“นุ๊ก สุทธิดา” บอกลูกคนบาปหนาไม่ตายง่ายๆ หลัง “ปาแปง” ขอแม่อย่าเพิ่งตาย อยู่ให้ได้ถึง 7 ปี มองเป็นคำพูดสุดสวีต ยันปาแปงแค่เด็กเนิร์ด ไม่ใช่อินโทรเวิร์ต ลูก 3 คน 3 รสชาติ รักกันแต่ไม่ค่อยแสดงออก
ดูแลตัวเองดีแม้เคยผ่านชีวิตช่วงวิกฤตเป็นมะเร็ง สำหรับ “นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” จนถึงตอนนี้ทุกอย่างดูสงบ และคงที่ ล่สุดนุ๊กได้อัปเดตสุขภาพ ระหว่างเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์นักแสดง “ผีเสื้อสลับลาย” ณ ตึกมีเดีย เทโร ช่อง 7HD ลั่นร่างกายแข็งแรง พร้อมลุยงานหนัก
“สุขภาพตอนนี้ก็ดีค่ะ ช่วงนี้ก็ดูแลตัวเองเป็นปกติ แล้วก็ตรวจเลือดทุก 3 เดือนเหมือนเดิมค่ะ อัลตร้าซาวด์ทุก 6 เดือน ทานยาทุกวันเป็นปกติค่ะ ตอนนี้ไม่มีอาการอะไรค่ะ อาจจะดูแลตัวเองดีเป็นพิเศษ แล้วก็หลังจากที่ไปให้เอ็นเคเซลล์มาก็รู้สึกว่าร่างกายสดชื่น แล้วก็แข็งแรงขึ้น ช่วงนี้ก็อาจจะลุยงานหนักด้วยซ้ำไปค่ะ แต่ก็ยังถือว่าโอเค แสดงว่าที่เราไปให้บำบัด ไปรักษามาก็น่าจะโอเค
ทำงานหนักก็มีผลค่ะ ถ้าเกิดว่าเราทำงานหนักแล้วเราเครียดมันก็อาจจะมีผล หรือว่าถ้าทำงานหนักแล้วนอนไม่เป็นเวลามันก็จะมีผล จริงๆ มันก็มีผลกับทุกคนอยู่แล้วความเครียดหรือว่าการนอนไม่ตรงเวลา แต่พอเราเป็นคนปกติเราอาจจะละเลยไม่สังเกตตัวเอง หรือว่าบางทีเราก็อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นแค่นิดหน่อย เพลีย หรือว่าหน้าตาเราไม่สดใส แต่พอสะสมมานานๆ ขนาดคนปกติก็ยังป่วยหรือว่าเป็นโรคอย่างอื่นได้ ถ้าเป็นคนที่ป่วยอยู่แล้วเรื่องพวกนี้อาจจะต้องให้ความสำคัญนิดนึง เรื่องการรับประทานอาหารต้องตรงเวลา การนอนที่ตรงเวลา อันนี้มันก็ช่วยด้วย แล้วถ้าเราดูแลตัวเองดีๆ อาจจะแข็งแรงกว่าคนปกติที่ใช้ร่างกายแบบเปลืองก็ได้
เริ่มปรับตัวคุ้นชินกับการที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขา แต่ว่าเราก็ยังจะต้องเฝ้าระวังว่ามันโตขึ้นไหม มันพัฒนาไปยังไงทุกๆ 6 เดือน แต่ว่าตอนนี้ก็ต้องชินกับการอยู่ร่วมกัน แต่ว่าจริงๆ ก็ไม่ได้โดดเดี่ยวค่ะ คนรอบข้างเป็นกันเยอะเลยค่ะ ที่สนิทๆ เสียไปก็เยอะเดือนที่ผ่านมา แต่ส่วนมากจะเป็นรุ่นผู้ใหญ่ ซึ่งพอเป็นผู้ใหญ่เนี่ยบางทีกว่าจะรู้ก็เข้าสเตท 4 กันไปหมดแล้ว แต่ว่าอย่างเราโชคดีเราได้รู้ตั้งแต่กลางๆ ต้นๆ มันก็ยังดูแลตัวเองกันไปได้ ก็ยังมีเพื่อนร่วมทางอีกเยอะเลยค่ะ (หัวเราะ)”
เผย “น้องปาแปง” ขอแม่อย่าเพิ่งตาย อยู่ให้ได้ถึง 7 ปี
