xs
xsm
sm
md
lg

“พชร์ อานนท์” มาก่อนกาล ตีแผ่ด้านมืดพระ แต่ถูกด่า ตั้งกลุ่มประท้วง อัดไม่รู้กันบ้างเหรอกำลังเล่าเรื่องจริงในสังคม!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พชร์ อานนท์” ลั่นเวลาหนังพระออกมาดีแต่ด่า ดีแต่ตั้งกลุ่มประท้วง ไม่รู้กันบ้างเหรอว่ากำลังเล่าเรื่องจริงในสังคมอยู่ แต่กลับกลายเป็นคนไม่ดี ทำร้ายศาสนา เผยหนังไทยทุกเรื่องจะต้องมีกรมศาสนาเข้ามาเซ็นเซอร์ก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ ซัดเรื่องขนาดนี้กรมศาสนาทำอะไรกันอยู่

เป็นอีกหนึ่งผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่ทำหนังเกี่ยวกับพระสงฆ์มาตลอดสำหรับ “พชร์ อานนท์” กับประเด็นสังคมล่าสุดในวงการผ้าเหลือง พชร์ได้ออกมาเปิดใจแสดงความคิดเห็นกับ nineentertain กับเรื่องวงการสงฆ์ในฐานะคนไทยนับถือศาสนาพุทธ และผู้กำกับภาพยนตร์ว่า…

“หลังในหลวงพี่แจ๊สโคตรซิ่ง เราถ่ายตั้งแต่ปีก่อน แต่คิดว่าไม่น่าจะใช้ได้ เราทำหนังพระมา 4-5 เรื่องไม่เคยมีฉากไหนที่โดนเซ็นเซอร์ทิ้งเลย เพราะเราก็เลือกฉากที่น่าจะผ่านมาลง ทั้งๆ ที่จริงๆ เราก็ถ่ายมาเต็มที่ตลอด

อย่างฉากที่หมอปลากับน้ำฟ้าเล่น ในเรื่องเล่าว่าหมอปลาไปมีอะไรกับสีกาแล้วโดนจับสึก แต่ในเนื้อเต็มที่เราถ่ายไว้คือน้ำฟ้าไปยั่วหมอปลา หมอปลาก็ชอบ วันดีคืนดีน้ำฟ้ามาทำบุญใหม่แต่เอาผัวมาด้วย หมอปลาก็โมโห งอนสีกาเอาผัวมาทำบุญด้วย ลุกขึ้นเตะสังฆทานปลิวเลย อันนี้คือข่าวจริงนะ เราใส่ไปในหนัง ถ่ายแล้ว แต่คิดแล้วว่ามันแรงไป ไม่ผ่านเซ็นเซอร์แน่นอน“

หนังไทยทุกเรื่องจะต้องมีกรมศาสนาเข้ามาเซ็นเซอร์ก่อนเข้าโรงภาพยนตร์
“หนังทุกเรื่องก่อนฉายจะมีเจ้าหน้าที่ของกรมศาสนามาพิจารณาเซ็นเซอร์ด้วย 2 คน มานั่งคอยเช็กเลยอะไรที่จะนำเสนอแล้วทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย ยิ่งถ้าเกี่ยวกับพระเขายิ่งเข้มงวด

ตอนเรื่องหลวงพี่แจ๊ส 5 จี ที่เอา บอล เชิญยิ้ม มาด่าพระ ที่บอกถอดจีวรมาชกกับกูไหม อันนี้เราก็เอามาจากเรื่องจริง เราต้องการสอนคน ถ้าคุณมีสติ คุณก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก เราเอาเรื่องจริงมาสอนคนจากหนังที่เราทำหลายเรื่องนะ แต่คนไม่ค่อยสนใจหรอก ด่ากันอย่างเดียว ไม่ได้ดูก็ด่าได้”

