xs
xsm
sm
md
lg

ร้องไห้=แพ้! “เจนี่” เปิดมุมชีวิตนางแบก บังคับตัวเองให้แข็งแรงเป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่อายุ 11 ปี ขมขื่นแค่ไหนก็กลืนน้ำตาลงไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” เล่าอีกมุมของชีวิต เกิดมาเพื่อเสียสละและเป็นผู้ให้ บังคับให้ตัวเองแข็งแรงเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำงาน 7 วันตั้งแต่อายุ 11 ปี ไม่เคยได้สัมผัสกับความรักความอบอุ่นของครอบครัว ขมขื่นแค่ไหนก็กลืนน้ำตาลงไป บอกตัวเองชีวิตนี้จะเจ็บ จะล้มลุกคลุกคลานแค่ไหนจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น จะแพ้ไม่ได้

เป็นอีกครั้งที่ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ”ออกมาเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวที่ไม่เคยให้ใครรู้มาก่อน ในรายการ O SEE YOU กับ “อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส” เนื่องในสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ อ.โอเล่ จึงถามถึง เจนี่ ถึงความหมายของคำว่าแม่ และ คุณค่าของค่าน้ำนม สำหรับตัวเจนี่ ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดอีกมุมนึงของชีวิต เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ คนนี้ เกิดมาเพื่อเสียสละ เป็นคนที่โอบอุ้ม รองรับ แบกรับและเต็มใจที่จะรับกับทุกสิ่งทุกอย่างให้คนที่รักด้วยความเต็มใจ เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มจากคนที่รักก็มีความสุขแล้ว

“เจนมีเรื่องมากมายที่ใครไม่เคยรู้ เพราะไม่เคยเล่าเลย ตัวเจนเกิดที่อเมริกา เจนย้ายกลับมาเมืองไทยตอนอายุ 11 ขวบเพราะตอนนั้นคุณพ่อกับคุณแม่เลิกกัน มันเป็นช่วงที่เจนรู้สึกว่าเราเองก็เป็นลูกคุณพ่อเหมือนกัน พอเขาเลิกกันเจนรู้สึกว่าตัวเองเคว้งมาก ความรู้สึกเหมือนเราอกหัก อกหักหนักมาก เจนเป๋ถึงขนาดที่ว่าตัวเราไม่รู้จะไปซ้ายหรือขวาดี

แล้วย้ายกลับมาเมืองไทย บ้านก็ไม่มี รถก็ไม่มี ไม่มีที่อยู่ที่นอน พ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ เจนกับน้องกลับมากับแม่ แม่พาน้องสาวไปอยู่บ้านแถวดอนเมือง แม่ต้องส่งน้องเรียนเพราะน้องเด็กกว่า ตอนนั้นอายุ 5 ขวบ อยู่โรงเรียนไผทอุดม แม่จะห่วงน้อง ตอนนั้นเจนอายุ 11 ขวบ เราก็โตรู้ความมากกว่าน้อง เจนเลยได้ไปอยู่กับพี่สาวของคุณพ่อ

ตอนนั้นเจนเหมือนเด็กที่ยังไม่ได้รู้จักกับคำว่าความอบอุ่นในครอบครัวมันเป็นยังไง ทุกวันอาทิตย์เจนเห็นทุกคนเขามีวันแฟมิลี่เดย์ แต่เจนไม่เคยมีเลยแม้แต่ 1 วันจนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นแม่ก็ไม่มีบ้าน ต้องไปขออาศัยเพื่อนอยู่ เจนเห็นความที่แม่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ บ้านไม่มี รถไม่มี เจนรู้สึกสงสาร ในตอนนั้นเจนมีโอกาสได้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนอัสสัมชัญ แล้วก็เริ่มได้ทำงาน เหมือนเขามาเห็นเจน แล้วชวนไปแคสโฆษณา แคสเป็น 10 ตัวก็ไม่เคยได้

