“ณวัฒน์” ลั่นแฟนคลับอย่าสปอย “ชาล็อต” มากจนเกินไปจนทำให้ศิลปินเข้าใจอะไรผิดๆ เข้าใจอยากไปงานวันเกิดเพื่อน “ฟรีน สโรชา” แต่การไปมีวิธีอยู่ บริษัทไม่อนุมัติก็ไม่ควรแอบไป ยันไม่ได้ห้ามแต่ต้องดูความเหมาะสม เผยจะจับต่อสัญญาทันทีเพื่อความมั่นใจในการทำงาน หากไม่ยินดีต่อก็ทำเท่าที่ได้
ทำเอาปะป๊าบ้าน MGI “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล”ไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะช่วงนี้ลูกรัก “ชาล็อต ออสติน”เกิดอาการดื้อ และหมางเมินใส่ ทำเอาผู้ปกครองต้องออกโรงตักเตือน จากเคสที่ ชาล็อต แอบไปงานเบิร์ธเดย์ “ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ”ทั้งๆ ที่บริษัทไม่อนุมัติให้ไป แต่กลับถูกแฟนคลับมองว่าบริษัทและณวัฒน์ทำเกินกว่าเหตุ งานนี้ณวัฒน์ก็ออกมาชี้แจงเป็นข้อๆ ชัดเจน ถึงเหตุผลการห้าม และการปรากฎตัวสู่ที่สาธารณะของศิลปิน
-ช่วงนี้ชาล็อตแอบดื้อนิดนึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เริ่มมีอาการแปลกๆ เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ผมจะไลน์ไปคุยงานกับเขาแต่เขาไม่อ่าน 3-4 วัน ผมจึงบอกหัวหน้า AR ว่าไปดูศิลปินสิทำไมไม่ตอบ ceo เลย ซึ่งน้องไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
-วันเกิดผมที่ผ่านมา ศิลปินทุกคนจะอวยพรในโซเชียล ศิลปินลูกหม้อก็ส่งมาส่วนตัว ทุกคนส่งหมดยกเว้นชาล็อตคนเดียว จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ส่ง ไม่ส่งอะไรเลย ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นดูแปลกๆ
-เดี๋ยวบางคนก็จะถามทำไมไม่ไปพูดกันเอง ก็แฟนคลับชอบมาคอมเมนต์ขณะที่ผมทำงานบนโซเชียล ทำไมไม่หางานให้ชาล็อต ทำไมไม่หางานเดี่ยวให้ชาล็อต ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะผมก็ยังติดต่อน้องแทบไม่ได้ในช่วงนี้
-จะบอกแฟนคลับว่าต้องอย่าโอ๋ อย่าเอาใจจนทำให้น้องเข้าใจอะไรผิด ที่อ่านคอมเมนต์ล่าสุด แฟนคลับบอกชาล็อตกับฟรีนเขาสนิทกันมาก ปล่อยเขาบ้างเถอะ ผมรู้นะว่าแฟนคลับต้องการจะช่วยปกป้องศิลปิน ผมไม่ได้บอกว่าไปไม่ได้ สิ่งสำคัญคือศิลปินต้องไปตามข้อกำหนดของผู้จัดการ ถ้าเขาคอมเมนต์ว่าให้ไป ไปเพราะอะไร ไปแบบไหน เอา AR ไปด้วยไหม มันมีวิธีการไป เรื่องนี้มีการคุยกันแล้ว สรุปคือไม่ได้ไป ที่ไม่ได้ไปไม่ใช่เพราะมีปัญหากับฟรีน ไม่เกี่ยวเลยนะ แต่เมื่อมันถูกบอกว่ามาจากผู้จัดการแล้วว่างานนี้ไม่ไป มันก็มีเหตุผลของมัน ฉะนั้นอย่าแหกคอก อย่าอยู่ๆ แอบไป
-และการไปโดยไม่มี AR (คนดูแลศิลปิน) ไม่มีผู้ช่วย ภาพที่ปรากฎออกมาเป็นสิ่งที่เราต้องดูแลภาพลักษณ์ศิลปิน เราไม่ว่ากันเรื่องความสนิทแต่จะไปยืนกรี๊ด ทำอะไรไปแล้วมีคนถ่ายคลิป แล้วเกิดการแชร์ โพสิชั่นนิ่งของศิลปินมันทำไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นบอยเลิฟ เกิร์ลเลิฟ คู่ที่มีชื่อเสียเป็นที่นิยมเขาจะควบคุมอย่างชัดเจน ใครจะทำอะไร อย่างนั้นอย่างนี้ได้ไหม ตัวผมเองไม่เคยเห็นใครได้รับอิสระมากจนเกินเหตุ แฟนคลับชาล็อตต้องเข้าใจนะ จะมาคอมเมนต์แปลกๆ มันเป็นเรื่องของเขา ไม่นะ มันเป็นเรื่องของเรา อย่าเข้าใจผิด
