“สมปอง” ช็อกข่าว “หลวงพ่ออลงกต” สะเทือนใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์หลวงพ่อ ลั่นเป็นพระปฎิบัติดี วิสัยทัศน์ไกล ควรแก่การกราบไหว้ ลั่นพระหลายท่านไม่รู้จักการฟอกเงินคืออะไร มองเป็นพระก็พลาดได้ น้อยใจแทนหลวงพ่อเพลี่ยงพล้ำนิดเดียวความดีที่ทำมามากมายหายไปหมด หรือควรปฎิวัติวงการสงฆ์ด้วยการที่พระสงฆ์ปฎิบัติเพียงกิจของสงฆ์ อยากให้ท่านรอดจากคำครหา
ออกตัวไม่ได้จะอยากสวนกระแสสังคม แต่ในฐานะที่เคยบวชเป็นพระ และเคยใกล้ชิดช่วยเหลืองาน “หลวงพ่ออลงกต”วัดพระบาทน้ำพุ “สมปอง นครไธสง”อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง จึงขอออกมาเปิดเผยความจริงอีกด้านที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองเกี่ยวกับหลวงพ่ออลงกต โดยสมปองยืนยันว่าหลวงพ่ออลงกตเป็นพระดีโดยเนื้อแท้ ควรแก่การเคารพกราบไหว้ รู้สึกช็อกเมื่อเห็นข่าวแฉหลวงพ่อและคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ในโซเชียล
“ช็อกครับ เรากราบหลวงพ่อและชื่นชมในความเสียสละ ผมรู้หลวงพ่อจำวัดดึก ตี 4 ก็เตรียมออกบิณฑบาต ตอนผมเป็นพระก็เคยไปถือขันช่วยหลวงพ่อ แกทำความดีเยอะแยะมากมาย พอมีข่าวคราวก็ลุ้นครับ พระมีข่าวเยอะ ก็อยากจะเห็นพระรอดบ้าง ก็ว่ากันไปตามข้อมูลที่เราได้กันมา
ผมรัก เคารพและศรัทธาท่าน ตอนมีข่าวแรกๆ ผมยังพูดเลยนะเรายังมีพระให้เราได้กราบอย่างสบายใจ อย่าง พระพยอม หลวงพ่ออลงกต พระเสียดายแดด หรือพระสายปฎิบัติ ก็เอ่ยไปด้วยความมั่นใจ ภูมิใจ ปลื้มใจครับ
หลวงพ่ออลงกตท่านช่วยคนไว้มากมาย ทั้งเด็กๆ ชาวบ้าน ทั้งผู้ป่วยเอดส์ ทั่วไปทั้งหมดเลย ท่านมีเมตตาสูงมากๆ มุมนึงผมก็มองว่าพระท่านที่มีเมตตามาก อะไรก็ได้ ในประเด็นต่างๆ ท่านก็มีคำอธิบายอยู่เพียงแต่เราฟังแล้วจะเคลียร์หรือไม่เคลียร์ก็ว่ากันไป เหมือนมวยวัดครับ บางทีอยู่ที่ระบบการจัดการที่ไม่ชัดเจน บางทีพระท่านไม่รู้หรอกครับว่าการฟอกเงินมันคืออะไร เพื่อนผมเป็นพระ หรือพระหลายๆ ท่านก็ไม่เข้าใจ
ช่วยแก้ต่างอะไรให้ “หลวงพ่อหลวงกต” ตามข้อมูลที่ตนเคยได้รับ
“ตามข้อมูลเลยครับ อย่างที่บอกเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ไม่เอามาช่วยคนไข้โดยตรงเลย เอาไปสร้างเหรียญ สร้างพระก่อน คำอธิบายที่ผมเคยได้แต่ก่อนคือ เงิน 1 แสนสำหรับช่วยผู้ป่วย มันก็ช่วยได้ 1 แสน แต่หากเอาไปสร้างเหรียญก่อน บางทีอาจจะกลายเป็นเงินล้านก็ได้ อารมณ์เป็นกุศโลบาย ทำให้เงินมันเพิ่มขึ้น ช่วยคนได้มากขึ้นอีกมันก็ดูดีมากๆ นะครับ
