“นารา เครปกะเทย” ยอมรับผิดพูดจาห้วน ขอโทษลูกค้า ยกเลิกงานเหมา หวังเคลียร์ใจ ปมราคา 3.5 แสน ยันตั้งใจใช้หนี้ ทำงานหนักจนภูมิตก หลังจากนี้ขอรับงานที่ไม่กดดันตัวเอง
เรียกว่าดรามาสนั่น เมื่อ “นารา เครปกะเทย” อนุวัติ ประทุมถิ่น ปล่อยโฮกลางไลฟ์ เปิดใจปมแตกหัก ยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ครีมแบรนด์ดัง ปิดตำนาน “บูส บูส” หลังจากที่ทุ่มเทเต็มที่ ทำแฟนๆ ช็อก เพราะคิดว่า “นารา” เป็นเจ้าของแบรนด์ ทำให้มีชาวเน็ตบางส่วนไปถล่มแบรนด์ ก่อนทางเจ้าของออกมาโพสต์ “จากใจนะ ตอนแรกคิดว่าจะจ้างต่อเยอะๆ เพราะไม่เคยคิดว่าจะหยุดจ้างเลยค่ะ แต่เมนต์ด่าทุกเมนต์ทำให้คิดหนัก ” จนกลายเป็มหากาพย์ดรามาสนั่นโซเชียลที่ฟาดกันไปมา
ล่าสุด นารา เครปกะเทย ก็ออกมาเปิดใจถึงมหากาพย์ที่เกิดขึ้น ในงาน Chef Fest Thailand Season 3 ONE STREET, ONE LEGEND ณ ตลาดนัดเลียบด่วน แดนเนรมิต ยอมรับผิดพูดจาห้วน ขอโทษลูกค้า ลั่นหลังจากนี้จะยกเลิกงานเหมา
“รอบนี้เราไม่ได้ออกมาพูดอะไรในทางโซเชียลตัวเองเลยเพราะรู้สึกว่า ปัญหาที่มันเกิดขึ้นถ้าเรายิ่งพูดออกมา มันก็กลายเป็นว่าเขาก็จะยืดเยื้อออกไป เรารู้สึกเราพูดตรงๆ นะแสงมันอยู่ที่เราแล้ว เราไม่ควรที่จะให้แสงกับใครแล้ว สิ่งที่เราผิดเราจะไม่ขอพูดเรื่องอะไรเลย สิ่งที่เราผิดเราอาจจะเป็นคนที่พูดจาห้วน พูดจาไม่ดีเพราะว่ามันมีอะไรหลายๆ อย่าง
ทั้งหมดนี้สิ่งที่ให้เรายอมรับผิดอย่างเดียวเลย เราขอยอมรับผิดในเรื่องการที่เราพูดจาไม่ดี พูดจาห้วนมันเป็นเหมือนว่าคนก็จะมองว่าเราปากดี อันนี้เราก็ต้องกราบขอโทษแล้วเรารู้สึกว่า ได้คุยกับพี่ๆ หลังจากนี้จะยกเลิกในการรับงานเหมาแล้ว แต่ในเรื่องของรายละเอียดงาน 350,000 บาท เราจะไม่ขอแก้ตัวอะไรเลย เพราะสุดท้ายคนที่เข้าใจผิดไปแล้วเขาก็จะเข้าใจผิดเราไปเลย เขาคงไม่ได้มองเราเป็นแบบนี้หรอกเพราะเหตุผลมันมีหลายเหตุผล
ซึ่งเจ้าของแบรนด์ที่เขาออกมาโพสต์หรือไม่ว่าใครก็ตามก็ต้องพูดให้ตัวเองดูถูก ดูแล้วไม่มีใครที่จะพูดให้ตัวเองดูเสีย ในฐานะที่เราเป็นเด็กเราขอโทษและเราก็ไม่มีอะไรจะพูด วันนี้อาจจะขาดความน่าเชื่อถือแต่เราเชื่อว่าก็ต้องมีคนรู้จักนิสัยเราจริงๆ นี่ไม่ใช่แบรนด์แรกที่เราได้รับรีวิว เราได้รับรีวิวมา 400-500 แบรนด์แล้ว และเจ้าของแบรนด์ทุกคนก็ชอบ
วันนี้เราอาจจะยกเลิกงานเหมา 30 คลิป 50,000 บาท ทีนี้คนถามว่าทำไมเราต้องอัปราคาเหมาเพราะเราต้องการเอาเงินไปใช้หนี้ แต่สิ่งที่เราทำแบบนี้มันแลกกับที่เราได้ลูกค้าเยอะ พูดตามตรงว่าลูกค้าเยอะ อินฟลูฯ เขามีเรตค่าตัวเป็นหลักแสน หนึ่งแน่นอน เขาได้แค่คลิปเดียว แต่คลิปเดียวของเขาเป็นราคาที่สูงมากซึ่งพูดตรงๆ ว่าถ้าใครจะจ้างคุณต้องมีกำลัง แต่ของเราเป็นราคาที่ถูกซึ่งควรที่จะจ้างทำแบรนด์เราได้หมดเลย ซึ่งใครอยากจะได้งบน้อยก็ได้