-ถ้าแฟนคลับชาล็อตยังปล่อยน้องแบบนี้อายุการใช้งานน้องจะสั้นมาก มันจะลำบากกัน ต้องเข้าใจคำว่ามืออาชีพ เด็กรุ่นใหม่ๆ ไอดอลทุกคนต่างก็ถูกกำหนดไว้หมดแม้กระทั่งในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน ถ้าเรื่องไหนที่ออกสื่อเราจำเป็นต้องควบคุมไม่ว่าจะลักษณะการแต่งตัว แต่งหน้า ตำแหน่งที่คุณไปยืน ลักษณะอาการที่คุณทำหรือคุณไปยืนถ่ายรูปกับใคร เราต้องระวังหมดเพราะคุณคือมูลค่า ไม่อย่างนั้นสปอนเซอร์จะโกรธ พรีเซ็นเตอร์จะไม่ชอบรึเปล่า
-บริษัทเรามีระบบการทำงาน ไม่ได้จะไม่ให้คุณไปไหน เพียงแค่ถ้าคุณจะไปต้องไม่ออกสื่อ ถ้าออกสื่อคุณต้องถูกเราพาไป ทุกงานจะไปไหนต้องขอ ยกเว้นไปกินข้าวกับเพื่อน กับพ่อแม่
-ทำไมชาล็อตถึงเปลี่ยนไป อันนี้ไม่รู้เลย อาจเพราะเวลานานขึ้น น้องอยากมีงานเพิ่ม เราก็พยายามหาให้ แต่น้องกลับเดินห่างออกไป แบบนี้จะหางานให้ได้ด้วยวิธีไหน มันต้องเชื่อกันด้วยนะ ถ้าไม่เชื่อกันทีมหางาน ทีมดูแลเขาก็ท้อใจ เรื่องนี้ให้ผู้ใหญ่ในออฟฟิศเป็นคนดูแล ผมไม่คาดโทษ
-ชาล็อตต้องปรับตัวเองให้กลับมาโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ต้องมีมาตรฐานในการอยู่ร่วมกัน คนเราจะดังแค่ไหนก็แล้วแต่จะต้องไม่ลืมตัวเอง คนเราจะดังจริงๆ ต้องใช้ความสามารถสูงๆ คนเราเกิดมาวันที่ 1 เป็นแบบไหนก็ควรจะเป็นแบบนั้น ไม่ใช่พอนานวันแล้วมองข้ามหัวเราไปรึเปล่า ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ ไม่รู้เหมือนกัน
-การกระทำของเขาทำให้เราคิดได้ว่าความน่าเอ็นดูกับความไม่น่าเอ็นดูมันมีเส้นบางๆ ต้องระมัดระวังด้วย ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนที่เขาไม่อยากส่งเสริมหรอก แต่เขาก็เลือกส่งเสริมตัวจริง หนึ่งคุณภาพ สองความสม่ำเสมอ สามไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปเท่าไหร่ก็เหมือนเดิม นี่คือสิ่งที่ชอบ
-ไม่ได้พักงานชาล็อต งานน้องยังมีอยู่อีกเยอะ แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ที่ผ่านมาก็มีนิดๆ หน่อยๆ เป็นจังหวะ แต่ตอนนี้ดูงงๆ ทำไมน้องน้องไปยืนถือดอกไม้แล้วก็กรี๊ดในวันเกิดคนอื่น เราต้องเข้าใจว่าเขาก็มีคู่จิ้นของเขาอยู่ เราจะไปทำอะไรเกินหน้าเกินตาไม่ได้ สติต้องมี ไม่ได้หมายถึงสนิทหรือไม่สนิท แต่หมายถึงสาธารณะ มันต้องเข้าใจในบริบท ตัวเองต้องมานั่งกรี๊ดในสิ่งที่ตัวเองทำด้วยนะ
-สัญญาชาล็อตยังเหลืออีก 2 ปีกว่า เดี๋ยวจะยืนโนติสไปขอต่อสัญญาเลย เพื่อความมั่นใจว่ายังจะไปต่อกับเรา ถ้าต่อสัญญาเลยเราจะคุยและไปต่อ แต่ถ้าไม่ต่อก็ไปเท่าที่จะทำได้