หรือแม้แต่สนามฟุตบอลต่างๆ หลวงพ่อท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่า อนาคตถ้าท่านไม่อยู่สนามเหล่านี้ที่เป็นมาตรฐานโลก ฝรั่งสามารถมาซ้อม มาเช่าไว้สำหรับได้เลย ก็จะเป็นรายได้เอาไว้ดูแลผู้ติดเชื้อ ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้ที่ด้อยโอกาสอื่นๆ ด้วย ก็ดูเป็นเจตนาที่ดี มีวิสัยทัศน์ที่ดี หากวันใดวันหนึ่งท่านบิณฑบาตไม่ได้แล้ว ไม่ได้ไปตามโรงงาน ตลาด บริษัท แล้วใครจะดูแลผู้ป่วยในวัด มันก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ผมว่าอยู่ที่การบริหารจัดการ ท่านเพลี่ยงพล้ำจากท่านเอง จากระบบ จากญาติโยม ก็แล้วแต่มันก็กลายเป็นดูไม่ดีไปเสียหมดเลย กลายเป็นว่าทำทำไม”
กับเรื่องราวที่ไม่ชัดเจน มองเป็นพระก็พลาดได้ ไม่ได้อยากสวนกระแสสังคม แต่นี่คือชุดข้อมูลที่ตนได้รับมา
“ก็ดูเป็นเรื่องๆ ไป ผมว่าพระก็พลาดได้ ถึงเราจะคาดหวังหลวงพ่อท่านประสบการณ์เยอะ พรรษาเยอะ บารมีเยอะ แต่ด้วยการบริหารจัดการก็ทำพลาดได้ อันไหนแก้ไขได้ก็แก้ไขกันไป ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะแก้ไขทันไหม ความดีท่านก็มีมากมาย ผู้ป่วยเอดส์บางเคสที่ไม่รับที่ผมได้ยินมาคือเขาเป็นวัณโรค มีโรคอื่นแทรกซ้อนมา ก็จะทำให้แพร่เชื้อไปยังผู้ป่วยท่านอื่นได้ด้วย ที่ผมได้รับข้อมูลมามีบางเคสที่ไม่ได้รับก็จะประมาณนี้
ผมไม่ได้อยากจะสวนกระแส คนกำลังด่าหลวงพ่อ ที่กล่าวไปคือข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้รับมา ส่วนข้อมูลการศึกษา โครงการชื่อคนอื่น อันนั้นก็ตามที่ตำรวจมีข้อมูล ก็ต้องตามนั้น สุดท้ายคนที่เคารพนับถือท่านก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้ ก็ให้โอกาสได้บอกได้พิจารณา ได้ให้ข้อมูลครับ”
น้อยใจแทน “หลวงพ่ออลกต” ทำหน้าที่ช่วยเหลือเกินกิจของสงฆ์มาตลอด ลั่นทำดีมากมายพลาดทีเดียวไม่เหลือความดีให้จดจำ
“คิดว่าพวกเราอาจจะทำอะไรมากกว่าหน้าที่เรามากเกินไป แต่ก่อนเราจะเถียง มันใช่กิจของสงฆ์ไหม จะช่วยคนมันก็เป็นกิจของสงฆ์ทั้งนั้นแหละ ผมเองตอนบวชก็เคยพูดประโยคนี้ด้วยซ้ำไป ตอนนี้นอกจาก ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เผยแพร่ ผมว่าเราอาจจะไม่ต้องทำอะไรมากกว่านี้ก็ได้นะ เพราะมันเหนื่อย มันหนัก การทำโครงการที่มันออกนอกกรอบเรามากเกินไป นอกจากเหนื่อย หนักแล้วมันจะมีความน้อยใจ ทำความดีมากเป็นร้อยอย่าง พันอย่าง พอพลาดสักเรื่อง มันเหมือนความดีที่ทำมาหมดไปเลย
เอาตรงๆ ที่ประเสริฐเลิศศรี มีบารมี พอมีบางอย่างที่ดูคลุมเครือ ยังไม่ชี้ชัดว่าผิด แต่กลายเป็นเสียเครดิต เสียความเคารพศรัทธาไปมาก ผมเริ่มมาตระหนักว่าที่โยมเขาเตือนว่ามันใช่กิจของสงฆ์ไหม พระเณรเราควรจะต้องมาคุยกันอย่างจริงจัง ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนให้มันดีขึ้น อาจจะต้องอยู่ในลู่ในทางของเราเหมือนวัดป่า ที่เขาปฎิบัติ เผยแผร่ ไม่ออกสื่อ