เพราะฉะนั้นต้องแลกกับที่เจอหลายคน สมมติแม่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้เจอกับลูกค้าได้เลือกกับลูกค้า แต่เราเลือกลูกค้าไม่ได้ใครมาเรารับหมด เราต้องเจอคนนิสัย 100 คน 100 แบรนด์ เราต้องเจอเราต้องรับให้ได้เพราะอาจจะมีผิดพลาดบ้างก็ต้องแก้ไขไป
สิ่งที่เรายกเลิกงานเหมาที่ราคาถูก เพราะว่าเราเครียดเราเหนื่อย แต่หลังจากนี้ต้องขอแจ้งว่าจะไม่ทำให้ตัวเองเหนื่อยแล้ว เพราะเราเชื่อว่าพี่ๆ หลายคนที่เห็นเราตั้งแต่ออกมาเราใช้หนี้มาตลอด เราถึงบอกเจ้าหนี้ตอนนี้ว่าเราจะพยายามหาเงินให้ได้มากที่สุด
แต่จะไม่ให้ตัวเองเหนื่อยเพราะตอนนี้ภูมิตกตลอดถ้าใครตามไอจี มันเสี่ยงกับการที่เราตายไวได้แน่นอน เราก็เลยจะรับงานที่เป็นชิ้นเดียว หรือไม่ก็ราคาที่สมเหตุสมผลกับที่เราต้องทำ ต่อให้วันนี้เราไม่มีงานและต้องมานั่งทะเยอทะยานแบบนี้อีก มันได้ความทุกข์ใจเหนื่อยและต้องมาพังที่หลังเราไม่เอา
แต่เราจะบอกเจ้าหนี้ว่าเดือนนึงเราได้เงินมาเท่าไหร่จะใช้หนี้ให้หมดเลย เดือนนี้เราเอาเงินเก็บตัวเองที่มีอยู่ 2 ล้าน เราใช้หนี้ไปแล้ว 1,500,000 บาท มีเงินเก็บอยู่ 500,000 บาท แล้วต้องประกันตัววันที่ 3 อีก เป็นจำนวนเงินอีก 300,000 บาท ซึ่งจะเหลือเงินเก็บแค่ 200,000 บาท และเราจะเอา 200, 000 นี้ใช้หนี้เดือนหน้า
เดือนหน้าเราหาได้เท่าไหร่เราจะใช้หมดเลย ก็คงอาจจะหาได้ไม่เยอะเท่าเดิมแล้วเพราะเราไม่ได้รับงานเหมาแล้ว จะทำให้ตัวเองไม่เหนื่อยและเท่าที่ตัวเองทำไหว เราเชื่อว่าตอนนี้เราพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้แล้วว่า นารา เครปกะเทย อยากจะใช้หนี้จริงๆ ไม่ได้อยากจะโกงใครเพราะมันจะได้ลดปัญหาในเรื่องของอารมณ์ของเรา ได้เจอคนที่คัดกรองมากขึ้น ไม่มีการรับผิดชอบงานมากขึ้น และไม่ต้องเหนื่อยตัวเองจะได้ทำงานแบบสบายจะได้ไม่มีผิดพลาดอีกเลย เพราะเราขี้เกียจที่จะมานั่งผิดพลาดให้คนรอบตัวรู้สึกเหนื่อยไปกับเราด้วย พี่ๆ ทุกคนรอบตัวสอนเราหมดเลยสิ่งที่เราผิดคือการตอบลูกค้า เราขอโทษอีกรอบนึงเราจะแก้ไขใหม่เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก”
ลั่นขอเงินเพิ่มเพราะอยากให้สินค้าดูน่าเชื่อถือและน่าซื้อ บอกทุกแบรนด์ที่ทำแทบจะไม่ค่อยมีกำไรให้ตัวเองเท่าไหร่
“แน่นอนว่าทุกแบบเขามีการคาดหวังอยู่แล้ว เขาจ้างเราทุกคนมีการคาดหวังอยู่แล้ว เขาให้ความหวังกับเราโอเควันนี้สิ่งที่เราทำคือ เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบบูส บูส ได้หรือเปล่า แต่เราเชื่อในความสามารถของตัวเองว่าต้องทำได้ อย่างกรณีที่เขาบอกว่าเราขอเพิ่มเขา 10,000 บาท และขอเพิ่ม 10,000 บาท เพราะเราต้องการว่า ปัจจัยหลักการทำตะกร้าและคนอยากซื้อของเรา ซื้อจากปากเราเป็นสินค้าที่เปิดใหม่แล้วเริ่มจากศูนย์ให้เขา
