“ทนายเกิดผล” เล่าเรื่องที่ไม่เคยเปิดที่ไหน เคยเตือน “หลวงพ่ออลงกต” เรื่องฟอกเงิน ชี้พฤติกรรมเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน อึ้งปิดบังข้อมูล ไม่ให้บอกเรื่อง “หมอบี” ทำผิด ไม่เข้าใจทำไมเปลี่ยนชื่อ แอบอ้างการศึกษา สุดผิดหวัง เหมือนโดนหลอก
รายการ โหนกระแส วันที่ 26 ส.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 ได้เกาะติดเหตุการณ์ “หลวงพ่ออลงกต” วัดพระบาทน้ำพุ และ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ถูกตร.จับแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยวันนี้ “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” ได้เปิดใจในฐานะเคยเป็นที่ปรึกษาวัดพระบาทน้ำพุ แต่สุดท้ายต้องถอนตัวออกมา
พี่เกิด รู้เรื่องหลวงพ่อถูกจับเมื่อไหร่?
ทนายเกิดผล : เมื่อเช้าครับ แต่ผมทราบข่าวแล้วว่ามีหมายจับตั้งแต่เมื่อวาน แต่ผมคิดว่าทำไมไม่จับตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อเช้ามาก็มีข่าวว่าถูกจับแล้ว
ตกใจมั้ย?
ทนายเกิดผล : ผมไม่ตกใจ ผมคิดอยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งหลวงพ่อกับหมอบีจะต้องถูกจับอยู่แล้ว ผมเคยพูดและเคยบอกทุกคนที่เกี่ยวข้องว่าเรื่องนี้กองปราบมีข้อมูลเพียงพอ จากประเมินข้อมูล หลักฐาน ข้อเท็จจริง ผมเห็นโทษมันสูง ไม่น่าเป็นหมายเรียก น่าจะหมายจับนี่แหละ ทั้งพูดส่วนตัวและพูดในที่ประชุม
ตอนในที่ประชุม พี่พูดอะไรบ้าง พี่ไม่เคยเปิดที่ไหน อยากให้เปิดเผยตรงนี้?
ทนายเกิดผล : วันประชุมกัน ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดนะ แต่ฟังจากข่าวว่ามีเรื่องหมอบียักยอกทรัพย์ ใช้บัญชีตัวเองรับเงิน ผมก็มีโอกาสได้ไปประชุม ก็มีการถามรายละเอียดข้อเท็จจริง ปรากฏว่ามีเรื่องของการเอาเอกสารย้อนหลังให้เซ็น รวมทั้งเรื่องโอนรถ โอนอะไรให้หลวงพ่อ พอผมได้สอบถาม จนประมวลสถานการณ์ได้ ผมก็เลยบอกว่าพฤติกรรม การกระทำแบบนี้ รวมทั้งหลวงพ่อ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน หมอบีเอาชื่อวัดไปแอบอ้าง บอกว่าเอาเข้าวัด แต่เอาเงินสดให้หลวงพ่อ หรือบอกจะทำโครงการ แต่เอาเงินมาให้หลวงพ่อ เป็นการหลอกลวงประชาชน
ผมตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนเป็นมูลฐานนึงของความผิดฐานฟอกเงิน ผมก็บอกว่ามันจะมีความผิดฐานฟอกเงินตามมา รวมทั้งยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผมเลยบอกว่าหลวงพ่อและคนเกี่ยวข้อง รีบเคลียร์เอกสาร รีบเคลียร์ปัญหา รีบแถลงข่าว ไปพบตร.รวมรวบข้อมูล ผิดก็ผิด ไม่ผิดก็ว่ากันไป แต่ตอนนั้นเหมือนไม่มีคำตอบ ไม่มีอะไร จนผมรู้สึกว่าเราเป็นทนายที่ปรึกษาแต่เขาไม่บอกอะไรเราเลย ก็อึดอัดใจนะ แต่ก็ทำหน้าที่ต่อไป อย่างเราเป็นทนายความ เรารู้สึกว่าทำไมไม่เอาหลักฐานมาให้ทนายดู หรือกางให้ดู ตอนนั้นแค่คุย หรือแม้กระทั่งหลายเรื่อง ผมได้ยินจากปากคนอื่น เช่นบอกว่ามีเอกสารย้อนหลังนะ ผมไม่เคยได้ยินจากหลวงพ่อ ผมไปถามที่ประชุมถึงยอมรับ
หมายถึงหมอบีเคยเอาเอกสารย้อนหลังมาให้หลวงพ่อเซ็นว่าทำอะไรบ้าง ทั้งที่ควรเซ็นก่อนหน้านี้แล้ว พอมีประเด็นก็เอามาย้อน?
ทนายเกิดผล : ใช่ครับ รวมทั้งการสั่งห้ามหมอบีใช้ชื่อหรือทำกิจกรรมในนามของบัตร บอกให้หมอบีปิดบัญชี หมอบีไม่ปิดผมไม่แปลกใจ แต่มีคนบอกว่าหลวงพ่อเอาบัญชีอื่นให้หมอบีใช้อีกระหว่างนั้น ผมก็งง ถามเรื่องนี้ขึ้นมา ปรากฏว่าในที่ประชุมมีคนรับรู้เรื่องนี้ด้วย แต่ไม่บอกตั้งแต่ก่อนแรก
พอจับโป๊ะได้ ก็กังวลใจว่าเงินเข้าหมอบีเดี๋ยวจะมีประเด็น เลยเอาบัญชีใหม่ของวัดให้หมอบีเพื่อให้เอาเงินเข้าทางนี้?
