“บอย ถกลเกียรติ - ป้อน นิพนธ์” ปล่อยของ ช่องวัน 31 จัดใหญ่ ขนทัพนักแสดงแถวหน้า ทั้งรุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ไฟแรง เตรียมส่งละครครึ่งปีหลัง 7 เรื่อง จัดเต็มทุกแนว ทั้งพีเรียด BL ซุปเปอร์ฮีโร่ แย้มเซอร์ไพรส์ดึง “อั้ม พัชราภา” ร่วมงาน เปรยเดี๋ยวนี้ทำละคร-ซีรีส์ยาก รับมีเรื่องที่ทำแล้วทิ้งทำรูปแบบเดิมไม่แคร์คนดูไม่ได้
สร้างความฮือฮาให้กับวงการบันเทิงอีกครั้ง เมื่อ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ”ผนึกกำลังกับ “ป้อน นิพนธ์ ผิวเณร” หัวเรือใหญ่แห่งช่องวัน 31 เปิดตัวทัพนักแสดงระดับแนวหน้าของเมืองไทยทั้งรุ่นใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการ และรุ่นใหม่ไฟแรงที่การันตีด้วยฝีมือ เตรียมฟาดฟันปล่อยพลังการแสดงแบบจัดเต็มในโปรเจกต์ต่างๆ
โดย บอย ถกลเกียรติ ควง ป้อน นิพนธ์ เผยถึงโปรเจกต์ต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในงาน “ปรากฏการณ์ one สนั่นจอ 2025” ณ Sphere Hall ชั้น 5 เอ็มสเฟียร์ ว่า
บอย ถกลเกียรติ : “งานวันสนั่นจอ ไลน์อัปเปิดละครที่เรานำเสนอในครึ่งปีหลังนี้ น่าดูกันทุกเรื่องเลย แต่ละเรื่องก็มีจุดเด่น”
ป้อน นิพนธ์ : “แล้วเราจะทำเรื่องเล็กทำไม (หัวเราะ)”
บอย ถกลเกียรติ : “มีหลากหลายครับ มีทั้งพีเรียด ปัจจุบัน วัยรุ่น BL มีทั้งซุปเปอร์แมส มีทั้งพรีเมียม เยอะแยะไปหมดเลยครับ น่าดูไปหมด”
ดีใจได้ร่วมงานกับ “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ" และ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์”
บอย ถกลเกียรติ : “ก็ต้องบอกว่าดีใจมากๆ ครับ ที่เราจะได้มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงคุณภาพหลายๆ คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่หรือว่ารุ่นใหม่ รุ่นใหญ่ที่เรียกว่าเป็นสุดยอดฝีมือของวงการ หลายๆ คนก็มาร่วมงานกับเรา อยากมาร่วมงานกับเรา ตอนนี้ก็ได้มาร่วมงานกับเรา มันแสดงอะไรให้เห็นบางอย่าง
สิ่งที่เราทำมาตลอดเวลาที่เราทำอาชีพนี้มา ทำละครมา คนเห็นว่าพวกเราเป็นคนที่น่าร่วมงานด้วย พวกเราเป็นคนที่ทำละครที่มีคุณภาพ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีใจมากๆ ครับ ในขณะที่รุ่นใหม่เองก็เรียกว่าเป็นรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพดูแล้วเขาทำถึง เขาเก่ง เขาหาอะไรต่างๆ ของเขามาทำการแสดง บางคนปะทะกับรุ่นใหญ่ได้อย่างไม่เก้อเขินเลย มันเลยมีพลังมากๆ ครับ”
ป้อน นิพนธ์ : “อย่างน้องณิชากับพี่ป๋อ เราอยู่เฉยๆ ไม่ได้จีบ พูดเล่นๆ”
บอย ถกลเกียรติ : “เราก็ติดต่อไปแหละ”
ป้อน นิพนธ์ : “โปรเจ็กต์ที่มันดีเราก็เสนอคนที่สามารถเล่นได้ก็แค่นั้นเอง ถ้าโปรเจกต์ไม่ดีผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากเล่น สิ่งที่เราทำตลอดเวลาเราทำไทยคอนเทนต์ มันต้องมี value มันต้องทันสมัยร่วมสมัยกับคนปัจจุบันนั่นคือสิ่งที่เรายึดถือมาตลอด ความเป็นไทยคอนเทนต์มันต้องมีการพัฒนาและเติบโตไปข้างหน้า ไปด้วยกันกับคนดู แล้วก็ไปพร้อมกับโลกที่หมุนไปนั่นคือสิ่งที่เราทำมาตลอด
