“ทนายอมร” ทนาย “ดีเจแมน” ไม่อยากตอบ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เรียกรับเงินจริง? เอาเป็นว่าทั้งสองฝ่ายคุยเข้าใจกัน ต่างฝ่ายต่างขอโทษซึ่งกันและกัน ส่วนอีกคดีหนึ่งก็ไปว่ากันต่อ ด้านดีเจแมนอยากเอาเวลาไปใช้ชีวิตมากกว่ามาขึ้นศาล โอดครอบครัวตนอยู่ในภาวะบีบคั้นในหลายๆ ด้าน “ใบเตย อาร์สยาม” มีอาการซึมเศร้าหนักมาก ร้องไห้ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
เคลียร์กันจบไปคดีนึงแล้ว “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ถอนฟ้อง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน” สามี “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีออกรายการกล่าวหาว่าฟิล์มเรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex - 3D
ภายในห้องไกล่เกลี่ย ดีเจแมน และ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้จับมือและสวมกอดกัน จากนั้น ดีเจแมนพร้อม ทนายอมร ก็ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงการไกล่เกลี่ยครั้งนี้ที่ยอมความกันด้วยดีว่า
ดีเจแมน : “คดีนี้ที่เขากล่าวหาผมก็ยอมความกัน คุณฟิล์มเขายอมความ มันมี 2 บริบท คือเขาแจ้งความผมหมิ่นประมาท แต่ในสิ่งที่ผมพูดความจริงมันเป็นอีกคดีนึงที่ผมไปแจ้งความ มันก็เป็นอีกหนึ่งเปราะของผมกับเขา จะได้ไม่ต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาลกันต่อ 2 ชั่วโมงแรกก็คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ต้องขอบคุณทีมไกล่เกลี่ย สุดยอดมากๆ”
ทนายอมร : “ทั้งสองฝ่ายคุยกันทุกๆ เรื่อง เข้าใจกัน ต่างฝ่ายต่างขอโทษซึ่งกันและกัน ส่วนอีกคดีหนึ่งก็ไปว่ากันต่อ (มีการขอโทษกันในห้อง?) ขออนุญาตไม่ตอบ มันอยู่ในขบวนการไกล่เกลี่ย เดี๋ยวจะกลายเป็นละเมิดอำนาจศาล เอาเป็นว่าทุกอย่างลงเอยด้วยดี คุยกัน ปรับความเข้าใจกัน เอาเรื่องจริงมาคุยกันทั้งหมด (ที่ไกล่เกลี่ยกันได้สรุปแล้วฟิล์มไม่เคยเรียกรับ?) ผมไม่ขอก้าวล่วง ไม่อยากตอบคำถามนี้ มันเป็นผลพวงของอีกคดีนึง อีกคดีนึงก็ยังคงเหมือนเดิม ที่จบคือเฉพาะคดีนี้”
ยืนยันคำเดิมสิ่งที่ตนเคยพูดเป็นความจริงทั้งหมด
ดีเจแมน : “ไม่มีอะไรผิดโผขนาดนั้นอยู่แล้ว ที่ผมเคยพูดอะไรไว้มันยังเหมือนเดิมทุกอย่าง”
ทนายอมร : “ข้อเท็จจริงมันมีอยู่ในสำนวนอยู่แล้ว แต่จะให้มาพูดเกี่ยวพันกับคดีวันนี้ผมไม่อยากทำแบบนั้น ขอให้จบเป็นเรื่องๆ ไป เอาเป็นว่าวันนี้เราจบกันได้ เข้าใจกันและกัน”
ดีเจแมน : “ผมอยากจะให้มองว่า การที่ผมออกสื่อมาศาล ลูกสาวผมก็โตแล้ว จบเรื่องไหนได้มันก็ดี จบเรื่องไหนไม่ได้ก็ว่ากันไป วันนี้จบได้ 1 เรื่องไม่ต้องมาขึ้นศาลบ่อยๆ จะได้ไปโฟกัสที่เรื่องอื่น ก็ตกลงกันในระดับนึง ทำให้สบายใจในระดับนึง”
เรื่องราววันนี้ยุติได้เพราะต่างฝ่ายต่างปรับความเข้าใจกัน