“ลูกโตขึ้นด้วยค่ะ ช่วงนี้คิดว่าทุกคนน่าจะไม่รู้หรือคิดไปเอง ในแต่ละวัยมันจะมีวัยนึงที่เขากำลังระหว่างเด็กไปเป็นวัยผู้ใหญ่ มันจะมีช่วงปวดประสาทของพ่อแม่แต่ละคนก็จะไม่เท่ากันว่าช่วงอายุไหน แต่ของนุ๊กรู้สึกว่าลูกสองคนผ่านช่วงวัยนั้นไปแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงวัยที่เขากำลังเริ่มจะเติบโตและคุยรู้เรื่อง พยายามจะปรับจูนเข้าด้วยกันได้ มันก็เลยกลายเป็นว่าแค่นี้ก็เป็นกำลังใจแล้วค่ะ อย่างเช่น ล่าสุดปาแปงเขาก็พูดว่าแม่อย่าเพิ่งตายนะ (หัวเราะ) คือภาษาเขามันจะประหลาดนิดนึง เขาบอก แม่อย่าเพิ่งตายนะ อยู่กับผมให้ถึง 7 ปีนะ หลังจาก 7 ปีนี้เขามีแพลนจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ อยากให้แม่อยู่ เราฟังแล้วก็แบบเฮ้ยทำไมมันสวีตอย่างนี้ เขาก็ถามสวีตตรงไหนแม่ ก็ตรงที่มันเป็นความจริง เขาพูดแบบตรงไปตรงมามันดูสวีตดี เขาจะเป็นแนวนี้ค่ะ เวลาเป็นเด็กที่พูดไม่ประดิษฐ์ แต่มันสวีตด้วยความจริงของเขา มันเลยทำให้เรารู้สึกมันสวีตกว่าคำพูดแบบประดิษฐ์”
ขำๆ ตอบลูก คนบาปหนาไม่ตายง่ายๆ
โห คนบาปหนามันตายกันไม่ง่ายหรอก มันไม่ตายง่ายๆ หรอกลูก (หัวเราะ) ก็แบบเล่นฮาๆ อีก 7 ปี เขาก็คงอยากทำธุรกิจ ตอนนี้คือจะเป็นช่วงที่เขาอยากรับงาน เพราะเขาเก็บเงินคงอยากจะลงทุนอะไรสักอย่าง คงกำหนดกับตัวเองว่าเก็บเงินสัก 7 ปี แต่แกก็ยังไม่ได้พูดจริงจัง แล้วก็จะไม่ถามเยอะ เพราะว่าเหมือนเด็กเจนนี้เขาจะพูดเท่าที่เขาอยากให้เรารู้ เราก็จะไม่ไปก้าวก่ายเขาเยอะ เขาก็พยายาม แต่ว่ามันก็จะเป็นความพยายามแบบเหมือนเด็กที่เพิ่งออกจากห้องมา เขาเหมือนเด็กเนิร์ด ยังไม่รู้จักวิธีเข้ากับคน ยังไม่รู้จักวิธีพูดกับคน แต่เห็นได้ว่าเขาพยายามที่จะปรับตัว
เราจะพูดกันสั้นๆ นะคะถ้าเรื่องพวกนี้ เขาจะเป็นคนนิสัยห้ามพูดซ้ำๆ คือเราจะมองเห็นอนาคตเลยว่าแฟนเขา หรือคนที่เขาจะอยู่ด้วยจะต้องเป็นลักษณะไหน เขาจะไม่ชอบคนที่พูดซ้ำสองครั้ง เพราะว่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างหัวดี แม้ว่าจะทำเป็นไม่ฟัง แต่เขาคิดตาม เพราะฉะนั้นถ้าพูดอะไรซ้ำสองครั้งปุ๊บ เขาจะหันไปมองหน้าแล้วบอกแม่พูดแล้วนะ คือการเตือนว่าพูดซ้ำ ถ้าเกิดพูดครั้งที่สามคือจะเดินหนีเลยนะ”
ยันปาแปงเนิร์ด ไม่ใช่อินโทรเวิร์ต
“น้องชอบคุยนะคะ น้องบอกว่าน้องไม่ได้เป็นอินโทรเวิร์ต คือเขาไม่รู้ว่าคนคิดว่าเขาเป็นอินโทรเวิร์ตนะคะ คือเขาไปเจอลูกพี่ธัญญ่า (ธัญญาเรศ เองตระกูล) น้องลียาก็บอก อ๋อ พี่อินโทรเวิร์ต ปาแปงก็หัวเราะขึ้นมาแล้วก็บอกทำไมเขาเรียกผมอินโทรเวิร์ต (หัวเราะ) ก็เลยบอกว่าผมเป็นเนิร์ด ผมไม่ได้เป็นอินโทรเวิร์ต เขาก็ยอมรับค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาคุยกับเขา เนิร์ดก็จะคุยเรื่องเกม ถ้าคุยเรื่องเกมนี่คือไม่หยุดเป็นชั่วโมงค่ะ ยิ่งถ้าเล่นเกมเดียวกันคือไม่หยุดค่ะ คือถ้าเข้าถึงจุดในสิ่งที่เขาสนใจสิ่งที่เขาชอบก็คุยไม่หยุดค่ะ ต้องบอกว่าหยุดคุยเดี๋ยวนี้”
รับงานหลังเรียน ไม่อยากขาดเรียน
