ปฏิเสธไม่ได้ว่า อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คือบุคคลที่ทรงอิทธิพลทางความคิด และการตัดสินใจของผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย สามารถโน้มน้าวให้ผู้ติดตามตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ เลือกติดตามแบรนด์ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของแบรนด์ได้มากขึ้น ทำให้อินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นช่องทางโปรโมตที่หลายๆแบรนด์เลือกใช้กัน ไปจนถึงใช้โปรโมตเทศกาลไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านพลังแห่งซอฟต์พาวเวอร์
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB และสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ หรือTHACCA เดินหน้าสนับสนุนมหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ด้านเฟสติวัล ภายใต้แนวคิด ‘Road to Thailand World Influencer Summit – Spark Thai Festivals : Local to Global’ จุดประกายอินฟลูเอนเซอร์นำเทศกาลไทยสู่สายตาโลก รวมตัวผู้นำความคิด พลังของ Influencer Marketing มารวมไว้ในเวที Visionary Stage ภายในงาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 มหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ฮอลล์ 1 – 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ไฮไลต์ของการเสวนาเริ่มต้นด้วยการแสดงเปิดงานให้ผู้ชมได้ซึมซับถึงเสียงแห่งซอฟต์พาวเวอร์ไทยโดย The Paradise Bangkokวงดนตรีหมอลำร่วมสมัยที่พาศิลปะไทยไปไกลถึงเวทีระดับโลกต่อด้วยการเสวนาในหัวข้อ SPARK Influencer Marketing Power for Event Creatorsเมืองแห่งเทศกาลผสานพลังอินฟลูเอนเซอร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย นำโดยภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MI GROUP ที่สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญกับอินฟลูเอนเซอร์เป็นอย่างมากสะท้อนจากเม็ดเงินทางการตลาดที่ใช้กับอินฟลูเอนเซอร์ในแคมเปญต่างๆที่เติบโตขึ้นถึง 30%ปัจจุบันสินค้าทุกประเภททุกแบรนด์มีการใช้อินฟลูเอนเซอร์หมุนเวียนประมาณ 9ล้านคนในจำนวนนี้มีอินฟลูเอนเซอร์มืออาชีพ 3ล้านคนซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมากนอกจากนี้ยังพบว่านักการตลาดไม่ต่ำกว่า 80% เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์เพื่อช่วยผลักดันยอดขายเป็นช่องทางหลักตั้งแต่ยุคหลังโควิด
ภวัตย้ำว่าหลักสำคัญในการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์คือต้องให้อิสระทางความคิดของครีเอเตอร์แต่ละคนที่มีฐานแฟนแตกต่างกัน และต้องมีเป้าหมายทางการตลาดที่ชัดเจน โดยหนึ่งในแคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จในการใช้อินฟลูเอนเซอร์ คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับงานมหาสงกรานต์ ที่เลือกใช้บล็อกเกอร์ทั่วโลก รวมถึงงาน Pride Month ที่ปีนี้คึกคักมากยิ่งขึ้นจากการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม จึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว และนำมาต่อยอดกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของโรงแรมและร้านอาหารได้เป็นอย่างดี
กฤต กฤตยาบาล Head of Media & Performance adapter digital agency ระบุว่าการใช้อินฟลูเอนเซอร์ จะทำให้ลูกค้าเป้าหมายสามารถเข้าถึงสินค้าแบรนด์ต่างๆ เพิ่มขึ้น 10 เท่า โดยตลาดอินฟลูเอนเซอร์มีแนวโน้มเติบโตขึ้น 30% ทุกปี ขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย คือ Facebook, TikTok และ Line ตามลำดับ จากการประเมินของแบรนด์ต่างๆ พบว่าอินฟลูเอนเซอร์สามารถผลักดันยอดขายในตลาดประเทศไทยคิดเป็นมูลค่ากว่าพันล้านบาท ขณะที่มูลค่ารวมทั่วโลกมีการประเมินว่าไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้านบาท
"ปัจจุบันการแข่งขันของแบรนด์ต่างๆ และอินฟลูเอนเซอร์มีมากขึ้น จึงเกิดเป็นเทรนด์ในการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ระดับนาโน และไมโครเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในโซเชียลมีเดียที่ 90% ระบุว่าเขาจะเชื่อเพื่อนมากกว่าดารา ดังนั้นในแต่ละแคมเปญแบรนด์ต่างๆ จึงเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่หลากหลายเพื่อผลักดันให้เกิดยอดขาย”
