“โจ๊ก โซคูล” เปิดใจหายหน้าเพราะเป็นอินโทรเวิร์ตปลอม! นอยด์ง่าย ไม่อยากเจอคน อยากวางมือทำเพลง

“โจ๊ก โซคูล” เปิดใจสาเหตุหายหน้า เป็นอินโทรเวิร์ตปลอม นอยด์ง่าย ไม่อยากเจอผู้คน ลั่นเมื่อก่อนอยากเฉิดฉาย แต่อนนี้ตรงกันข้ามไม่อยากเจอคน อยากวางมือทำเพลง เหนื่อยและเสียเงิน บอกทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว ลั่นศิลปินรุ่นตนเป็นกันหนักแค่ไม่ได้บอกใคร ปัดโกรธถูกเรียกพ่อตา ยันไม่ถือสา แค่แซวเล่นกันของแฟนๆ

ห่างหายจากอีเวนต์และหน้าจอไปนานมาก สำหรับนักร้องอารมณ์ดี “โจ๊ก โซคูล” กรภพ จันทร์เจริญ ล่าสุดเจ้าตัวเผยกลางงานคอนเฟิร์มความอร่อย อูมามิของ “อายิโนะโมะโต๊ะ ควิก มีล” ณ Park Silom ชั้น 31 ลั่นเป็นโรคแปลก กลายเป็นอินโทรเวิร์ตปลอม ไม่อยากเจอผู้คน

“พออายุมากขึ้นผมกลายเป็นอินโทรเวิร์ตปลอม คือไม่ได้เป็นโรคที่ทางแพทย์ระบุ แต่รู้สึกไปเองว่าถ้าไม่ได้เป็นงานที่จำเป็นจริงๆ ใครชวนไปไหนก็จะไม่ไปเลย แม้กระทั่งรายการต่างๆ ถ้าไม่รู้จักจริงๆ ก็จะไม่อยากไป พออายุมากมีความรู้สึกเหนื่อยกับการเจอคน แต่จะเหนื่อยมากก็ไม่ได้เดี๋ยวไม่มีเงิน ผมจะทำงานที่ผมคุ้นเคย เช่น คอนเสิร์ต รายการที่เหมาะสม รายการที่รู้จักกัน แต่ก็จะไม่ไปเสียเยอะ เป็นโรคขี้นอยด์เวลาไปไหน

ถามว่าเหมือนโลก สังคมเป็นของคนอีกเจนนึง เจนเราไม่ใช่ไปแล้วไหม ก็ไม่แน่ใจ เราอยู่มานานเกินหรือเปล่า ไปก็มีแต่คนใหม่ๆ การได้เรียนรู้กองถ่ายใหม่ ผู้กำกับ ทีมงานใหม่ อายุก็อาจจะเกี่ยว ผมกลายเป็นคนนอยด์ง่าย ใครพูดอะไรไม่เข้าหูหน่อยก็เป็นโรคคนแก่ ก็รู้สึกเยอะ การทำงานที่ไม่ค่อยถนัด ไม่เข้าขาก็รู้สึกเยอะ

จริงๆ เรื่องเล่นมุกผมมั่นใจขึ้นด้วยนะ พออายุมากแล้วเหมือนมั่นใจในการเล่นมุก สบายใจจะเล่นมุกมากขึ้น แต่ผมรู้สึกว่าใจเราชอบอยู่ในเซฟโซน ในคอมฟอร์ทโซน ซึ่งมันไม่ค่อยดีนักสำหรับคนทำอาชีพตรงนี้ คือต้องรายล้อมด้วยคนสนิทจริงๆ ถึงจะมั่นใจแต่ถ้าเป็นงานคอนเสิร์ต ถึงแม้จะเจอคนเป็นพันเป็นหมื่นก็ถนัด เพราะข้างบนเวทีมันเป็นของเรา