เจนไปแคสแทบทุกวัน ทำอย่างเดิมทุกวัน ให้แนะนำตัว หันซ้าย หันขวา เดิมๆ ตลอดทุกวันจนเรารู้สึกว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่มุ่งมั่นในความรู้สึกคือต้องซื้อรถให้แม่ ต้องซื้อบ้านให้แม่ให้ได้ ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นเราไม่ได้นอนด้วยกันเลย เหมือนเราห่วงว่าแม่ไม่มีอะไรเลย แล้วเขาต้องเลี้ยงเจนกับน้องทั้งๆ ที่เขาไม่มีเงินอะไรจะมาเลี้ยงพวกเรา”

ฝังใจกินแฮมเบอร์เกอร์ทั้งน้ำตาเพราะถูกไล่ให้ไปกินนอกบ้าน
“ตอนนั้นเจนจะได้เงินอาทิตย์ละ 20 บาทซึ่ง 30 ปีที่แล้ว 20 บาทมีค่ามากสำหรับเจนี่ เจนจำได้เลย เจนกลับมาอยู่เมืองไทย แล้วเจนทานอาหารไทยไม่เป็น แล้วเจนชอบทานแมคโดนัลมาก แล้วแมคโดนัลสาขาแรกในเมืองไทยอยู่ตรงสีลมคอมเพล็กซ์ เจนอยากกินแฮมเบอร์เกอร์มากๆ เจนเลยเก็บเงินเพื่อที่จะซื้อแฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นไว้กิน

เชื่อไหมว่า ณ ตอนนั้น 1 คำที่มันเข้าไปในปากเจน เจนกำลังจะกัดเข้าปาก อี่โกว ชี้หน้าไล่ออกจากบ้าน เขาเป็นคนจีน ไม่กินเนื้อ ห้ามเอาเนื้อเข้าบ้าน ให้เจนไปนั่งกินกับหมานอกบ้าน เจนก็เลยไปนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์ด้วยน้ำตาจะไหลอยู่หน้าบ้านด้วยความอิ่มใจว่าฉันได้กินแฮมเบอร์เกอร์ จากการเก็บเงิน 20 บาทด้วยตัวเองทุกอาทิตย์ เราเก็บเงินที่ตอนนั้นเด็กๆ เขาจะเก็บไว้ซื้อลูกชิ้นตอนเย็นหน้าโรงเรียน เราไม่กิน เรากินไม่เป็น เราเก็บเงินเพื่อที่จะซื้อแฮมเบอร์เกอร์”

ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้ ทำงานส่งตัวเองเรียน ส่งน้องเรียน ซื้อบ้านซื้อรถให้แม่ ขมขื่นแค่ไหนก็กลืนน้ำตาและทุกอย่างลงไป
“ใครคิดว่าตัวเองมีชีวิตที่มันล้มเหลวแล้ว ดูมืดมน ไม่มีหนทาง เจนจะบอกว่าช่วยมาดูชีวิตฉันก่อนว่ามันล้มเหลวขนาดไหน ตอนนั้นคือไม่มีอะไรเลยจริงๆ เจนทำงานเพื่อที่จะจ่ายค่าเรียนหนังสือให้กับตัวเอง และจ่ายค่าเรียนให้กับน้อง ซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อทุกอย่างให้แม่จากเงินที่หามาได้ด้วยตัวเองในทุกๆวัน

เจนไม่ได้มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนเพื่อนๆ คนอื่น พอ 3 โมงเย็น เลิกเรียนก็จะมีรถตู้กองถ่ายละครมารับ พร้อมอาหารกล่องในรถตู้ เจนต้องทำงาน 7 วันเพื่อจะเก็บเงินซื้อทุกอย่างให้กับแม่และส่งน้องเรียน ชีวิตเจนเกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้จริงๆ ความขมขื่นอะไรเราก็กลืนมันลงไปหมดทุกอย่าง บอกคนรอบตัวไม่เป็นไรนะ อยู่ให้มีความสุขนะ เดี๋ยวทางนี้จะจัดการให้ แล้วเป็นอย่างนี้มาตลอดทั้งชีวิต

