วันที่ 9 กรกฎาคม 2025 มีรายงานว่าดาราหนุ่มชื่อดังของเกาหลีใต้ คิมซูฮยอน ได้ขายหนึ่งในสามยูนิตอพาร์ตเมนต์หรูที่ Galleria Foret ย่านซองซูดง กรุงโซล ที่เขาซื้อไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2014 ในราคา 3.02 พันล้านวอน โดยขายได้ในราคา 8 พันล้านวอน ทำกำไรถึง 4.98 พันล้านวอน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเขาอาจจำเป็นต้องรีบระดมเงินสด เนื่องจากเผชิญคดีฟ้องร้องค่าเสียหายจากบรรดาผู้ว่าจ้างโฆษณา
ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าจ้างรายหนึ่งได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออายัดทรัพย์ในอพาร์ตเมนต์ของเขาไปแล้ว โดยทนายของคิมซูฮยอนออกมาชี้แจงว่า “ค่าตัวโฆษณาได้จ่ายไปหมดแล้ว แต่เนื่องจากเกิดประเด็นอื้อฉาว ทำให้โฆษณาไม่สามารถใช้งานได้ จึงถูกเรียกร้องค่าเสียหาย” พร้อมระบุว่าหากชื่อเสียงของนักแสดงกลับมาฟื้นตัว คดีเหล่านี้น่าจะยุติเองตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม คดีความกับบรรดาแบรนด์สินค้ายังคงยืดเยื้อ โดย Cuckoo Electronics แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร่วมงานกับคิมซูฮยอนมากว่า 10 ปี ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 2.03 พันล้านวอน (ราว 54.8 ล้านบาท) อ้างว่าเป็นการละเมิดสัญญาโฆษณา จากกระแสด้านลบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตของคิมกับนักแสดงผู้ล่วงลับ คิมแซรน นอกจากนี้ Cuckoo Electronics ยังยื่นฟ้องแยกอีกคดี เป็นมูลค่า 850 ล้านวอน (ราว 22.9 ล้านบาท)
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม Cuckoo Electronics ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเรียกค่าเสียหาย 850 ล้านวอน หลังจากที่ยื่นขออายัดทรัพย์สินของคิมซูฮยอนมูลค่า 100 ล้านวอนไปเมื่อ 24 เมษายน ซึ่งศาลอนุมัติเมื่อ 20 พฤษภาคม ส่งผลให้บัญชีธนาคารและสินเชื่อของเขาถูกอายัด
ยังมีบริษัทเครื่องสำอางและผู้ว่าจ้างรายอื่น ๆ ที่เริ่มฟ้องร้องเช่นกัน โดยรวมแล้วมีการคาดการณ์จาก The Chosun Ilbo ว่ายอดเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดอาจพุ่งเกิน 10 พันล้านวอน (ราว 270 ล้านบาท) โดยปัจจุบันมีอย่างน้อย 3 จาก 15 แบรนด์ที่ทำสัญญาโฆษณากับคิมซูฮยอน ได้ยื่นฟ้องหรืออยู่ระหว่างเตรียมยื่นฟ้องทั้งตัวนักแสดงและต้นสังกัด Gold Medalist เพื่อเรียกคืนค่าตัวโฆษณาและค่าปรับตามสัญญา
ด้านคิมซูฮยอนและต้นสังกัดก็เดินหน้าสู้คดี โดยได้ยื่นฟ้องกลับ YouTube ช่อง Garo Sero Research Institute และครอบครัวของคิมแซรน ในข้อหาหมิ่นประมาทตามกฎหมายส่งเสริมการใช้เครือข่ายข้อมูลและการคุ้มครองข้อมูล พร้อมเรียกค่าเสียหายกว่า 12 พันล้านวอน (ราว 324 ล้านบาท) อีกทั้งยังยื่นฟ้องอาญาในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการสะกดรอย
คดีนี้เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อช่อง Hoverlab หรือ Garo Sero อ้างว่าคิมซูฮยอนคบหากับคิมแซรนตั้งแต่เธอยังเป็นผู้เยาว์นานถึง 6 ปี ซึ่งเขาปฏิเสธว่ามีความสัมพันธ์ในช่วงที่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม้จะยอมรับว่าคบหากันจริงในภายหลัง แต่ภาพลักษณ์ของเขาได้รับผลกระทบหนัก ทำให้แบรนด์สินค้าหลายรายทยอยยกเลิกสัญญา
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบันเทิงอย่าง พัคซองอู จากสำนักงานกฎหมาย Wooree ให้ความเห็นว่า เมื่อมีคดีความเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว ก็มีแนวโน้มว่าผู้ว่าจ้างรายอื่นจะเร่งเดินหน้าฟ้องร้องตามมาอีก โดยค่าตัวโฆษณาของคิมซูฮยอนแต่ละแบรนด์ในประเทศอยู่ที่ประมาณ 1-1.2 พันล้านวอนต่อสัญญา (ราว 27-32.4 ล้านบาท) ซึ่งหากมีการรวมตัวฟ้องเพิ่ม ยอดค่าเสียหายอาจสูงลิ่วเกิน 10 พันล้านวอนตามที่ประเมิน