ทนายอมร : “อย่าใช้คำว่าแมนให้อภัย ใช้คำว่าต่างฝ่าย เพื่อให้ไม่กระทบต่อคุณฟิล์ม อาจจะเสียหายกับเขา ใช้คำว่าต่างฝ่ายต่างปรับความเข้าใจกันได้ จึงได้มีการถอนฟ้องกันเกิดขึ้น อย่าไปใช้คำว่าให้อภัย”
ดีเจแมน : “อีกคดี (เรียกรับเงิน 14 ล้าน) มันดำเนินไปแล้ว การให้ปากคำที่ดีที่สุดคือการให้ปากคำด้วยหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งมันละเอียดอ่อนมากๆ ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
จากนี้ขอให้ตนกับ “ฟิล์ม” ต่างคนต่างอยู่
ดีเจแมน : “ที่ผ่านมาถามว่าสนิทไหมมันก็ห่างกันพอสมควร การที่ต่างคนต่างอยู่ก็โอเคครับ จบกันก็ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร ไม่มีเยียวยาอะไรเพราะเรามีหลักฐานหมด”
ทนายอมร : “สิ่งที่เป็นกังวลของครอบครัวแมนที่คุยกันทุกคนเป็นกังวลกันหมด ก็อยากจะให้พบปะพูดคุยหาข้อเท็จจริงที่ยุติกันได้ เอาเหตุเอาผลมาคุยกันก็จบกันได้”
เคยผ่านการต่อสู้คดีมายาวนานเลยทำให้รู้สึกว่าอันไหนจบได้ก็อยากจบ โอดครอบครัวตนอยู่ในภาวะบีบคั้นในหลายๆ ด้าน “ใบเตย อาร์สยาม” มีอาการซึมเศร้าหนักมาก
ดีเจแมน : “อันไหนที่มันควรจะจบก็ให้มันจบ ผมผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาเยอะมาก มันไม่ดีหรอกครับการขึ้นศาล มันยาวนานมาก อันไหนจบได้ก็จบ อันไหนที่มันดำเนินไปแล้วก็ต้องดำเนินต่อไป ให้ความกระจ่างกับประชาชนแน่นอน ยืนยันคำเดิมไม่เคยผิดคำพูด ผมไม่ได้กังวลอะไรในเรื่องของคดี
ผมอยากใช้ชีวิต ผมอยากให้คนเข้าใจว่าบ้านเราเป็นระบบกล่าวหา คนก็ยังไม่เชื่อเรา 100% ผมตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เลี้ยงลูก เป็นพ่อที่ดี ใช้หนี้ มันเหนื่อยนะกว่าจะทำอะไรได้แต่ละวัน เมื่อวานซืนใบเตยร้องไห้อยู่ที่อ่างอาบน้ำ บอกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ โรคซึมเศร้าของเขามันหนักมากๆ หลายๆ อย่างในครอบครัวผมมันมีความกดดัน บีบคั้นที่รุนแรง
ตอนนี้เราก็กำลังก่อร่างสร้างตัวให้มันดีขึ้น ทำมาหากินกันไป พยายามประคับประคองเขาและครอบครัว ตอนนี้ประกันพ่อแม่ผมก็ไม่มี ประกันพ่อแม่ใบเตยก็ไม่มี เพราะเราไม่ได้หาเงินเลยมาตั้งแต่เราถูกกล่าวหา 3 ปีที่แล้ว จนมาวันนี้เราไม่ได้มีเงินเท่าเดิม เศรษฐกิจแบบนี้อีก เราต้องสู้กับหลายอย่างมากๆ
ค่าทนายความของเก่าผมยังไม่ได้จ่ายเลย ที่ผมมายืนวันนี้บอกเลยว่ามันไม่ง่าย เราผ่านเรื่องราวเลวร้ายมา เราคุยกันทุกเรื่อง ผมทะเลาะกับภรรยายังปรึกษาพี่อมรเลย แกก็ทวงอยู่นะ แต่ผมไม่มีให้ มาอันนี้อีก พี่เขาช่วยผมด้วยใจจริงๆ หาไม่มีแล้วครับแบบนี้ ผมว่าเรื่องนี้ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก เดี๋ยวสักพักเราก็จะได้รู้เอง”
ทนายอมร : “แมนได้รับประสบการณ์มาแล้ว ผมเองก็ไม่เคยได้รับประสบการณ์อย่างแมนในการติดคุก มันจะทำให้น้องได้คิดมากขึ้น ผมช่วยเท่าที่ช่วยได้ในแง่ขอบกฎหมาย แต่จะให้ช่วยทุกเรื่องก็คงคิดอีกทีนะครับ”