เหน็บตอนหนัง หลวงพี่แจ๊สโคตรซิ่ง เข้าฉายก็มีกลุ่มคนมาประท้วงหนังตน ทีตอนนี้เรื่องจริงปรากฎทำไมไม่ออกมาประท้วงสงฆ์กันบ้าง
“รู้ไหมว่าหนังเรื่องหลวงพี่แจ๊สโคตรซิ่งและเรื่องสาธุ มีคนกลุ่มนึงมาประท้วง แต่หนังเราผ่านเซ็นเซอร์แล้วไง แล้วดูตอนนี้สิ ข่าวพระเยอะมาก แล้วเป็นพระผู้ใหญ่ด้วย ไม่เห็นคนกลุ่มนั้นออกมาเลย ทำไมไม่มาแจ้งจับพระว่าทำผิด ทีคนที่หวังดีกับศาสนา ช่วยกันดูแล ช่วยกันเอาความจริงออกมาพูดให้คนฟังกลับกลายเป็นคนไม่ดี กลายเป็นคนที่จะไปทำร้ายศาสนา ไม่จริง จะบอกว่าหนังเราช่วยปกป้อง ป้องกันให้ศาสนาด้วยซ้ำ อย่างน้อยเราทำให้ญาติโยมได้รู้ว่ามันมีเรื่องแบบนี้จริงๆ ที่เกิดขึ้นในวัด”

หนึ่งในหน้าที่ผู้กำกับคือตีแผ่ความจริงและปกป้องดูแลสังคม หนังตนทุกเรื่องสะท้อนเรื่องจริงในสังคม ฉากที่ถูกตัดออกไปวันนั้นกลายเป็นเรื่องจริงในวันนี้
เรามาก่อนกาลไง หลายๆ เรื่องที่เราเอามาใส่ในหนังมันก็มาก่อนกาล หนังของ พชร์ อานนท์ จะมีเรื่องราวในเหตุการณ์สังคมสอดแทรกทุกเรื่องอยู่แล้ว อย่างเรื่องพระ ต้องถามกรมศาสนานะ คุณน่าจะรู้นะ คุณทำเกี่ยวกับตรงนี้โดยตรงเลย คุณต้องรู้ความเป็นมาของพระ ความเป็นมาของวัดที่เป็นข่าวอยู่มันเป็นมายังไง ไม่ใช่มีคนร้องเรียนแจ้งเรื่องไปเป็นสิบปีแล้ว กรมศาสนาก็ยังไม่เห็นจัดการอะไรเลย เราก็อยากได้คนที่มาดูแลจริงๆ นะ ไม่ใช่มาทำงานไปวันๆ พอเรื่องจริงออกมาแบบนี้ คนที่น่าจะโดนด่าที่สุดคือกรมพระพุทธศาสนา เพราะเป็นหน้าที่ของเขาโดยตรง

เรารู้สึกว่าเราต้องช่วยกัน เราเองก็ชาวพุทธเหมือนกัน นี่บวชเรียนมา 2-3 รอบ แล้วเป็นคนที่ทำบุญบ่อย พอมาเห็นข่าวแบบนี้วเราก็ไม่อยากไหว้แล้ว ไปทำบุญเราก็ใช้เงินนะ บริจาคนั่นนี่ พอมาเห็นแบบนี้ประชาชนอย่างเราก็หมดศรัทธา แต่เราไม่ได้หมดศรัทธากับศาสนาพุทธนะ มันอยู่ที่พระแต่ละรูปด้วย แต่ที่ออกๆ กันมานี่ชั้นเทพทั้งนั้นเลยนะ ไม่ใช่ชั้นปกติเลยนะ ถ้าพระหนุ่มๆ ก็ว่าไปอย่าง

ที่เราทำหนังพระ หรือเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ในหนังเพราะเราอยากดูแลสังคม แต่เราจะมานำเสนอตรงๆ มันก็คงจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่ อะไรที่จะช่วยสังคมได้ เราก็อยากจะช่วยในรูปแบบของความบันเทิงมันเป็นหน้าที่ของคนทำหนัง ทำละคร หรือผลิตสื่อ”

ทำหนังพระโดนด่าตลอด ไม่รู้เหรอว่ามันคือเรื่องจริง
ตอนนี้พวกที่ด่าหายไปไหนหมดแล้ว ไม่รู้เหรอที่เขาทำมันเป็นเรื่องจริงในสังคม ขยันด่ากันจริง พอเจอเรื่องจริงทำเป็นรับกันไม่ได้หรือไง ถึงได้เงียบกันหมด ก็ต้องเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันมีในสังคม อันนี้แค่ 10 รูปนะ ยังมีอะไรอีกในวงการสงฆ์นะที่เรายังไม่รู้ นี่แค่ผู้หญิง 1 คน ถ้าเกิดมีผู้หญิงโดนจับกันมาอีก เจอคลิปอีก 20 องค์จะทำยังไง ขนาดพระที่เรานับถือยังไว้ใจไม่ได้เลย แต่มันก็มีทั้งดีและไม่ดีแหละ”













กำลังโหลดความคิดเห็น