“ไมค์ พิรัชต์” เผยตอนนี้ “น้องแม็กซ์เวล” อายุครบ 11 ขวบแล้ว ไม่ห่วงแต่ภูมิใจ โตมาเป็นเด็กที่ดี ถ้าอยากเป็นสตรีมเมอร์ก็พร้อมซัพพอร์ต บอกตอนนี้ยังโสด ไม่สนใจเรื่องแฟน มุ่งกับการทำธุรกิจหลายอย่าง เพื่อวางอนาคตให้ลูกชายและเพื่อแฟนในอนาคต อยากมีทั้งเงินและเวลาให้กับแฟนได้เต็มที่
เพิ่งหิ้วเค้กไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์วันเกิดลูกชายสุดที่รักอย่าง “น้องแม็กซ์เวลล์” ในวัย 11 ขวบมาหมาดๆ ซึ่งคุณพ่อสุดหล่ออย่าง “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ได้เผยถึงเรื่องนี้ในงานเปิดตัว LA LOMA The 1st Exhibition ณ Siam Center บอกไม่ได้ห่วงอะไรเป็นพิเศษ แต่ภูมิใจที่โตมาอย่างดี ฉลาดและโตเกินวัย เหมือนตนสมัยเด็กๆ ที่แสบและอันตรายแน่ๆ
“ผมไม่รู้สึกเป็นห่วงอะไรเลย ผมรู้สึกว่าภูมิใจอยู่แล้ว และเขาก็ไม่ได้ขาดอะไร ทุกวันนี้ที่ทำงานอยู่ก็เพื่อวางอนาคตไว้ให้น้องในอนาคตระยะยาว ทำงานหนักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็ทำหลายอย่างเลย งานโปรดักชั่นที่เคยแถลงข่าวไปเมื่อปีก่อน และตอนนี้มีร้านอาหารด้วย กำลังทำอยู่ ทำเมนู ทำอะไรเองทุกอย่างครับ ที่ทำก็เพื่อตัวเองด้วยครับ คือการที่เราทำเพื่อตัวเองนั่นแปลว่าเราทำเพื่อลูก และการทำเพื่อลูกก็เหมือนทำเพื่อตัวเอง
ที่ห่วงอย่างเดียวคือน้องฉลาดเกินวัย วิธีการต่อรองเหมือนเขารู้เยอะ บางทีเราก็ต้องแพ้ เพราะเราทำหลายอย่าง บางทีเราจำไม่ได้ แล้วเขาก็ไปเอาข้อมูลจากก่อนหน้านี้ บอกว่าก่อนหน้านี้แม็กซ์เคยได้โรบอตไปแล้วประมาณ 5 อัน มีมูลค่า 7 พัน แต่แดดดี้สัญญาว่าจะให้อันนี้ตอนวันเกิดแม็กซ์ แม็กซ์ลดให้ได้ ผมก็อึ้งไป เขาโตเร็ว และมีความคิดที่คล้ายพ่อเขาตอนเด็ก ซึ่งก็แสบและอันตราย (หัวเราะ) ศัพท์แปลกๆ ไม่มีนะครับ เพราะผมก็เห็นตามออนไลน์บ่อยๆ อยู่แล้ว มันเลยคุยกันรู้เรื่อง เพราะว่าผมอัปเดตตัวเองตลอดเวลา เพราะเราเป็นแวมไพร์ เราจะไม่แก่”
ยังไม่อยากให้เข้าวงการ แต่ถ้าอยากทำจริงๆ ก็พร้อมซัปพอร์ต
“ส่วนตัวยังไม่อยากให้เข้าวงการ ให้เขาเลือกเองดีกว่า แต่ก็น่าจะสูง และน่าจะโตมาหน้าตาดีเลย แต่เรื่องเข้าวงการผมว่ารอให้เขาได้ใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดาอีกสักหน่อยดีกว่า และถ้าวันนึงที่เขาอยากจะเข้าจริงๆ ก็พร้อมซัปพอร์ตเต็มที่ แต่น้องก็ไม่เคยมาพูดนะครับ แต่ผมคิดว่าเขาไม่น่าจะชอบเท่าไหร่ ผมก็จะไม่บังคับ เขาอยากทำอะไรทำเลย ตอนนี้ผมเห็นแววอย่างเดียวเลยคือเล่นเกม เขาเคยบอกว่าเขาอยากเป็นสตรีมเมอร์ ผมก็แล้วแต่เลย ได้หมด ตอนนี้เขาเล่นเก่งกว่าผมอีก พิมพ์เร็วกว่าผม เด็กสมัยนี้นิ้วพิมพ์เร็วมาก