เจนไม่ได้เป็นคนที่ร้องไห้ฟูมฟาย แต่ทุกครั้งที่เจนรู้สึกอยากจะร้องไห้ เจนจะกลืนน้ำตาตัวเอง จะบอกกับตัวเอง อย่าร้องไห้ออกมานะ เจนรู้สึกว่าคนร้องไห้ คือ คนแพ้ แต่ความรู้สึกเจน ชีวิตเจน เจนแพ้ไม่ได้ ถ้าเจนแพ้แม่กับน้องเจนจะสู้ยังไง คนอื่นที่เรารู้สึกว่าเรารักเขา เขาจะอยู่ยังไงถ้าเจนมัวแต่ร้องไห้ เอาแต่แสดงความอ่อนแอ เจนเลยจะไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นแม้แต่คนเดียว เรารู้สึกว่าเราจะต้องแข็งแรง”

ชีวิตจะเจ็บจะล้มลุกคลุกคลานแค่ไหนจะไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอ เชื่อร้องไห้=แพ้
“ไม่ว่าจะเจ็บและล้มแค่ไหน เจนจะไม่มีน้ำตาให้ใครเห็นเลย แต่มีครั้งนึงที่ร้องไห้ให้คุณแม่เห็น เป็นอดีตที่ไม่ควรจำและใส่ใจ ก็เป็นข่าวใหญ่มากอยู่ ตอนนั้นแม่รู้ว่าเจนไม่กินข้าวเลย ไม่ออกจากบ้านเห็นเดือนเห็นตะวัน เหมือนขังตัวเองอยู่ในคุก วันนั้นแม่เข้ามาที่บ้านเอาข้าวมาวางให้ เราก็ยังทำตัวแข็งแรง แม่ก็มาลูบหลัง แม่บอกกินหน่อยสิ เจนก็ไม่มองหน้าแม่เลยทำตัวแข็งแรง บอกกับตัวเองห้ามมีน้ำตา ชีวิตนี้แม่ไม่เคยพูดอะไรกับเจนเลย แม้แต่คำว่าคิดถึง คำว่ารักก็นานน๊านจะพูดทีเนื่องในโอกาสวันแม่หรืออะไรทำนองนั้น ในชีวิตประจำวันเราจะไม่มีการแสดงความรักใดๆ ทั้งสิ้นกัน มันเหมือนต่างคนต่างต้องแข็งแรงและอยู่บนโลกใบนี้กันให้ได้ต่อไป

จนวันนั้นแม่มาบอกว่ากินข้าวหน่อยนะลูก หม่ามี้รู้ว่าเจนี่มีความทุกข์ ถ้าเจนี่ทุกข์ขนาดไหน หม่ามี้ทุกข์กว่าเจนี่สองเท่านะ เท่านั้นแหละน้ำตาไหลใส่ข้าวไม่หยุด แกก็บอกกินหน่อยนะ หม่ามี้ทำมาให้กิน ถ้าเจนี่ยังทุกข์อย่างนี้หม่ามี้ก็กินอะไรไม่ลงเหมือนกัน ถ้าเจนี่กินลงหม่ามี้ก็จะมีความสุข ชีวิตเจนไม่เคยคาดหวังอะไร แต่เวลาที่เจนเห็นคนที่เขายิ้มรับในสิ่งที่เราให้ เจนจะฟิน เจนจะมีความสุขมากกว่าถ้าเห็นคนอื่นมีความสุข”

หลังจากอีพีนี้ออกอากาศไป แฟนๆ ได้ดูก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น หลายคนเซอร์ไพรส์ไม่คิดว่าเจนี่ ก็มีมุมแบบนี้เหมือนกัน หลายคนชื่นชมและขอโทษที่เคยมองเจนี่ไม่ดีมาตลอด


























กำลังโหลดความคิดเห็น