การเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก โดยเฉพาะ “ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก” (Effective Rate) ที่เปรียบเสมือนเครื่องมือชั้นดีสำหรับ “สายโปะ” หรือคนที่ต้องการจ่ายเงินเกินค่างวดเพื่อลดเงินต้นให้ได้มากที่สุด บทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักดอกเบี้ยประเภทนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นพร้อมแจกสูตร และตัวอย่างที่จะทำให้เห็นภาพว่า การโปะหนี้ช่วยให้คุณประหยัดเงิน และเป็นอิสระทางการเงินได้ไวกว่าที่คิดได้อย่างไร
“ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก” หัวใจสำคัญของการปิดหนี้ไว
วิธีคิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คือ การคำนวณดอกเบี้ยจาก “เงินต้นคงเหลือ” ในแต่ละงวดเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งที่เราชำระค่างวด เงินส่วนหนึ่งจะถูกนำไปหักดอกเบี้ย และส่วนที่เหลือจะไปลดเงินต้น ทำให้เงินต้นสำหรับคำนวณดอกเบี้ยในงวดถัดไปลดลงดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจึงลดลงตามไปด้วย ยิ่งเราจ่ายเงินต้นคืนได้มากเท่าไร ก็ยิ่งจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงเท่านั้น
สำหรับคนที่อยากรู้ว่า แล้วถ้าโปะค่างวดชำระเกินทุกงวดจะช่วยให้ปิดหนี้เร็วได้อย่างไร สามารถดูตัวอย่างการคิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอกได้ที่บทความ “ปลดล็อกสกิลการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ รู้ก่อนได้เปรียบกว่า”
ทำไมดอกเบี้ยลดต้นลดดอกถึงเป็นมิตรแท้ของ“สายโปะ”
Alt Text : ข้อดีของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก
ด้วยหลักการที่ดอกเบี้ยจะลดลงตามเงินต้นที่หายไป ทำให้ดอกเบี้ยรูปแบบนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ต้องการรอผ่อนชำระไปจนครบสัญญา แต่ต้องการบริหารหนี้ให้หมดเร็วที่สุด
1. ยิ่งโปะ ยิ่งประหยัดดอกเบี้ย
เงินทุกบาทที่จ่ายเกินค่างวดปกติ หรือที่เรียกว่า “การโปะ” จะถูกนำไปหักลบกับ “เงินต้น” โดยตรง ไม่ได้ไปรวมกับดอกเบี้ย ทำให้ฐานในการคำนวณดอกเบี้ยของงวดถัดไปเล็กลงทันที ส่งผลให้คุณประหยัดค่าดอกเบี้ยโดยรวมตลอดอายุสัญญาได้มากกว่าเดิม
2. เพิ่มความยืดหยุ่น และอิสระในการผ่อนชำระ
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกให้ความคล่องตัวสูง เดือนไหนมีเงินเหลือก็สามารถโปะเพิ่มเพื่อลดต้นได้ แต่หากเดือนไหนมีค่าใช้จ่ายอื่นเข้ามา ก็ยังสามารถจ่ายตามค่างวดปกติได้โดยไม่ผิดสัญญา ช่วยให้คุณบริหารกระแสเงินสดในแต่ละเดือนได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ช่วยให้ปิดหนี้ได้เร็วกว่ากำหนด
เมื่อเงินต้นลดลงอย่างรวดเร็วจากการโปะหนี้อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระของคุณสั้นลงกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาได้อย่างมีนัยสำคัญ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดดอกเบี้ย แต่ยังช่วยให้คุณปลดภาระหนี้ และไปถึงเป้าหมายทางการเงินอื่น ๆ ได้เร็วขึ้น
แจกสูตร วิธีคิดดอกเบี้ยต่อเดือนแบบลดต้นลดดอก คำนวณเองฉบับง่าย ๆ