กฤตเน้นย้ำว่าหลักการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์อย่างมีประสิทธิภาพคือต้องพยายาม ถอดรหัสว่าอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนมีความเหมาะสมกับงานของเรามากน้อยแค่ไหน ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ขณะที่เทรนด์ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจกับคอนเทนต์สั้นๆ ที่จะสามารถเรียกยอดวิวได้มากที่สุด
สำหรับช่วงเสวนาในหัวข้อ SPARK Influencer Marketing Playbook: How Influencers Elevate Thai Festivals Worldwideสูตรลับพาเทศกาลไทยไประดับโลกด้วยพลังอินฟลูเอนเซอร์โดยพงศ์สิริเหตระกูลผู้จัดงาน Awakening Festivalsกล่าวว่าปัจจุบันการใช้อินฟลูเอนเซอร์จำนวนมากมาพูดพร้อมๆกันจะทำให้ผลลัพธ์ในการสื่อสารแรงกว่าการใช้สื่อใดสื่อหนึ่งมีพลังในการโน้มน้าวใจทำให้คนเชื่อได้ สำหรับคนจัดงานเฟสติวัลจำเป็นต้องออกแบบงานของเราเพื่อให้อินฟลูเอนเซอร์อยากจะพูดถึงด้วยตัวเอง ดังนั้นการจัดงานต้องมีเอกลักษณ์เพื่อให้อินฟลูเอนเซอร์เลือกที่จะมางานนั้นๆ
กอบเกียรติ แสงวนิชย์ ผู้จัดงานวิ่ง Amazing Thailand Marathon Bangkokและ IRONMAN 70.3Bangsaen กล่าวว่าการวิ่งเป็นกิจกรรมที่อยู่ในสังคมทั่วโลกจากแนวโน้มที่คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นปัจจุบันมีการจัดวิ่งทุกสัปดาห์ 20-30รายการในประเทศไทย การจัดงานวิ่งในสเกลระดับโลกครั้งหนึ่งจะสามารถดึงดูดนักวิ่งจากทั่วโลกได้สูงถึง 5หมื่นคนซึ่งยังไม่นับรวมครอบครัวของนักวิ่งเท่ากับว่าหากจัดงานวิ่งระดับโลกได้สำเร็จเราจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1แสนคนต่องาน และเขาเหล่านี้จะกระจายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร แต่หัวใจสำคัญของการจัดงานเฟสติวัลระดับโลกคือภาครัฐและเอกชนต้องสนับสนุนผู้จัดงานในระยะยาวเพื่อทำให้ผู้จัดงานเฟสติวัลสามารถยืนระยะและสร้างสรรค์งานดีๆต่อไปได้
เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ผู้บริหารเวทีมวยราชดำเนินกล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยมีจุดแข็งในการเป็นฮับด้านการบินเป็นประเทศที่ชาวต่างชาติอยากจะเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นโอกาสสำหรับผู้จัดงานอีเวนต์เทศกาลและแบรนด์ต่างๆซึ่งสำหรับเวทีมวยราชดำเนินเองก็ตั้งเป้าว่าอยากจะทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่เปรียบเสมือนดิสนีย์แลนด์ของเมืองไทยเป็นสถานที่ต่อยมวยที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดไปสู่การถ่ายทอดการแข่งขันกีฬามวยไทยไปทั่วโลกกว่า 200ประเทศ จุดนี้เองที่ทำให้เวทีมวยราชดำเนินสามารถดึงดูดซูเปอร์อินฟลูเอนเซอร์อย่าง Jack Maผู้นำระดับโลก รวมถึงนักกีฬาระดับโลกให้มาเยือนและโปรโมตเวทีมวยราชดำเนินให้มีชื่อเสียงระดับโลกได้
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและบรรณาธิการบริหาร THE STANDARDในฐานะผู้จัดงาน The Secret Sauce Business Weekendอีสาน 2025กล่าวว่า เทรนด์การจัดงานอีเวนต์และเฟสติวัลปัจจุบันเริ่มกระจายตัวออกไปในต่างจังหวัดมากขึ้นโดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองรอง นอกจากนี้การจัดงานยังมีลักษณะตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากขึ้นเช่นงานแม่และเด็กรวมถึงงานอีเวนต์ด้านสุขภาพและอีกเทรนด์ที่น่าจับตาคือเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนซึ่งจะเห็นได้จากการปรับตัวของผู้จัดงานต่างๆที่พยายามใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดลดปริมาณของเสียเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
"ผมเป็นคนที่ทำงานด้านมีเดียทำคอนเทนต์เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้เปลี่ยนคนอ่านคนดูคนฟังมาร่วมกิจกรรมปัจจุบันจะเริ่มเห็นเทรนด์คนต่างจังหวัดโดยเฉพาะคนในภาคอีสานมีดีมานด์มากขึ้นเขาต้องการงานอีเวนต์และเฟสติวัลที่ดีประเทศไทยไม่ใช่กทม.และกทม.ไม่ใช่ประเทศไทยอีเวนต์จึงถูกกระจายไปจัดในภูมิภาคมากขึ้น"
นครินทร์ย้ำว่าจุดแข็งของประเทศไทยคืออาหารดนตรีศิลปะโลเคชันเราดีอยู่แล้วคนมาภูมิภาคนี้ก็ต้องมาเมืองไทยความสามารถของคนไทยไม่แพ้ใครขณะที่จุดอ่อนของประเทศไทยคือระบบกฎเกณฑ์รวมถึงการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกันเช่นในอดีตไทยเคยอยากเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของโลกอยากเป็นเมืองแฟชั่นระดับโลกซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้แต่ควรมีการวางแผนระยะยาวที่ชัดเจนในการส่งเสริมสิ่งสำคัญที่ต้องการคืออยากให้รัฐบาลทำหน้าที่เป็นenablerเป็นเสมือนประตู หน้าต่างที่ทำให้งานระดับโลกมาถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้จัดงานในประเทศไทยและดึงดูดอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกให้มาโปรโมตงานต่างๆที่น่าสนใจอยู่แล้วในประเทศเพื่อขยายไปสู่ต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน
ปิดท้ายด้วยเสวนาหัวข้อ SPARKGlobal Lens on Local Treasuresเปิดมุมมองระดับโลกดึงเสน่ห์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย นำโดย Tom Grond นักเดินทางสายลุยจากเนเธอร์แลนด์ผู้เดินทางรอบโลกมาแล้วกว่า 150ประเทศที่กล่าวว่างานสงกรานต์งานลอยกระทงงานฟูลมูนปาร์ตี้อาหารไทยและคำพูดภาษาไทยคือสิ่งที่เขาประทับใจเมื่อมาเที่ยวประเทศไทยเมืองไทยมีสิ่งดีๆอยู่มากมายในการสร้างเสน่ห์ใหม่ๆผ่านซอฟต์พาวเวอร์เพื่อจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสอดคล้องกับ Mike Yuครีเอเตอร์ชาวฮ่องกงเจ้าของไวรัลระดับโลก Street Interviewที่เปลี่ยนทุกบทสนทนาให้กลายเป็นกระแสระบุว่าอินฟลูเอนเซอร์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆให้เป็นกระแสสังคม
ขณะที่ ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ นักแสดงไทยผู้ข้ามพรมแดนสู่ใจแฟนจีน กล่าวว่า ละคร คุณชาย ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในกลุ่มอินเตอร์แฟน และแฟนๆ ชาวจีน สะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชอบแฟนต่างชาติ รวมถึงไปจัดแฟนมีตติ้งต่างๆ สามารถนำความเป็นไทยไปนำเสนอ ซึ่งเขาพบว่าแฟนๆ ต่างชื่นชอบซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ซึ่งหากเป็นไปได้เขาอยากเห็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้ชาวต่างชาติได้เห็นเทศกาลไทยที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและอยากมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น
ด้าน เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ ศิลปินที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทยกับความเป็นป๊อปได้อย่างทรงพลัง กล่าวว่าตัวเขาเองเกิดมาจากเวทีประกวดที่ใช้เอกลักษณ์ความเป็นไทยในการนำ เสนอตัวเอง จากการตระเวนไปแสดงเทศกาลไทยในต่างประเทศเขาพบว่าชาวต่างชาติตื่นตาตื่นใจกับความเป็นไทยค่อนข้างมาก สิ่งที่เขาอยากเห็นคือเทศกาลใหม่ๆ ของประเทศไทยที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ เช่น เทศกาลหน้ากากจากจังหวัดต่างๆ ที่สามารถสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เขายังมองว่าอินฟลูเอนเซอร์มีส่วนสำคัญอย่างมากในการถ่ายทอดซอฟต์พาวเวอร์ และเทศกาลไทยให้ไปสู่สายตาชาวโลกได้ ที่สำคัญภาครัฐและเอกชนต้องสนับสนุนให้มีการจัดงานเทศกาลอย่างต่อเนื่องใน ระยะยาว
สำหรับภาพรวมของเวที SPARK Thai Festivals : Local to Global จุดประกายอินฟลูเอนเซอร์นำเทศกาลไทยสู่สายตาโลก จบลงด้วยแนวคิดที่น่าสนใจจากตัวจริงในหลากหลายวงการ และข้อคิดของพวกเขาล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะผลักดันประเทศ ไทยให้เป็นเมืองแห่งเทศกาลระดับโลกด้วยพลังอันเปี่ยมล้นของอินฟลูเอนเซอร์
ซึ่งภารกิจในการผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองแห่งเทศกาลระดับโลกด้วย พลังของอินฟลูเอนเซอร์ยังไม่จบอยู่แค่นี้ หลังจากนี้เตรียมพบกับโอกาสสำคัญของ Influencer และ Content Creator ทั่วประเทศ กับคลาสเรียนออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อเติมทักษะการคิด การเล่าเรื่อง และการสร้างคอนเทนต์ให้ทรงพลัง โดยใช้เรื่องราวท้องถิ่นของตัวเอง พาคอนเทนต์ของคุณให้โดดเด่น มีไลฟ์สไตล์และเข้าถึงผู้คนได้มากกว่าที่เคย กับหลักสูตรคลาสเรียนออนไลน์ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในวงการ และต่อยอดสู่กิจกรรมพิเศษกับ “Influencer Competition เวทีประกวดเพื่อเฟ้นหาสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช่จากทั่วประเทศใน 14 อุตสาหกรรมขับเคลื่อน Soft Power” สามารถติดตามรายละเอียดการสมัคร “Online Class: The Art of Influencing People – ปลุกพลังคอนเทนต์ในตัวคุณ เล่าเฟสติวัลไทยให้โลกอิน” ได้เร็ว ๆ นี้ ผ่านช่องทางเพจ THE STANDARD และเพจ SPARK Thai Festivals: Local to Global งานนี้ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