คือถ้าพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็คงจะมีลิมิตครับ แต่ส่วนตัวผมด้วยความที่ผมไม่ได้เจอเขาบ่อยๆ ผมก็เลยบอกว่าเรามีลิมิตประมาณนึง แต่เราเอ็นจอย จนกว่าเราจะเอ็นจอยได้มากที่สุด จนกว่าเราจะเหนื่อย แล้วเราค่อยเข้านอน ถามว่าเล่นจนเกินไปไหม ส่วนตัวผมไม่มีคำว่าเกินไป ตอนนี้เขายังเด็กอยู่ด้วย ต่างพ่อต่างแม่ก็คนละสไตล์ แต่สไตล์ผมคือฟรี ผมเข้าไปอยู่ในโลกของเขา ผมต้องเข้าใจเขาว่าทำไมเขาถึงอยากเล่นจนถึงจุดนี้ เอาตรงๆ เขาเล่นจนเขาบอกผมว่าแดดดี้ไปนอนได้แล้ว (หัวเราะ) เราติดลมไง ไม่ค่อยกังวล เพราะผมก็ค่อนข้างที่จะสนิทกับเขาเหมือนกัน ทำกิจกรรมทุกอย่างร่วมกันหมดเลยเวลาที่เจอกัน อาบน้ำก็อาบด้วยกัน ชิลมาก ผมก็ภูมิใจในสิ่งที่เขาโตมา และอยากให้เขาโตมาเป็นเด็กที่ดี ซึ่งก็ดีอยู่แล้ว และผมก็คิดว่าไม่ได้มีอะไรต้องแก้ แฮปปี้ครับ”
บอกยังไม่พร้อมมีแฟน ขอสร้างตัวเองก่อนเพื่อให้แฟนในอนาคตโชคดี
“ปีนี้ตอบแบบดาราแล้วกัน ก็คือโฟกัสงานก่อน แต่โฟกัสงานจริง เพราะทำไม่ทัน ตอนนี้ผมนอน 6 โมงเช้าทุกวันเลยนะ ตื่นก็ประมาณเที่ยง อย่างน้อยวันละ 6 ชม.ยังได้อยู่ คนเข้ามามันเหมือนเป็นคนรอบข้างมากกว่า แต่เราก็ไม่ได้อยากจะมีแฟน อยากจะโฟกัสที่งาน ทำแต่งาน ตอนนี้ผมกำลังสร้างจุดเปลี่ยนของชีวิต ในอนาคตจะมีแนวอาร์ติสต์ เมเนทเมนต์ด้วย เพราะเราสร้างละคร สร้างซีรีส์ เราก็จะมีเด็กใหม่ในสังกัด เราก็ต้องเป็นซีอีโอเต็มตัว และมีร้านอาหารที่เราต้องบริหารอีกที่เราสร้างไว้ซะใหญ่โตเลย อยากจะทำธุรกิจหลายๆ ตัว หลายๆ อย่าง เพราะอยากจะให้แฟนในอนาคตโชคดีแล้วกัน
คือผมอยากจะใช้ทีเดียว ไม่ใช่ตอดเล็กตอดน้อย เหมือนงานก็ไม่ได้ ความรักก็ไม่ดี เรามาถึงจุดที่อายุประมาณนี้แล้ว เราผ่านมาเยอะแล้วที่ทำงานไปด้วยมีความรักไปด้วย สุดท้ายแล้วมันเสียหมด ก็เลยคิดว่าตอนนี้เราทุ่มสุดตัว เราหาเงินเยอะๆ เลย แล้ววันนึงคนที่เราจะเป็นแฟนกับเขาได้ ที่เราจะสามารถรักเขาได้ และเขาสามารถรักเราได้ เรารู้สึกปลอดภัย เงินผมก็คือเงินเขา ทุกอย่างที่เป็นของผมก็จะเป็นของเขา เวลาของผมทุกเวลาก็จะเป็นของเขา ไปทีเดียวดีกว่า ให้เต็มที่ดีกว่า
ผู้หญิงคนนั้นแค่เป็นคนที่ผมรักได้และเขารักผมแค่นั้นพอ จริงๆ ไม่ได้มีอะไร ไม่ต้องรวยอะไร ธรรมดามากเลย พอเราอยู่จุดนี้มานาน เรามองหาสิ่งที่มันเรียบง่ายมากขึ้น เรื่องซัปพอร์ตลูกของเราอันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผมไม่คิดว่าไม่มีใครที่จะไม่ซัปพอร์ตแม็กซ์อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นเด็กน่ารัก และเป็นเด็กที่ฉลาด แค่เราต้องเลือกให้ดี จริงๆ คนยุคสมัยนี้เขาค่อนข้างปิด พอเห็นเราเป็นดาราเขาก็ปิดแล้ว แต่ดาราก็แค่คนธรรมดาคนนึงที่ทำอาชีพดารา ดาราคืออาชีพไม่ต่างจากหมอ แพทย์ คุณครูหรืออะไรต่างๆ มันแค่เป็นอีกอาชีพนึง เราแค่อยู่ในแสงเฉยๆ”