ปกติชีวิตก็จะเลือกอยู่แต่บ้าน ลูกๆ ภรรยาไม่เป็น พวกเขาสนุกสนาน คือเวลาเจอคนแปลกหน้าผมจะไม่พร้อม จะระแวงในการไปสถานที่ต่างๆ ไม่ได้หนักแต่ไม่ค่อยสู้เมื่อก่อนเราเป็นวัยรุ่นเราจะอยากเฉิดฉาย อยากจะไปเดินให้คนถ่ายรูปเรา แต่ตอนนี้คือตรงกันข้ามเลย ถ้าไม่ได้ขึ้นเวที ไม่ได้ทำงาน ก็ไม่ได้อยากเจอคนเยอะ”
 
เด็กๆ เจนใหม่ร้องเพลง “เลี้ยงส่ง” ได้เยอะมาก ตอนแรกอยากวางมือแล้ว
“ด้วยความที่เพลงเลี้ยงส่งถูกหยิบยกไปในสื่อโซเชียลมากมาย ทำให้เด็กๆ เจนใหม่ร้องกันได้เยอะมาก ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนคลับโซคูล ตัวผมเองตอนแรกว่าจะวางมือแล้วครับ อายุเราเยอะ เจนมันเปลี่ยน ผมไม่ได้เป็นคนเดียวนะ นักร้องรุ่นเก่าๆ ก็หยุดทำเพลงกันเยอะมากเขายังรับงานนะ แต่มันเหนื่อยที่จะทำ เหนื่อยที่จะสร้างสรรค์เพลงใหม่ เสียทั้งเงิน เสียทั้งอะไรเยอะมาก แล้วถ้ามันไม่ค่อยมีคนสนใจ มันยิ่งเหนื่อยยิ่งท้อไปอีก แต่สรุปก็คือยังทำอยู่ดี ไม่นานเกินไปเดี๋ยวผมจะปล่อยเพลงใหม่ออกมา รอติดตามนะครับ

คือผมไม่ได้ตั้งใจจะทำเพื่อธุรกิจ เพื่อตอบสนองอะไรเลย อยู่ๆ ผมก็ดันแต่งเพลงได้ แล้วผมก็รู้สึกว่ามันดีพอที่จะให้แฟนๆ ได้ฟังกัน ก็เรียกว่าทำเป็นงานอดิเรก ศิลปินยุค 2000 / 90 /80 ถ้าทำเพลงใหม่ออกมาแล้วฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองได้ นี่มันยิ่งกว่าได้เพชร ได้ทอง ยิ่งกว่าถูกหวย มันจะกลายเป็นของล้ำค่ามาก เพราะตอนนี้ทุกอย่างในวงการเปลี่ยนไปหมดแล้ว คนที่ขับเคลื่อนกระแสเป็นเด็กยุคใหม่ คนยุคเก่าเรายังงง มีวงนี้ด้วยเหรอ คือโลกตอนนี้มันไปไกลมากแล้ว ผมก็เคยคุยกับ chat gpt นะ มันก็บอกให้คอลแลปกับเด็กรุ่นใหม่ แต่ผมรู้สึกสงสารเด็ก กลัวเขาไม่กล้าปฏิเสธเรา ถึงเวลาทำงานเราก็ทำเต็มที่ แต่ก็จะไม่พยายามไปทำงานที่ไม่ถนัดเลย เขาจ้างที่เราไม่ถนัดเลยเอาเงินมาให้ไปทำ แล้วยังจะไม่รับ อันนั้นจะนอยด์ แบบว่าเราไม่ถนัด ไปเจอทีมงานที่ไม่เข้าขากันจะยิ่งนอยด์เยอะ จะรู้สึกไม่น่ารับเลย”

ไม่ต้องพบหมอ เป็นแค่ความรู้สึกตัวเอง ลั่นไม่ได้เป็นคนเดียว ศิลปินเป็นหนัก แค่ไม่ได้บอก
“ไม่ต้องไปคุยครับ มันเป็นแค่ความรู้สึกเรา ไม่ได้เป็นแพนิกอะไร เราแค่รู้สึกว่าเลือกได้ก็อยากจะมีเวลาอยู่บ้านเยอะๆ แต่ถึงเวลาทำงานเราก็เต็มที่ ซึ่งอาการนี้ผมไม่ได้เป็นแค่คนเดียวนะ ผมอาจจะเป็นคนที่ออกมาพูด แต่จริงๆ หลายคนเป็นกันเยอะ ยิ่งศิลปินเป็นกันหนักเลย แต่เขาอาจจะไม่ได้มาบอก เขาจะชอบอยู่กับความรู้สึกปลอดภัย เวลาทำงานเขาก็เต็มๆ ที่กันปกตินี่แหละ ชีวิตก็แฮปปี้ดีทุกอย่างแหละ แต่อาจจะไม่ได้เห็นว่าผมไปปรากฏตัวมาก เพราะชอบอยู่บ้าน และตอนนี้เน้นซัปพอร์ตลูกสาว ในวัยนี้เราก็เลือกจะอยู่เบื้องหลังเสียเยอะ มันมีความสุขมากกว่า”

