“แม่ปุ้ย TPN” เผยไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ยุคสมัย หัวใจสำคัญของการเป็นนางงามคือการทำเพื่อสังคมและส่วนรวม ฝากถึงรุ่นใหม่ที่ยก “โอปอล สุชาตา” เป็นต้นแบบ เอาระบบความคิดไปใช้ได้ แต่คุณต้องเป็นตัวของคุณเอง ลั่น DNA นางงาม TPN ต้องเป็นคนที่คิดดี ทำดี เป็นตัวของตัวเอง หวังอยากส่งนางงามไปคว้ามงฯ ใหญ่อีก 1-2 มงฯ ในชั่วชีวิตของตน บอก “แอนนา เสือ” เองไม่ต้องต่อสัญญา ดูแล 3 ปี ถึงเวลาไปยืนด้วยลำแข้ง เติบโตตามแบบตัวเอง
เดินทางมา 6 ปีแล้วสำหรับ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก”หรือ “แม่ปุ้ย TPN”ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN Global) บนเส้นทางเวทีนางงาม เมื่อให้แม่ปุ้ยมองย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก้าวเข้ามาสู่วงการนี้ เจ้าตัวเผยว่าไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อะไรเปลี่ยนไปอย่างไร คุณค่าที่แท้จริงของนางงามคือต้องคิดถึงสังคม คิดถึงส่วนรวม
“นางงาม TPN ของเราสำหรับแม่ปุ้ยคิดว่าประสบความสำเร็จนะคะเพราะเราก็สู้ ขยัน อดทน เขาก็ได้สิ่งตอบแทนคือความยั่งยืนในอาชีพการงานของเขา เราเองก็ภูมิใจ จริงๆ แล้วแพลตฟอร์มนางงามมันสามารถแตกแขนงไปทำอะไรให้สังคมได้อีกเยอะ อย่างน้อยๆ คุณยืนไฟส่องเป็นนางงามแล้ว คุณสามารถสอดแทรกสิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้ การงานเราก็ต้องทำแหละ แต่ถ้าเราเป็นคนธรรมดาเดินดินเสียงเราไม่มีใครฟัง แต่พอเราอยู่ตรงนี้เสียงเรามีคนฟังแน่นอน อันนี้คือสิ่งที่แม่ปุ้ยได้จากประสบการณ์ตรง
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อะไรเปลี่ยนไปยังไง แม่ปุ้ยมองว่าคุณค่าที่แท้จริงของนางงามและของคนมันคืออย่างเดียว คือเราต้องคิดถึงสังคม คิดถึงส่วนรวมบ้าง อะไรที่ทำดีได้บ้างก็ทำเถอะ มนุษย์เราไม่มีใครดี 100% เลว 100% เพียงแต่เราพอจะทำประโยชน์อะไรได้บ้างให้กับสังคมประเทศชาติ ถือว่าดีแล้ว คนตัวเล็กๆ 1 คนทำอะไรให้กับสังคม คน100 คนทำ พอมารวมกันมันก็จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น”
DNA นางงาม TPN ต้องเป็นคนที่คิดดี ทำดี เป็นตัวของตัวเอง