การคำนวณดอกเบี้ยด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รู้สูตร และตัวเลขที่จำเป็น ก็สามารถประเมินภาระดอกเบี้ยในแต่ละเดือนได้แล้ว ทำให้การวางแผนโปะหนี้แม่นยำยิ่งขึ้น
โดยสูตรการคำนวณดอกเบี้ยรายงวดที่สถาบันการเงินส่วนใหญ่ใช้ก็คือ
(เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวด) ÷ 365 = ดอกเบี้ยต่องวด
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอก 2 งวดแรก (กรณีไม่โปะเพิ่ม)
นางสาวส้มโอ กู้สินเชื่อส่วนบุคคล 200,000 บาท คิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก โดยที่มีอัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปี มีระยะเวลาการชำระทั้งหมด 2 ปี (24 งวด) และชำระค่างวดเดือนละ 11,333.33 บาทเท่ากับว่า นางสาวส้มโอ จะต้องจ่ายค่างวดใน 2 เดือนแรก ดังนี้
งวดที่ 1 (สมมติ 31 วัน)
- ดอกเบี้ย : (200,000 x 18% x 31) ÷ 365 = 3,057.53 บาท
- หักเงินต้น : 11,333.33 - 3,057.53 = 8,275.80 บาท
- เงินต้นคงเหลือ : 200,000 - 8,275.80 = 191,724.20 บาท
งวดที่ 2 (สมมติ 28 วัน)
- ดอกเบี้ย : (191,724.20 x 18% x 28) ÷ 365 = 2,647.37 บาท
- หักเงินต้น : 11,333.33 - 2,647.37 = 8,685.96 บาท
- เงินต้นคงเหลือ : 191,724.20 - 8,685.96 = 183,038.24 บาท
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอก 2 งวดแรก (กรณีโปะเพิ่มเดือนละ 3,000 บาท)
นายก้องภพ กู้สินเชื่อส่วนบุคคล 200,000 บาท คิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก โดยที่มีอัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปี มีระยะเวลาการชำระทั้งหมด 2 ปี (24 งวด) และชำระค่างวดเดือนละ 11,333.33 บาทและโปะเพิ่มเดือนละ 3,000 บาท (รวมจ่าย 14,333.33 บาท) เท่ากับว่า นายก้องภพ จะต้องจ่ายค่างวดใน 2 เดือนแรก ดังนี้
งวดที่ 1 (สมมติ 31 วัน)
- ดอกเบี้ย : (200,000 x 18% x 31) ÷ 365 = 3,057.53 บาท
- หักเงินต้น : 14,333.33 - 3,057.53 = 11,275.80 บาท
- เงินต้นคงเหลือ : 200,000 - 11,275.80 = 188,724.20 บาท
งวดที่ 2 (สมมติ 28 วัน)
- ดอกเบี้ย : (188,724.20 x 18% x 28) ÷ 365 = 2,605.80 บาท
- หักเงินต้น : 14,333.33 - 2,605.80 = 11,727.53 บาท
- เงินต้นคงเหลือ : 188,724.20 - 11,727.53 = 176,996.67 บาท
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า แม้จะผ่านไปเพียง 2 เดือน แต่เงินต้นคงเหลือของนายก้องภพน้อยกว่าของนางสาวส้มโออย่างเห็นได้ชัดการโปะเพิ่มเพียงเดือนละ 3,000 บาท ทำให้นายก้องภพสามารถลดเงินต้นได้เร็วกว่า ซึ่งจะส่งผลให้เขาจ่ายดอกเบี้ยโดยรวมน้อยกว่า และปิดหนี้ได้ไวกว่าในระยะยาว
สรุปได้ว่า การเข้าใจวิธีคิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ไม่เพียงช่วยให้เราประเมินภาระหนี้ได้แม่นยำขึ้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราวางแผนปิดหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกโปะเมื่อมีโอกาสจึงเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดดอกเบี้ย และไปถึงเป้าหมายการเป็นไทจากหนี้สินได้เร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง
ที่มา : Krungsri The COACH