ณิชาเล่นเรื่องเดียว ทีละเรื่องซะมากกว่า พอมันมีโปรเจกต์นำเสนอแล้วคุยกันว่าอยากได้ยังไงแบบไหน ผมว่าเดี๋ยวนี้โลกยุคใหม่จะเป็นแบบนี้หมดแล้ว ถ้าโปรเจกต์ดีมีแนวโน้มที่ดีแล้วนักแสดงอยากเล่น และมีเวลาที่จะทำดีๆ ด้วยกัน มันก็จะเกิดความลงตัวในโปรดักชั่น ผมว่าละครหรือว่าซีรีส์ทั้งหลายมันก็จะพัฒนาไปข้างหน้า นั่นคือสิ่งที่เรายึดมั่นมาตลอดเวลา เรื่องเซ็นสัญญายังไม่ได้คุยขนาดนั้นครับ ตอนนี้คือลองเรื่องนี้กันไปเรื่อยๆ ก่อน”
อุบตอบมีเซอร์ไพรส์ ดึง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ" ร่วมงาน
บอย ถกลเกียรติ : “เราไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่าเซอร์ไพรส์ไง อย่างที่บอกถ้าใครที่พร้อม เราก็ติดต่อเพราะว่าก็มีงานที่เราเชื่อว่ามันดีมากๆ แล้วพอติดต่อไปถ้าเผื่อเขาชอบด้วย เห็นดีด้วยสนุกอยากร่วมงานกับเราด้วย เราก็คุยกันครับ”
ป้อน นิพนธ์ : “ต้องรอดู มีก็ไม่บอกหรอก”
ป้อน นิพนธ์ : “มันอยู่ที่โปรเจกต์มากกว่า เราไม่ได้ตั้งที่นักแสดง เราตั้งที่โปรเจกต์ว่าใครเหมาะสมที่สุดกับการแสดง แล้วโปรเจกต์นี้จะไปที่ไหน ฉายที่ไหน ฉายบ้านเรา หรือว่าฉายใน OneD หรือจะไปที่โกลบอล มันมีหลายสเต็ปมาก เดี๋ยวนี้เวลาคิดหนึ่งคอนเทนต์มันต้องรู้ว่าคนดูอยู่ที่ไหน แล้วคนที่ควรจะอยู่ในโปรเจกต์ที่เหมาะสมกับคนดูนั้นเป็นใคร
ผมว่ามันเป็นแบบนี้แล้ว มันไม่ใช่ว่าภายในประเทศ มันก็ต้องไปข้างหน้าด้วยนั่นคือประเด็น ดังนั้นตอบไม่ได้ว่าตั้งต้นที่นักแสดงไม่ค่อยตั้ง ตั้งที่โปรเจกต์แล้วใครเข้ากับสิ่งนี้มากที่สุด ก็นำเสนอเขาตรงไปตรงมา ส่วนโปรเจกต์ที่พอจะเข้ากับอั้ม ตอนนี้เหนื่อยแล้ว ขอปีหน้าตอบได้ไหม (หัวเราะ)”
บอย ถกลเกียรติ : “เดี๋ยวตอบปีหน้า คิดไม่ทัน (หัวเราะ)”
ป้อน นิพนธ์ : “จริงๆ จะบอกว่าเดี๋ยวนี้ทำละครหรือซีรีส์มันยากขึ้นทุกวัน อันนี้ผมต้องเรียนตรงๆ นะครับ มันไม่ได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อนที่มีพระเอกนางเอก ตัวร้ายก็ฉายกันไป เดี๋ยวนี้มันไม่ได้ เพราะว่าคู่แข่งของเรา เราก็สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มเยอะแยะ ทุกคนก็รู้ว่าคนจะดูอะไรไม่ดูอะไร ดังนั้นถ้าเราทำแบบเดิม มันก็จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม เราต้องทำแบบใหม่เพื่อจะได้คนรุ่นใหม่ มันเลยต้องผ่านขั้นตอนเยอะเราต้องคิดมาก บางทีบางเรื่องเราทำเรื่องมาแล้วเราก็ทิ้งเลยก็มี มันก็ต้องทำดีกว่าทำมาแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จ มันจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า ขั้นตอนการเตรียมงานของเรามันจึงใช้เวลานานนะครับ”
บอกสร้างละครต้องดูบริบทและให้เข้าใจคนดูถึงจะอยู่รอด
ป้อน นิพนธ์ : “มันต้องมองให้ชัดว่าถ้าเรามีความคิดอยู่กับคนดูมันจะถูกต้อง ขยายความคือคนดูได้เปลี่ยนไปแล้ว เราไม่ควรจะทำแบบเดิม คาแรกเตอร์คนปัจจุบันเป็นแบบไหนคุณต้องทำให้เป็นแบบนั้น มันไม่เกี่ยวกับเซ็ตติ้ง เซ็ตติ้งนั่นเป็นบรรยากาศ แต่ตัวละครในเรื่องหรือเรื่องที่คุณพูดมันต้องเทียบเคียงกับตัวคนดูให้ได้ว่าเขาเข้าใจตัวละครและภาวะแวดล้อม และบริบทของเรื่อง ผมว่านั่นคือประเด็น
การที่จะบอกว่าละครไม่ได้แล้ว ไม่ได้ ถ้าคุณทำแบบเดิมแล้วก็ไม่ได้แคร์คนดูปัจจุบันอันนั้นไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าทำแมสไม่ได้นะครับ อย่างละครหนึ่งทุ่มที่เห็นวันนี้ เราก็ชัดเจนว่าหนึ่งทุ่มเป็นซูเปอร์แมส ชาวบ้านต้องการสิ่งนี้ ต้องการแฟมิลี่ไทม์ของเขา ต้องการความอ่อนโยน ความซื่อสัตย์ นั่นก็คือกลุ่มเป้าหมายของหนึ่งทุ่ม ส่วนสองทุ่มอีกอย่างหนึ่ง OneD หรือ โกลบอลก็เป็นอีกแบบหนึ่ง มันจะแยกมากขึ้น”
