เรียกได้ว่าเป็นบรรณาธิการบริหารระดับตำนานโลกเลยจริงๆ สำหรับ “แอนนา วินทัวร์” จากนิตยสาร Vogue ของอเมริกา ที่ล่าสุดประกาศสละเก้าอี้ให้คนรุ่นใหม่ หลังบริหารงานมานาน 37 ปี
ตามรายงานระบุว่า ในการประชุมทีมงานนิตยสารเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา แอนนา วินทัวร์ วัย 75 ปี ได้บอกกับทีมงานว่า เธอจะลงจากตำแหน่งนี้หลังจากดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลา 37 ปี และจะมีการเปิดตัวผู้ดำรงตำแหน่งใหม่ คือ หัวหน้าฝ่ายเนื้อหาบรรณาธิการ
แอนนา วินทัวร์ นับเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในอุตสาหกรรมแฟชั่น แม้จะวางมือจากนิตยสาร Vogue อเมริกา แต่เจ้าตัวจะยังคงนั่งแท่นตำแหน่งผู้อำนวยการกองบรรณาธิการระดับโลกของ Vogue และดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเนื้อหาของ Conde Nast ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์นิตยสาร Vogue ต่อไป
ในระหว่างการประชุมทีมงาน แอนนา วินทัวร์ อธิบายว่าเธอต้องการ "ช่วยให้บรรณาธิการรุ่นใหม่บุกเบิกวงการด้วยไอเดียของตัวเอง"
ตามรายงานของ Vogue บรรณาธิการกล่าวว่า “ทุกคนในแวดวงงานสร้างสรรค์ต่างรู้ดีว่าการไม่หยุดพัฒนาผลงานของตัวเองนั้นมีความสำคัญเพียงใด เมื่อฉันได้เป็นบรรณาธิการของ Vogue ฉันกระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนที่อยากฟัง เห็นว่ามีวิธีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในการจินตนาการนิตยสารแฟชั่นอเมริกัน ตอนนี้ ฉันพบว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือการช่วยให้บรรณาธิการรุ่นใหม่ที่มีแรงบันดาลใจ ได้สร้างสรรค์ผลงานในสาขาต่างๆ ด้วยแนวคิดของตนเอง โดยได้รับการสนับสนุนจากมุมมองใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับสิ่งที่บริษัทสื่อชั้นนำสามารถเป็นได้”
แอนนา วินทัวร์ ชาวอังกฤษเข้าร่วมงานกับ American Vogue ในปี 1988 หลังจากดำรงตำแหน่งบรรณาธิการนิตยสารฉบับอังกฤษเป็นเวลา 3 ปี
เจ้าตัวได้รับการยกย่องและยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้เปลี่ยนแปลงนิตยสาร โดยนำแฟชั่นระดับไฮเอนด์และสไตล์ที่ราคาไม่แพงมาผสมผสานกัน
นอกจากนี้ วินทัวร์ ยังเป็นผู้รับผิดชอบงาน Met Gala ตั้งแต่ปี 1995 และเธอช่วยให้งาน Met Gala ที่มีดาราดังเข้าร่วมระดมทุนได้มากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาที่เธอดำรงตำแหน่ง
แอนนา วินทัวร์ เพิ่งได้รับพระราชทานยศเป็นท่านผู้หญิงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และหลังจากเข้าร่วมพิธีที่พระราชวังบักกิงแฮม วินทัวร์ ยืนกรานว่าเธอยังไม่มีแผนจะเกษียณอายุ
เธอกล่าวในตอนนั้นว่า “ครั้งสุดท้ายที่ฉันมาที่นี่ ตอนนั้น พระราชินี ทรงมอบเหรียญรางวัลให้ฉัน และเราทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่าเราทำหน้าที่นี้มานานมากแล้ว และเช้านี้ พระราชา ก็ทรงถามฉันว่าหลังได้ตำแหน่งนี้ นั่นหมายความว่าฉันจะหยุดทำงานหรือไม่ และฉันก็ตอบอย่างหนักแน่นว่า ‘ไม่’”