“ส่วนมากก็จะหลังจากที่เรียน เพราะว่าช่วงนี้เขาเพิ่งสอบเข้า มันก็จะเป็นช่วงปรับฐานต้องเรียนเกือบทุกวัน แกก็จะไม่อยากขาด เพราะว่าที่ใหม่เขาดูเอ็นจอย เขาบอกว่าเพื่อนๆ น่ารัก ถ้ามีงานก็จะได้รับงานช่วงที่ไม่มีเรียน ซึ่งก็จะไม่ใช่เดือนนี้ ส่วนเรื่องถ่ายรูป น่าจะไม่ค่อยชอบถ่ายรูป (หัวเราะ) คือจะให้ถ่ายสมมติเราคุยกันว่าวันนี้ไปทำงานนะ ต้องมีงานอะไรบ้าง มีสัมภาษณ์ มีถ่าย มีเจอพี่เขานะ ก็จะประมาณนี้ แต่ถ้าชีวิตจริงไม่ให้ถ่าย โซเชียลไม่มีเลยค่ะ เฟซบุ๊ก ไอจี ไม่มีเลย”
มั่นใจเข้าใจปาแปงที่สุด
“นุ๊กกลับรู้สึกว่านุ๊กน่าจะเป็นคนที่เข้าใจเขามากที่สุด เวลาที่เราทะเลาะกันแล้วเขาไม่มีนุ๊ก จะรู้สึกว่าเขาก็จะไม่มีใครที่เข้าใจเขาจริงๆ อาจจะมีคนที่ตามใจเขา แต่ไม่มีใครที่เข้าใจเขา เพราะนุ๊กก็รู้สึกว่าตัวนุ๊กกับเขาใกล้เคียงกัน เพียงแต่คนละเจนเนอเรชั่น นุ๊กก็จะมีโลกส่วนตัวที่สูงมากๆ เพียงแต่ว่าเราถูกเทรนให้เข้าสังคมตั้งแต่เด็ก เราก็จะมีอีกหมวกนึง แต่พอเวลาที่มันเป็นพาร์ตส่วนตัวจะสังเกตได้ว่านุ๊กก็ไม่ค่อยโพสต์รูปตัวเองบางทีหายไปเป็นเดือน ไม่มีกลุ่มดาราไปกินข้าวคือน้อยมากเลย จะใกล้เคียงกับปาแปง เราเข้าใจเขามากเลย”
ลูก 3 คน 3 รสชาติ
“3 คนนี่ 3 รสชาติเลยค่ะ เข้าใจเลยว่าคนเรานิสัยมันไม่เหมือนกันจริงๆ ไม่ว่าจะเลี้ยงกันมายังไงก็ตาม คนโตก็จะอีกแนวนึงเลย ไม่ชอบวงการบันเทิง แต่ชอบค้าขาย แล้วก็ปากร้าย ยิ่งถ้าเกิดมีใครมาว่าแม่นี่คือใส่แหลก ในขณะที่ปาแปงเขาจะไม่ชอบไฝว้ ไม่ชอบการมีเรื่อง ไม่ชอบมีปัญหา ถ้าที่ไหนมีปัญหาเขาเดินหนีเลย เขาจะเดินออกไปเงียบๆ ส่วนอดัมก็จะสดใสร่าเริง ยังเป็นเด็ก และเป็นเด็กที่ชอบเรียนรู้ 7 วันนี่คือเรียนพิเศษเต็มนะคะ หมายถึงว่าไปโรงเรียนมาเสร็จก็ไปเรียนพิเศษต่อ และสิ่งที่เรียนก็เป็นสิ่งที่เขาอยากเรียนเอง ขอเรียน
อย่างล่าสุดก็อยากเรียนอักษรเบรลล์ (อักษรสำหรับคนตาบอด) ก็ถามเขาว่าอะไรทำให้เธออยากเรียน คือเราไม่เข้าใจว่าทำไมเด็ก 8 ขวบอยากเรียนอักษรเบรลล์ มันมีแรงบันดาลใจอะไร เขาก็บอกว่าอยากเรียน เขาอาจจะไปจับตามลิฟต์ ก็เลยรู้สึกอยากเรียน เราก็บอกว่าแต่มันเต็มแล้วนะ ทุกวันแล้วนะ เดี๋ยวขอเวลาแม่ไปหาเงินก่อนนะ (หัวเราะ)
แต่ความสนิทสนมกันของพี่น้องเนี่ย อดัมเขาจะสนิทกับพี่ทั้งสองคน เขาจะมีปาแปงเป็นพี่ที่เขารัก ส่วนปิ๊ปโป้นี่ก็รักอดัมมากค่ะ แต่ระหวางปิ๊ปโป้กับปาแปง ด้วยความที่เขาวัยใกล้ปีกัน เขาจะเหมือนวัยรุ่นคุยกัน คือมันจะมีกำแพง แล้วปิ๊ปโป้เขาจะกลัวปาแปงนิดๆ เพราะน้องจะนิ่งมาก แล้วพี่ก็จะเป็นคนพูดเก่ง บางทีเวลาพี่เขาพูดเยอะๆ ปาแปงก็จะบอกว่าพูดเยอะจัง รำคาญ แล้วก็เดินไปเลย (หัวเราะ) เวลาเราอยู่กับเขาเราก็จะรู้สึกเหมือนนางเอกซีรีส์ รักนะแต่ไม่แสดงออก ถือของให้ เปิดประตูให้ ทำหน้าเหมือนโดนบังคับ แต่จริงๆ คือรักนะ”
