กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งผลักดันอุตสาหกรรม สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ดันมาตรฐาน Thailand Textiles Tag สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคภายใต้มาตรฐานสินค้าไทย รองรับซอฟต์พาวเวอร์ และก้าวสู่เศรษฐกิจยั่งยืน โดยปี 68 มีผู้ผ่านการรับรองจำนวน 36 กิจการ 57 ผลิตภัณฑ์ คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เปิดเผยว่าปัจจุบัน ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้เกิดมูลค่าและรายได้เพิ่มสูงขึ้น พร้อมให้ความสำคัญในเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน จึงจำเป็นต้องช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถพัฒนา สินค้าที่มีคุณภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) โดยดำเนินงานภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ตามนโยบาย 4 ให้ 1 ปฏิรูป ให้ทักษะใหม่ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และปฏิรูป ดีพร้อมสู่องค์กรที่ทันสมัย โดยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม แฟชั่นไลฟ์สไตล์ไทย เพิ่มมาตรฐานของสินค้าในทุก ๆ ด้าน
นางสาวณัฏฐิญา กล่าวต่อว่ากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรม (DIPROM Thailand Textiles Tag) ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยการบูรณาการกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อเร่งยกระดับผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทย ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อาทิ ผู้ผลิต เส้นด้าย ผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป เคหะสิ่งทอ และสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่มีสิ่งทอเป็นองค์ประกอบ ด้วยการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน พร้อมการขอรับรองภายใต้ตราสัญลักษณ์คุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทย (Thailand Textiles Tag) ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อผ้าความคงทนของสี และความปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้และกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย (Made in Thailand)
ในปีปัจจุบันมีผู้ประกอบการสนใจยื่นขอการรับรองเครื่องหมาย Thailand Textiles Tag และพัฒนาผลิตภัณฑ์จนได้การรับรองตามหลักเกณฑ์ รวมทั้งสิ้น 36 กิจการ 57 ผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองในปีนี้ มีหลากหลายประเภท อาทิ ผ้าผืนสำหรับนำไปพิมพ์และตัดเย็บ ผ้าพิมพ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งบุรุษและสตรี ผลิตภัณฑ์ ไลฟ์สไตล์ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่มห่มได้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท โดยใน 6 ปีที่ผ่านมานั้น มีผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองเครื่องหมายรวมทั้งสิ้น 187 กิจการ 328 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 180 ล้านบาท
“ดีพร้อม เชื่อมั่นว่าการดำเนินกิจกรรมนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ให้มีคุณภาพสูง และได้มาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในตลาดโลก” นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