แล้วเราทำคลิปให้เขา 5 คลิป แล้วลูกค้าบอกไม่ชอบเราขอยุติในการทำแล้วเราไปนั่งคิดแผนทำการตลาดใหม่ให้เขา เราทำแบบนั้นจริงๆ มันอาจจะมีการพูดไม่เข้าหูเลยทำให้เกิดการทะเลาะกัน ซึ่งเราก็ไปวางแผนใหม่ให้มันได้แบบบูสบูส เพื่อให้กลับมาปังแน่นอน
แต่เราคิดว่ามันก็อยู่ในช่วงเวลาด้วยว่าคนจะกดไลก์หรือเปล่าแต่ความสามารถเราทำแน่นอน อย่างที่เราขอเพิ่มหมื่นนึงเรารู้ว่าเราจะไปถ่ายรูปเพิ่ม ซึ่งถ่ายรูปเพิ่มแต่งหน้าทำผมทุกคนรู้อยู่แล้ว และค่าตากล้อง ค่าสตูฯ ซึ่งมันมีค่าใช้จ่ายหมด เราขอเพิ่ม 10,000 ลูกค้าไม่ให้เราก็ไม่ได้ซีเรียสไม่ได้ว่า แต่ผลงานเราก็ออกให้เขาเรายอมจ่ายเงินเองได้เพื่อให้เอารูปนั้นไปทำตะกร้าใน tiktok พอทำตะกร้าในติ๊กต๊อกมันจะเกิดความน่าเชื่อถือและน่าซื้อมากขึ้น
จนหลายแบรนด์ออกมาพูดหลังบ้านในเพจต่างๆ ว่า นาราชอบขอเพิ่มๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราขอเพิ่มฟังนะคะ เราทำงานไม่ค่อยได้กำไรสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เราลงทุนไปเชื่อว่าจะมีหลายแบรนด์ที่เขาเห็นแล้วเขาอยากจะทำกับเรา ผลงานพวกนี้มันเป็นประจักษ์อะไรกับเราอยู่แล้ว คนเห็นอยากจ้างๆ ขอเพิ่มๆ เราไม่ค่อยได้จากใครนอกจากแบรนด์บูส บูส แล้วก็มีพี่นุ่นอีกคนหนึ่งที่ให้เรา หลังจากนั้นพอเขาไม่ให้เราไม่ว่า
อย่างล่าสุดเราเอาน้องหลินกับผอ.แตงโม มาแต่งเป็นเชฟ เราเสนอเจ้าของแบรนด์ทุกคนขอเพิ่มทุกคนไม่มีใครให้ สุดท้ายทุกคนแชร์ 4,000 นี่คือการตลาดที่เราคิดอยู่แล้วว่ามันเป็นไปได้สุดท้ายมันก็เป็นไปได้จริงๆ แต่แค่ว่าเจ้าของแบรนด์เขาไม่ให้”
เผยหลังจากนี้จะต้องพิสูจน์ให้คนในโซเชียลเห็นความจริงใจของตน
“หลายคนอาจจะหลงประเด็นผิด ของเรา 350,000 บาท คือ 350,000 บาท ขอเพิ่มคือคุณได้งาน และงานถ้าลูกค้าไม่โอเคไม่ให้เราไม่ซีเรียสเราทำให้ได้แต่เราก็ต้องดูการพูดการจา เพราะฉะนั้นมันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ถ้าคุณอยากจะได้สิ่งที่ดีกับเรา คุณก็ต้องมอบสิ่งที่ดีให้กับเราคืนมาแค่นั้นเอง วันนี้ 350,000 บาท
แน่นอนมันคือการรับงานเหมา 35 คลิป 10 ไลฟ์สด เหมาคือการจ่ายก้อน ถ้าคุณไม่ได้เหมาจ่ายก้อนแสดงว่าคุณจ้างแยก จ้างแยก 20,000 ทีละคลิปก็ได้ 20,000 บาท 35 คลิป ลองคูณสิเป็นเงินกี่แสน มันจะต้องจ่ายมากกว่า 350,000 อยู่แล้ว แต่เราขอเงินเหมาคือเราเอาเงินเป็นก้อน เราผิดด้วยเหรอที่จะขอเบิกมาเป็นก้อนทั้งหมด เราจ่ายเหมาแต่เราได้ทยอยจ่ายงั้นเราไม่รับงานทยอยจ่าย แต่แค่เราไม่อยากออกมานั่งพูดอะไรแล้ว เพราะสังคมโซเชียลจะตัดสินว่านาราเป็นแบบนี้ เขาไม่ได้สนใจเราแล้วเขาไม่ได้เข้าใจเราแล้ว เขาก็ไม่ได้ชอบเรา มันก็แค่ต้องพิสูจน์หลังจากนี้ให้ดีที่สุด”