ทนายเกิดผล : ประเด็นนี้แหละ พอผมถามว่าทำไมเป็นแบบนี้ อันนี้ไม่ใช่หลวงพ่อคนเดียว คนในที่ประชุมก็รับรู้เรื่องนี้ด้วย แล้วพูดว่ามันจะแก้ไขยังไง ผมบอกว่าจะแก้ไขยังไง แสดงว่าท่านรู้เรื่องนี้มาตลอด แต่ทนายไม่รู้เรื่อง รวมทั้งเรื่องระหว่างหมอบี หลวงพ่อรู้ตั้งแต่แรก จนหมอบียอมรับ มีคนบอกว่าปรึกษาทนายก่อนมั้ย เล่าทนายก่อนมั้ย หลวงพ่อสั่งไม่ให้บอกจนกระทั่งเป็นข่าว สองเดือนก่อนเกิดเหตุ ลูกศิษย์หลวงพ่อบอกว่าบอกทนายเกิดผลมั้ยเรื่องที่หมอบีผิด หลวงพ่อบอกว่าไม่ต้องบอก จนเป็นข่าว ผมก็เลยงง มานั่งให้พี่หนุ่มเชือดจนงงไปหมด (หัวเราะ) ผมหน้าซีดไปหมด ไม่รู้ทำอะไรตอนนั้น (หัวเราะ)
พี่เคยเตือนหลวงพ่อแล้ว ไม่งั้นหลวงพ่ออาจโดนฟอกเงิน?
ทนายเกิดผล : พูดในที่ประชุม และพูดส่วนตัวกับหลวงพ่อ นอกจากเราเห็นหลักฐานบางส่วน เราประเมินจากข้อกฎหมาย พฤติการณ์ที่หมอบีทำแบบนี้ หลวงพ่อทำแบบนี้ เราประเมินในฐานะนักกฎหมาย ไม่ได้เห็นว่าทำอะไรผิด เราดูรูปการรูปคดี ต้องมาฟอกเงินอยู่แล้ว ถ้ามีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ซึ่งเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ผมกังวลใจมากที่สุด คือเรื่องฟอกเงินเหมือนทนายตั้มโดน ทนายตั้มโดนฟอกเงินเป็นปกติธุระจากการฉ้อโกงเจ๊อ้อยบ่อยๆ หลายๆ ครั้ง ถ้าหลวงพ่อเป็นเจ้าพนักงานที่ยักยอกทรัพย์หลายๆ ครั้ง ถ้าเป็นฉ้อโกงก็โดนฟอกเงิน ผมพูดตามหลักกฎหมาย ผมถึงอยากให้เคลียร์
หลักฐานที่พี่เห็น และเข้าใจว่าอาจเข้าข้อฟอกเงิน พี่เห็นอะไร ถึงตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเข้า?
ทนายเกิดผล : ผมพูดถึงเรื่องหลักฐานคงไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงหลักกฎหมาย ถ้าหมอบีเอาเงินสดให้หลวงพ่อ พี่ปีแล้วล่ะ หลวงพ่อเอาเงินไปกี่ครั้งแล้ว แล้วเอาเงินเข้าบัญชีวัดหรือเอาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น กี่ครั้งแล้วล่ะ นานครั้งกี่กิจกรรม นั่นคือสิ่งที่สันนิษฐาน
ล่าสุดรักษาการเจ้าอาวาสบอกว่าเงินร่อยหรอแทบไม่เหลือแล้ว คนป่วยอยู่ข้างในอาจลำบากแล้ว หมอบีคนเดียวนะ 200 กว่าล้าน ยังมีนอกเหนือจากหมอบีอีก พี่ว่าเงินไปไหนหมด?
ทนายเกิดผล : ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเงินไปไหน น่าจะมีมากกว่า 200 กว่าล้าน แต่ตัวเงินไปไหนไม่ทราบจริงๆ แต่ให้เดา เงินที่ได้มาทั้งหมดไปอยู่กับทรัพย์สินอื่นๆ เช่นสนามฟุตบอล
อันดับแรกผมสับสน มีความรู้สึกเหมือนงง และผิดหวังกับสิ่งที่เราเชื่อ ในสายตาของเรา ตลอดเวลาที่เราไปกราบท่าน เราเห็นแต่สิ่งดีๆ ภาพดีๆ เรื่องทรัพย์สินเงินทองผมพอเข้าใจได้ ว่าการแสดงออกของท่านอาจผิดพลาด ทำโดยวิสาสะ แต่เรื่องเปลี่ยนชื่อ การแอบอ้างสถานการศึกษา ผมงงมากกเลย ไม่เข้าใจทำไมต้องทำแบบนั้น ทุกวันนี้ยังงงเหมือนโดนหลอก เหมือนรักใครสักคนแล้วอกหัก
ทุกวันนี้ก็ตั้งคำถามกับตัวเองและภรรยาว่าทำไมเป็นแบบนั้น แฟนผมเองก็เหมือนยังรับไม่ได้ด้วย เราไปกราบพระพร้อมกันตลอดเวลา ไปทุกครั้งก็อบอุ่นทุกครั้ง เหมือนท่านสอนในสิ่งดีๆ เรื่องเงินอาจผิดพลาด หรือใช้จ่ายนอกหน้าที่จนเกิดเป็นความผิดก็ได้ แต่เรื่องเปลี่ยนชื่อ เอาชื่อคนอื่นไปใช้ อ้างสถานบันการศึกษา ท่านรู้อยู่คนเดียว ทำเพื่ออะไร ทุกวันนี้ก็นั่งคุยกัน ก็พูดไม่ออก เหมือนคนโดนหลอก คนอกหัก
