เจฟฟ์ เบโซส์ มหาเศรษฐีเจ้าของ Amazon และ ลอเรน ซานเชซ คู่หมั้นคนดัง จัดงานวิวาห์สุดเว่อร์วังกลางเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี พร้อมขบวนแขกระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง “คิม คาร์เดเชียน” และ “โอปราห์ วินฟรีย์”
โดยมีการจัดปาร์ตี้โฟมบนซูเปอร์ยอชต์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ และเช่าโรงแรมหรูทั้ง 5 แห่งรวมทั้งเรือแท็กซี่ 30 ลำ และเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวอีกถึง 90 ลำ
ค่าใช้จ่ายสำหรับงานแห่งศตวรรษนี้ ถูกประเมินโดย “ลูกา ซายา” ประธานเขตเวเนโต ซึ่งดูแลพื้นที่เมืองเวนิส ระบุว่าคู่บ่าวสาวน่าจะต้องควักกระเป๋าจ่ายราว 40-48 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,900 ล้านบาทไทย ตามรายงานของ Reuters
สิ่งที่รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายมหาศาลนี้ ได้แก่ ยังรวมถึง การบริจาค 1 ล้านยูโร (ประมาณ 42 ล้านบาท) ให้แก่องค์กร CORILA ซึ่งทำงานด้านการวิจัยและอนุรักษ์ระบบนิเวศในเวนิส, บริจาคให้องค์กร UNESCO Venice Office เพื่อปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมของเวนิส และมหาวิทยาลัยนานาชาติเวนิส เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความยั่งยืน และ เช่าโรงแรมหรูเต็มทั้ง 5 แห่ง รวมถึงโรงแรม “Cipriani” ที่เคยใช้จัดงานแต่งของ “จอร์จ และอามัล คลูนีย์” เมื่อปี 2014
อย่างไรก็๖ามหลายฝ่ายมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการบุกรุกพื้นที่ชีวิตของคนท้องถิ่นโดยคนรวยและนักท่องเที่ยวระดับวีไอพี
กลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ชื่อว่า “No Space for Bezos” ได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการวางหุ่นจำลองของเบโซส์ลงบนเรือที่ล่องในคลอง พร้อมถือกล่อง Amazon และธนบัตร เพื่อสื่อถึงการครอบงำเมืองของทุนใหญ่ โดยมีข้อความวิจารณ์ว่าเวนิสกำลังถูกเปลี่ยนจากเมืองประวัติศาสตร์ให้กลายเป็น “ของเล่นของคนรวย”
ขบวนการ Greenpeace ยังร่วมออกแถลงการณ์และนำป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “IF YOU CAN RENT VENICE FOR YOUR WEDDING YOU CAN PAY MORE TAX” ขึ้นแสดงบนสะพานกลางเมือง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตักเตือนและยึดป้ายดังกล่าว
นักเคลื่อนไหวท้องถิ่นหลายรายออกมาให้สัมภาษณ์ว่า งานแต่งครั้งนี้สะท้อนปัญหา “โอเวอร์ทัวร์ริซึม” (Overtourism) หรือภาวะเมืองล้นนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ ราคาค่าครองชีพพุ่งสูง, ค่าที่อยู่อาศัยแพงเกินเอื้อม, และ การจราจรถูกปิดกั้นชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับซูเปอร์ยอชต์และขบวนแขกคนดัง
“เวนิสควรเป็นของคนเวนิส ไม่ใช่ฉากหลังของเศรษฐีต่างชาติ” นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น
ตัวแทนผู้จัดงานจากบริษัท Lanza & Baucina ชี้แจงว่าได้ดำเนินการอย่างระมัดระวัง โดยใช้ทีมงานท้องถิ่นและวางแผนให้การจัดงานเกิดผลกระทบต่อเมืองให้น้อยที่สุด พร้อมยืนยันว่าพื้นที่สำคัญอย่าง Arsenale ซึ่งจะใช้จัดพิธีหลัก ถูกเลือกเพราะอยู่นอกเขตการเดินเท้าของชาวบ้าน
ด้าน “ลุยจิ บรูญาโร” นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส กล่าวสนับสนุนงานดังกล่าวโดยระบุว่า “ชาวเมืองส่วนใหญ่รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพให้กับงานระดับโลกแบบนี้” พร้อมเน้นว่างานแต่งงานของเบโซส์สร้างรายได้จำนวนมากและช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น
แม้จะมีเสียงสนับสนุนจากฝ่ายทางการ แต่กลุ่มชาวเมืองที่เดือดร้อนยังยืนยันเดินหน้ารณรงค์ให้มีการจำกัดการใช้งานพื้นที่สาธารณะเพื่อกิจกรรมส่วนบุคคลของมหาเศรษฐี พร้อมเรียกร้องให้รัฐปรับเกณฑ์ภาษีและควบคุมการใช้พื้นที่เมืองเพื่อปกป้องคุณภาพชีวิตของคนเวนิสในระยะยาว
