









กำลังโหลดความคิดเห็น