บอย ถกลเกียรติ : “ต้องบอกว่าละครตัวสะท้อนกับสังคม เป็นตัวสะท้อนของคนในประเทศนั้นๆ เป็นยังไง ละครมันมีความสะท้อนอะไรบางอย่างออกมา ทั้งความชอบ ความไม่ชอบ หรือมีความ Scape ที่เขาชอบอย่างนั้น แต่ในขณะเดียวกัน บางทีละครที่เราทำ มันชอบมีการยึดติด ถ้าเกิดคุณจะรีเมกอะไรสักอย่าง จะชอบเอาไปเทียบกับอันเก่า ก็จะบอกว่าอันเก่าดีกว่า แต่ว่าไม่ได้ดูบริบทของอันเก่าว่าตอนนั้นใครดู มันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวในเรื่องของการทำเดิมๆ ซ้ำๆ อันนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่ผมว่ามันก็มีส่วนในการที่จะทำให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าได้ช้าลง
แต่ถ้าเผื่อเรากล้า เรียกว่าเสี่ยงแล้วกัน เรากล้าเสี่ยง ไหนลองดูถ้ามันเป็นอย่างนี้บางเรื่องที่เราเสี่ยงแล้วมันก็ได้เฉยเลย เพราะคนดูเขาเปลี่ยนไปแล้วไง อะไรแบบนี้ครับ มันต้องบาลานซ์กันดีๆ ครับ ว่าเราอยากจะเสี่ยงแค่ไหน หรือเราอยากจะเพลย์เซฟแค่ไหน ทุกวันเป็นการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก ผมบอกได้เลยว่าวงการบันเทิงของโลกนี้ ไม่มีใครรู้สูตรสำเร็จหรอก”
ปัดสร้างละครสวนกระแสวิกฤต
บอย ถกลเกียรติ : “คือมันก็ไม่ได้สวนกระแสขนาดนั้น เราก็ลดนะ ถ้าพูดถึงวิกฤต มันก็มีวิกฤตอยู่ในเรื่องของสปอนเซอร์โฆษณาอะไรต่างๆ มันก็มีอยู่แล้วทุกคนก็เห็น แต่เราก็ต้องดูว่าแล้วเอาเข้าจริงๆ คนดูไม่อยากดูละครแล้วเลยเหรอ ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่
คนดูอยากดู แต่เขาดูที่ไหน เขาดูจากอะไร และเขาดูอะไร เขาดูละครแบบไหน แล้วเขาดูจากที่ไหน อันนี้ต่างหากที่เราต้องหาให้เจอว่ามันไม่เหมือนกับตอนที่มีโทรทัศน์อยู่ 4-5 ช่องอีกต่อไป ตอนนี้มันมีเต็มไปหมด โซเชียลมีเดียด้วย สตรีมมิ่ง แพลตฟอร์มต่างๆ แอปพลิเคชั่นต่างๆ มันดูได้เยอะแยะเต็มไปหมด ก็ต้องดูว่าใครดูอะไรที่ไหน และเขาดูคอนเทนต์แบบไหน ก็ทำให้มันถูกที่ถูกทางครับ (ไม่ได้มองว่าเป็นการเสี่ยงที่จะลงทุน?) มันเสี่ยงอยู่แล้วครับ เคยได้ยินไหมครับ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ (หัวเราะ)”
ป้อน นิพนธ์ : “มันเป็นอาชีพเรา”
บอย ถกลเกียรติ : “เราเสี่ยง แต่เราต้องดูแลตัวเองด้วย เราไม่ได้เสี่ยงแบบโยนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ เราก็ต้องรัดเข็มขัดด้วย ไม่ใช่เสี่ยงไปเรื่อยๆ แต่ว่าเราก็ต้องมีความเสี่ยงที่คิดหน้าคิดหลังด้วย”
ป้อน นิพนธ์ : “ดูว่าเราเสี่ยงได้แค่ไหน กี่บาท”
ป้อน นิพนธ์ : “ปีหน้าจะเสี่ยงมากกว่านี้ไหม ก็ต้องรอดูสิจ๊ะ”
ฝากไลน์อัป 7 เรื่อง
บอย ถกลเกียรติ : “ก็ฝากด้วยนะครับละครและซีรีส์ต่างๆ ที่น่าดูมากๆ ของ One31 ในครึ่งปีหลังนี้มีเยอะแยะเลยทีเดียว เปิดตัวกันไป 7 เรื่อง น่าดูมากๆ ในทุกๆ เรื่อง แต่ละเรื่องมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป เชื่อว่าผู้ชมจะได้รับความสุขและสนุกสนาน แล้วก็ได้รับอะไรดีๆ จากงานของเราได้อีกเยอะครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ”