ลั่นไม่อยากชี้แจง กลัวเรื่องจะยาว ขอจบทุกอย่างเท่านี้
“30 คลิป 30,000 เอาคลิปเราไปใช้ไม่ได้ หน้าเราชื่อเสียงเราใช้ไม่ได้แล้วใช้ไม่ได้แล้วหนึ่ง 30,000 สองเราหยิบสินค้ามาพูดเราจะไม่ได้พูดสรรพคุณจ้า เราจะไม่มีตัวละคร แต่ 350,000 บาท คุณจะสามารถใช้คลิปเราได้ตลอดชีวิต เอาไปใช้ได้เลยทุกช่องทาง ดาราก็มีเรตรายปีว่าคุณใช้เขาได้ปีนึง แต่ของเราใช้ได้ตลอดชีวิต แต่ถ้า 30,000 คุณต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าตัวนึงมันก็ไม่ใช่ เราอธิบายเขาตั้งแต่แรกแล้ว และอีกอย่างเขาอาจจะไม่ได้เข้าใจเราในตรงนี้
อีกอย่างนึงเรามีสตอรี่เรามีเรื่องราว สิ่งที่ทุกคนเข้าใจผิดเขาไม่ได้แปะคลิปแรก คลิปแรกของเราคือคลิปที่เราเปิดตัวสวยงามถ่ายกับสตูฯ เป็น 8-9 หมื่น นั่นคือสิ่งที่เราทำไป ไม่มีใครถามรายละเอียดเพราะเราไม่ได้ออกมาพูด เพราะถ้าเราออกมาพูดแล้วเดี๋ยวมันจะยาวก็เลยตัดสินใจว่า จบแค่นี้ดีกว่าสิ่งที่เราทำได้ก็คือขอโทษและขอบคุณที่ให้งานเรา”
พยายามหาเงินใช้หนี้และจะไม่ทำให้ตัวเองกดดัน
“คืออยากจ้าง จ้างเราได้เลย เราทำงานเต็มที่ได้ ถ้าในวันนี้รู้สึกว่าไม่โอเค คุยกับเราได้แจ้งเราได้ เราขอว่าไม่ใช่การดูถูก ไม่ใช่การเหยียดหยามและสิ่งที่ทำให้เราดูเจ็บช้ำน้ำใจ เราอาจจะพูดไม่ค่อยดีแต่หลังจากนี้เราจะปรับปรุงตัวแน่นอน ตอนนี้เคลียร์จบแล้วบอกลูกค้าว่าอยากได้อะไรลิสต์มาเดี๋ยวทำให้เลย
ต้องพูดตามตรงว่านอนวันละ 2 ชั่วโมง บางวันทำงาน 2 วันติด คือวันไหนที่เราภูมิตกเราไม่เคยได้บอกใครเพราะว่าเราเหนื่อย แต่สิ่งหนึ่งเราก็คิดในใจว่าเราเลือกทำแต่แรกแล้ว นี่คือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบในการทำ เราจะพยายามทำให้สังคมได้รู้ว่า เราออกมาวันนี้เราอยากใช้หนี้ทุกคนให้มันหมด แต่เราเชื่อว่าตอนนี้หลายคนที่เป็นเอฟซีหรือสังคมเห็นว่าเด็กคนนี้มันตั้งใจทำจริงๆ เราทำทุกอย่างถ้าวันหนึ่งวันนี้เราต้องไปจ้างคนเพิ่ม
ทุกคนไม่รู้หรอกว่าหลังบ้านมันต้องมีอะไรหลายอย่าง บางคนเจ้านี้บอกว่าทำไมต้องจ้างคนนี้ ทำไมไม่เอาเงินไปใช้หนี้ มันมีแรงกดดันที่เราต้องเจอ เราไม่โทษใครเราโทษตัวเองกับสิ่งที่เราทำเราต้องรับผิดชอบอยู่นะกับการกระทำที่เราเคยผ่านมา วันนี้เราถึงบอกว่ามันพอแล้วมันสามารถที่จะทำอะไรโดยไม่ต้องกดดันตัวเองแล้วสบายใจได้สังคมเข้าใจเราแล้ว เราไม่ได้บอกว่าเราจะไม่ใช้หนี้ เราหาได้เท่าไหร่เราจะใช้ให้หมด ปัจจัยหลักคือการหาเงินใช้หนี้โดยไม่ให้เหนื่อยหรือกดดันหรือมานั่งแพ้หรือต้องมานั่งแคร์กับคำพูดของคนอื่นไม่เอาแล้ว”
