xs
xsm
sm
md
lg

“มารี เบรินเนอร์” รับสารภาพเมาแล้วขับ ดอดเซ็นรับทราบข้อหา ส่งตัวฟ้องศาลพร้อม “ไฮโซบอส”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พ.ต.อ.เจษฎา” เผย “มารี เบรินเนอร์” เซ็นรับทราบข้อหาเมาแล้วขับ ที่ สน.วังทองหลาง ยอมรับดื่มก่อนขับจริง คดีเพื่อนชายที่ขัดขวางเจ้าหน้าที่ส่งฟ้องศาลเช่นกัน ตำรวจยันตั้งด่านตรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมายให้ผู้ใช้รถใช้ถนนกลับบ้านอย่างปลอดภัย ปัดเรื่องฝ่ายชายอ้างรู้จักนายตำรวจใหญ่ เชื่อพูดเพราะเมาขาดสติ

หลังจากที่นางเอกสาว “มารี เบรินเนอร์” อายุ 33 ปี ปฏิเสธไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอล์ ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ ไปตามเหตุจากอาการทางร่างกายและพฤติกรรมส่ง พ.ต.ท.จุฑาพงษ์ ชาญดิลกโชติ สว.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง ดำเนินคดี ก่อนประกันตัวออกไปในวงเงินประกัน 20,000 บาท และเจ้าหน้าที่นัดหมายส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.30 น. มารีเดินทางมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ที่ สน.วังทองหลาง แต่หลบกองทัพสื่อมวลชนที่มาดักรอทำข่าว ด้วยการเข้าด้านหลัง สน. หลังเซ็นเสร็จเรียบร้อยก็ได้เดินทางกลับออกไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ “พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก” ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า มารี ได้ประสานเข้ามาพบพนักงานสอบสวนที่สน.วังทองหลางแล้ว หลังจากถูกตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ พร้อมทั้งเปิดใจว่า ฝ่ายหญิงยอมรับดื่มมาจริงก่อนเข้าด่านตรวจ

“ในส่วนของคุณมารีเราก็แจ้งข้อหาเมาแล้วขับ เนื่องจากกฎหมายสันนิษฐานว่า ถ้าปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์ เราก็แจ้งข้อหา ในส่วนของคุณมารีก็ใช้หลักทรัพย์เงินสด 20,000 บาท ในการประกันตัวไป ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็อนุญาตให้ประกันตัว แล้วก็นัดให้มารายงานตัววันนี้ ซึ่งในส่วนของพนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำ ถ้าเขารับสารภาพก็จะต้องพิมพ์มือแล้วส่งอัยการให้ศาลพิพากษา

ในส่วนของเพื่อนขาย (บอส อัศม์กรณ์ สิงห์สีกรกุล) ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับเพื่อนชายเรียบร้อยแล้ว ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ต่อเจ้าพนักงาน การดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตรงนี้เบื้องต้นทางฝ่ายชายก็รับสารภาพ ซึ่งในส่วนของทางพนักงานสอบสวนก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำสำนวนส่งฟ้องที่อัยการให้ศาลพิพากษา”

ปัดฝ่ายชายอ้างรู้จักนายตำรวจใหญ่ ลั่นน่าจะเกิดจากเมาขาดสติ
“ตรงนี้น่าจะเป็นในลักษณะของคนเมาแล้วก็ไม่มีสติ ก็อาจจะพูดกล่าวอ้างใครก็ได้ ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้เป็นประเด็นอะไร

วันนี้ฝ่ายชายก็ต้องนัดไปที่ศาลเช่นกัน แต่เขาอาจจะมากับฝ่ายหญิงด้วยหรือเปล่าตรงนี้ผมไม่ทราบ แต่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวนเราก็มีการแจ้งข้อหาให้กับฝ่ายชายเรียบร้อยแล้ว (ในข้อหาที่แจ้งฝ่ายชายเป็นคดีอาญาหรือว่าเป็นคดีแพ่ง?) เป็นคดีอาญาอยู่ในอำนาจศาลแขวง”

เผยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจเพื่ออยากให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยจากท้องถนน
“เรื่องติดต่อเข้ามาขอโทษ ตรงนี้ยังไม่ได้มีการติดต่อเข้ามา แต่ก็ขออนุญาตนำเรียนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ และกิริยาวาจาเราให้เกียรติกับประชาชนทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราตั้งด่านออกตรวจกันทุกคืน ก็แค่เจตนาเดียวก็คืออยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัย ซึ่งผู้ที่ขับขี่เมาแล้วขับ อาจจะไปเกิดอุบัติเหตุกับคนที่ไม่ได้เมาบนท้องถนน ซึ่งตรงนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็รณรงค์เรื่องเมาแล้วขับอยู่ตลอดอยู่แล้ว ก็อยากให้พวกเราช่วยๆ กันในเรื่องนี้”

เผยนักแสดงสาวยอมรับดื่มมาจริงก่อนเข้าด่านตรวจ
“ใช่ๆ ครับเขาก็รับว่าได้ดื่มมาก่อนที่จะเข้ามาจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตรงนี้ (เขาได้บอกเหตุผลไหมครับในการปฏิเสธที่จะเป่า?) ตรงนี้ไม่ได้แจ้งครับ

ตามกฎหมายไม่มีผลในการที่ไม่ยอมเป่า เพราะว่ากฎหมายตั้งแต่ปี 2557 ก็มีบัญญัติไว้อยู่แล้วนะครับว่า หากผู้ขับขี่ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ ซึ่งก็ผิดไปตาม พรบ.จราจร 2522 มาตรา 142 อยู่แล้ว ซึ่งก็มีอัตราโทษที่สูงกว่าเมาแล้วขับปกติ ก็คือจำคุก 1 ปี ปรับ 10,000 - 20,000 บาท”

บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านกำลังใจดีแม้ถูกอีกฝ่ายขู่
“ยังไม่ได้คุยกับฝ่ายชายในอาการที่ปกติครับ (ระหว่างสอบปากคำมีทางผู้ใหญ่ที่เขาอ้างแอบไหม?) ไม่มีครับ อย่างที่ผมบอกอาจจะเมาและอาจจะขาดสติ หรืออาจจะพูดโดยที่ไม่ได้รู้จักจริง หรือรู้จักอันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ นอกจากพี่แมนมีชื่ออื่นไหม ไม่มีนะครับ  (พอไม่เป่าแอลกอฮอล์จะมีการไปตรวจเลือดวัดไหม?) ไม่ครับ กฎหมายบัญญัติไว้อยู่แล้ว”

ตำรวจหน้าด่านกำลังใจดีครับ เพราะว่าหน้าที่ของตำรวจเราก็คือ ดูแลรับใช้พี่น้องประชาชน เราให้เกียรติกับประชาชนทุกคนอยู่แล้ว เพราะว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเราเจตนาเดียวจริงๆ คืออยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพให้ปลอดภัยที่สุด

การที่เขาข่มขู่ไม่ได้มีผลอะไรในการดำเนินคดี เพราะว่าเรามีการฝึกยุทธวิธีในการตั้งจุดตรวจซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาลเราก็มีการซักซ้อมหรือว่ามีฝึกในการตั้งจุดตรวจ ทั้งงานป้องกันปราบปรามและการตรวจวัดแอลกอฮอล์อยู่แล้ว”

ไม่ห่วงพยานหลักฐานพร้อม เตรียมส่งเรื่องฟ้องศาลดำเนินคดี
“การที่ให้เวลาในรถที่นั่งอยู่เป็นชั่วโมงอันนี้คือเป็นมาตรฐานปกติ อันนี้มันเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา จะดำเนินการยังไงมันเป็นเรื่องของเขาเราไม่สามารถที่จะไปบังคับ แต่กฎหมายตั้งแต่ปี 2557 ก็มีบัญญัติไว้ตรงนี้ เราสามารถที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่ปฏิเสธเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ ตรงนี้ก็ไม่น่าห่วงอะไรในพยานหลักฐานที่จะส่งฟ้องศาลเพื่อให้ศาลพิพากษา”











กำลังโหลดความคิดเห็น