ผมอาจจะย้อนแย้งนะพระที่ทำงาน ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อย่างบริสุทธิ์ใจผมว่าก็ทำต่อไปได้ แต่อาจจะต้องตีกรอบกันมากขึ้นว่าเราควรทำแค่ไหนอย่างไร เช่น เราไม่ได้มีบุญบารมีสร้างตึก สร้างโรงเรียน เหมือนหลวงพ่อ ผมก็ไปเจอประโยคที่ว่าการให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง เราไม่ต้องไปสร้างอะไรใหญ่โต ใช้งบประมาณเยอะแต่เราให้ธรรมะเราชนะการให้ทั้งปวงเลยนะ ก็เลยยึดสายเผยแพร่มาโดยตลอด พระเณรเราใครไปสายปฎิบัติก็ทำต่อไปครับ ฝรั่งที่เขามาชื่นชอบนับถือพระพุทธศาสนาก็ตรงปฎิบัติ
เราคงต้องมาประกาศให้คนได้รู้ว่าพระ เณรที่ทำประโยชน์ ทำความดี เผยแผร่ นำปฎิบัติมีเยอะแยะมากมาย มีเป็นแสนๆ รูป ที่เสียหายผมว่ามีไม่เกินพันรูป คิดเป็นสัดส่วนแล้วต่างกันเยอะ ควรจะต้องรวมพลังกันแล้วแสดงพลังให้ญาติโยม ไม่ใช่คำด่า คำว่า หรือตอบโต้ แต่คือการ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เผยแพร่ มันจะทำให้พระพุทธศาสนาเราเบ่งบาน พระเณรเราควรจะต้องมาพิจารณากันในเรื่องนี้ มาพูดคุยกันจริงจัง ต้องทำตรงนี้ให้ปรากฎชัดเพื่อเรียกศรัทธากลับมา”
สะเทือนใจ “หลวงพ่ออลงกต” ถูกต่อว่าแรงเหมือนไม่เคยทำความดีมาก่อน ชี้หรือพ่อควรจะถือศีลแบบบาทหลวง จะได้ไม่เสียภาพลักษณ์
“หรือเราจะไปเลียนแบบบาทหลวง เขาถือศีล 3 ข้อเอง จน-บริสุทธิ์-เป็นผู้รับใช้ ตอนนี้ที่เป็นปัญหาคือดูรวย ดูไม่บริสุทธิ์ ผมอยากให้พระเณรเราไม่ต้องถือศีล 227 ข้อ หรือศีล 10 ข้อ อยากให้ถือแค่ 3 ข้อ จน-บริสุทธิ์-เป็นผู้รับใช้ ผมว่าก็น่าจะตอบโจทย์ญาติโยม ตอบโจทย์สังคมมากขึ้นและภาพลักษณ์ดีขึ้นด้วย วัดเราอาจจะเอาระบบดีๆ ของญาติโยมมาใช้ มีการตรวจสอบภายใน ภายนอก วัดก็อาจจะต้องมีระบบแบบนั้นด้วย เพื่อความบริสุทธิ์ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง วัด และความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา
ผมว่าเราควรจะทำให้มันพอดี ผมว่าคำว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ (ปล่อยไปตามเรื่องตามราว ไม่เอาเป็นธุระ) มันเป็นคำโบราณที่ใช้ไม่ได้แล้ว ยุคนี้ใครก็วิพากษ์วิจารณ์ได้ มันสะเทือนใจนะครับกับเรื่องหลวงพ่ออลงกต บางคนเรียกชื่อเลย บางคนใช้คำหยาบ ผมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วหลวงพ่อก็ทำความดีมามากมาย พอพลาด เพลี่ยงพล้ำ กลับโดนซ้ำเยอะมากเหมือนไม่เคยทำความดีมาก่อน จนรู้สึกน้อยใจแทนพระที่ท่านทำความดีเหมือนกัน ต่อให้ทำความดีมามากมาย พอเพลี่ยงพล้ำ ความดีทั้งหมดที่ทำมามันไม่มีค่าเลย แต่ก็โทษกันไม่ได้
ฉะนั้นพระเณรเราต้องอยู่ด้วยความไม่ประมาทดั่งคำพระพุทธเจ้าเคยบอก คำสอนที่ว่า อานนท์ นี่คืออสรพิษ พระอานนท์บอกแต่นี้คือถุงเงินนะพระเจ้าข้า พระพุทธเจ้าตรัสกลับมา คืออสรพิษอานนท์ ผมเรียนมาแปลมา ก็ยังงงว่าเงินมันคืออสรพิษยังไง มันคือค่ารถแท็กซี่ ค่าหนังสือเรียน ค่าเทอม มาตอนนี้อ๋อ… ในตอนนี้เข้าใจแล้ว เงินมันคืออสรพิษจริงๆ ถ้าเราไม่จัดการให้ดีพอ”