ตามเชียร์อัปลูกสาว
“ไปเลยครับ ไปแบบใส่มาสก์ แต่ก็ปิดไม่ค่อยได้หรอก แฟนเพลงสมัยนี้เขาให้พื้นที่เรานะ พอเรารู้ว่าพ่อแม่มาเชียร์ลูกเขาไม่เข้ามารุม บางคนหาที่ให้ด้วย น่ารักมาก“

ปัดโกรธเวลาใครเรียกพ่อตา ยันไม่ถือสา แค่แซวเล่นกันของแฟนๆ
“บางทีก็เห็นว่ามีทะเลาะกันในโซเชียล จินตนาการกันว่าผมโกรธที่คนมาเรียกพ่อตา เขามีลูกสาวไปเรียกเขาพ่อตาแล้วเขาไม่โอเค อันนี้ขอบอกว่าไม่จริงนะครับ คือใครเรียกพ่อตาแล้วต้องได้เป็นเลยเหรอ มันก็ไม่ใช่ มันเป็นแค่การแซวเล่นของแฟนๆ ผมเข้าใจได้ หรือจะเดินไปแล้วมีคนเรียกพ่อตาครับ มันไม่สามารถทำให้ผมโกรธได้ สำหรับผมเป็นแค่การทักทาย หยอกล้อกัน ไม่ถือ ไม่คิดมาก ไม่ซีเรียส”

มีคนกล้าท้าทายระบบ บอกหวงลูกแต่จะเป็นพ่อแม่รุ่นใหม่ คุยกับลูกในวันที่มีความรัก
“มันก็มีมาแหย่ๆ บางคนเรายังกดไลก์ให้เลย มาแซวๆ พ่อตาพี่โจ๊ก ก็ไม่เป็นครับ ถามว่าผมหวงไหมผมหวงครับ แต่เราไม่รู้ว่าวันนึงเขามีแฟนอาการเราจะเป็นอย่างไร ตอนนี้มันยังไม่เกิดขึ้น แต่ที่ตั้งใจจะเป็นคือจะเป็นพ่อแม่รุ่นใหม่ ถึงเวลามีแฟนก็จะให้มี แต่พอถึงเวลานั้นจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ผมเองก็นึกภาพผมตอนนั้นไม่ออกเหมือนกัน รู้แค่ว่าเราจะพยายามเป็นพ่อแม่รุ่นใหม่ คุยกับลูกเป็นเพื่อนในวันที่เขามีความรัก”

ลูกเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตนในวัยเดียวกัน ผมสอนเขาไม่ได้แล้ว
“รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าผมมากในวัยเดียวกัน ผมสอนเขาไม่ได้แล้ว แต่ที่เป็นห่วงคือเรื่องของสุขภาพ เขาอายุ 14-15 นอนดึก ตื่นเช้า เรียนหนัก ตั้งใจทำงานแล้วยังตั้งใจเรียนอีก เกรดก็จะเอา ใบเรียนดีก็จะรับ แล้วเขาก็รับของเขาทุกปี บางทีตาก็เป็นแพนด้า ผมก็มีความเป็นห่วงเรื่องการพักผ่อน แม่เขาก็ดูแลอยู่ แต่ดีครับ ถึงแม้ว่าเขาจะเหนื่อยกาย แต่เขามีสิ่งที่เขาเจอแล้ว เขามีเป้าหมายในชีวิต อาจจะเหนื่อยกายหน่อยแต่ก็มีเรื่องดีๆ ที่เขาได้เจอคือเขาได้เจอความฝันของเขา ผมก็ซัปพอร์ตเต็มที่”