“อันดับ 1 ต้องเป็นตัวของตัวเอง โครงการถ้าดูจับต้องไม่ได้คุณมา 100 ครั้งก็ไม่มีวันมงฯ เราดูออก เราสืบรู้ไม่ยาก คุณต้องเป็นตัวของตัวเอง โครงการไม่ต้องยิ่งใหญ่ เวอร์ๆ อะไรก็ได้ถึงมันจะเล็กแต่ยิ่งใหญ่ อย่างโครงการของแอนโทเนีย โพซิ้ว ไม่มีใครเคยเห็น แต่ตอนนี้ต่อยอดเป็นมูลนิธิแล้ว มีเงินบริจาคเข้ามามากมาย ชัดเจน โปร่งใสและทำประโยชน์ให้สังคมเยอะ ของโอปอล สุชาตา ช่วงศรี ก็ตั้งเป็นมูลนิธิ เขามีความมุ่งมั่น เหมือนเขาให้รางวัลชีวิตตัวเองว่าเขาเกิดมาแล้วรอดจากการเป็นมะเร็งเต้านม เขาอยากจะคืนกลับให้สังคมตรงนี้ มันเป็นจุดเล็กๆในใจที่ทำ แม่ปุ้ยว่ามันดีมากๆ สนับสนุนกันไปค่ะ
รองลงมาคุณต้องเป็นคนคิดดี อย่าซับซ้อนมาก คิดดี ทำดี เป็นตัวของตัวเอง จบแล้ว ไม่มีอะไรมากมาย (โอปอลกลายเป็นโรลโมเดลนางงาม?) โอปอลมีชุดความคิดที่ดีมากๆ เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กๆ แล้วก็เรียนหนังสือ”
ไม่ได้มองตนเองวิเศษวิโสสร้างมาตรฐานให้วงการ แต่เพราะมีความมุ่งมั่น
“ก็คิดว่าเรามีความมุ่งมั่น ไม่ได้คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสอะไร ใครก็มีสิทธิ์สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติได้ทั้งนั้น อาจจะต้องรอจังหวะ รอเวลา รอคนที่ใช่ ก็ดีใจ ภูมิใจ แต่จะไม่มีวันหลงตัวเอง หลงระเริง เพราะที่สุดแล้ว วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปเราก็ยังคงต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดมากยิ่งขึ้นเผื่อจะได้อีก 1-2 มงฯ ในชั่วชีวิตของเรา อยากได้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า”
หลังจากไปทำการศึกษาเวทีมิสเวิลด์ พบว่ายากมาก วอนอย่ากดดันหลัง “โอปอล” ประสบความสำเร็จคว้ามงฯ มาได้
“แม่ปุ้ยว่าอย่ากดดัน อันนี้มันเป็นทฤษฎีจริงๆ ตอนโอปอลไปคนในประเทศสาปสุดฤทธิ์ ไม่มงฯ หรอก จัดประกวดก็ไม่ได้จัด เตรียมตัวแค่ 15 วัน มันงงไปหมด ดรามาก็เยอะ ตอนนั้นพูดตรงๆ ยืนงงในดงอินเดีย มันงงมันเยอะไปหมด ก็คุยกับโอปอล เอาวะ ดับเครื่องชน สู้ให้มันสุดๆไปเลยลูก แม่เชื่อว่าพลังของการต่อสู้ของเราอย่างน้อยมันต้องไม่ตุ๊บ โอปอลก็ทำเต็มที่ โครงการเราไม่ได้แอ๊บแอ้เพิ่งทำ เราทำมานานแล้ว คุณจูเลีย มอร์ลีย์ บอกเลยว่าเขาสืบ สืบยันไอจีสตอรี่ย้อนหลัง
มิสเวิลด์คนต่อไปไม่จำเป็นต้องเอาโอปอลเป็นต้นแบบ โอปอลก็คือโอปอลมี 1 เดียวในโลก คนที่จะมาลงปีหน้า ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเป็นเหมือนโอปอล เอาโอปอลเป็นโรลโมเดลได้ในระบบความคิด แต่คุณไม่ใช่โอปอล คุณก็เป็นคุณนั่นแหละ แต่ภาษาคุณต้องได้ มิสเวิลด์คือโอลิมปิกวิชาการเลยแหละ ตัวแม่ปุ้ยเองพอต้องมาทำก็ทำการบ้านหนักเหมือนกันพอมาศึกษาแล้ว โห… ยากมากเลย มันยากจริงๆ นะ ทำงานกับคุณไบรอัน (ไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ TERO Entertainment) เราก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ปีเดียว แต่เราก็มีสัญญาร่วมกัน ในเรื่องของโมเดล 50-50 ก็ทำงานง่าย คนในองค์กรน่ารัก”
งานของ “โอปอล สุชาตา” ทาง TPN สกรีนให้ส่งกองแม่ เน้นงานภาพลักษณ์ดี
“โอปอลจะกลับมาไทยอีกทีต้นเดือนสิงหาคม โอปอลอยากมาฉลองวันแม่ที่ประเทศไทย โอปอลสามารถรับงานที่เมืองไทยได้ ตอนนี้เราก็กำลังดูให้อยู่ เราก็ทำหน้าที่คัดงานส่งกองแม่ ให้เขาพิจารณาอีกที ตอนนี้ก็รับไว้หลายเจ้า ต้องเป็นงานที่ภาพลักษณ์ดี เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว รวมถึงงานการกุศลด้วย ละครรับได้ เขาไม่ห้ามเลย แต่ปีนี้โอปอลเดินทางตลอดก็คงเป็นไปไม่ได้ สำหรับปีนี้ต้องเป็นงานระยะสั้นๆ”
เรื่องสัญญา “แอนนา เสืองามเอี่ยม” ตนเป็นคนบอกไม่ต้องต่อเอง ดูแลมา 3 ปีแล้วไปเติบโตตามแบบตัวเองได้แล้ว
“ช่วงนี้แอนนาเสือทำงาน 7 วัน เรื่องสัญญาจริงๆ แม่ปุ้ยไม่ได้บอกให้นางงามต่อเลย จะต่อหรือไม่ต่อก็เหมือนเดิม เขาก็ยังอยู่ในบ้าน TPN เขาจะได้ไปทำมาหากินเติบโตของเขาในการต่อจะเป็นเรื่องการดูแลการรับงาน พี่เลี้ยง อันนั้นทำให้อยู่แล้ว แม่ปุ้ยเป็นคนบอกว่าเธอจะต่อทำไม ฉันก็ดูแลเธอเองอยู่แล้ว เธอก็ไปเติบโต เก็บเงินเก็บทองของเธอเอง นี่คือสิ่งที่เราบอกลูกบ้านของเราทุกคน
ทุกคนเติบโตด้วยลำแข้งตัวเองกันได้แล้ว เราก็มีเจนใหม่ๆ เข้ามาทุกปี เราไม่คิดว่าจะต้องมาต่อ เราพอแล้ว เพราะยังมีคนใหม่ๆ เข้ามาอีก ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย หมดสัญญาเดือนไหนยังไม่รู้เลย เขายังมีคิวงานที่ต้องทำกับ TPN อีกเยอะมากค่ะ เรารู้สึกว่าการต่อสัญญาไม่ใช่ประเด็นสำหรับบ้านเรา คุณอยู่ครบ 3 ปี พอแล้ว เราก็ยังมีนางงามใหม่ๆ เข้ามาอีก มีงานไหนติดต่อเรามาอยากได้น้อง น้องก็รับไป เขาควรจะมีโอกาสได้ไปรับงานเอง เป็นตัวของเขาเอง จะไปร่วมงานกับใครได้หมด เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าชีวิตใคร เขาจะไปทำงานร่วมกับใครได้หมด แม่ปุ้ยไม่มีสิทธิ์เซย์เยส เซย์โน กับชีวิตของใครทั้งนั้น”
วอนการเชียร์นางงามเอาแต่พอสนุก อย่าด่าทอกัน
“จะบอกว่าการวิเคราะห์ วิจารณ์มันทำได้ ติชมได้ แต่อย่าไปด่าสาปเขา เขาก็เป็นคน เป็นลูกมีพ่อมีแม่ เขาก็เป็นผู้หญิง บางทีแม่ปุ้ยอ่านแล้ว แรงไป ด่าหยาบคายอยากให้ดูกันด้วยความสนุก ชื่นมื่น ติชมกันแต่พอสังเขป มันน่าเบื่อมากเลยกับการที่มาพูดว่าเตรียมเงินสดไว้ขึ้นศาล มันไม่ใช่”
