“ดอม เหตระกูล” เปิดใจเส้นทางโกอินเตอร์ร่วมงานโปรดักชั่นโลก แสดงกับ “ลิซ่า BLACKPINK” เผยรักภรรยา 23 ปี คุย 6 วันขอแต่งงาน พร้อมเผยเบื้องหลังละครเรตติ้งสูง “ชะตาหงส์” เข้าไปขอเล่นเอง
ออกมาเปิดใจสำหรับนักแสดงหนุ่ม “ดอม เหตระกูล” ที่มาย้อนเล่าเบื้องหลังเส้นทางโกอินเตอร์ได้ร่วมงานกับโปรดักชั่นระดับโลก พร้อมเผยความรู้สึกหลังได้แสดงร่วมกับสาว “ลิซ่า BLACKPINK” ลลิษา มโนบาล พร้อมเปิดเผยเส้นทางความรักกับภรรยานานกว่า 23 ปี คุย 6 วันขอแต่งงาน! ในรายการ คุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องOne 31 ที่มีพุฒ พุฒิชัย และ เบนซ์ พรชิตา ดำเนินรายการ
ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของการเป็นนักแสดง เรื่องที่เพิ่งจบไปคือ “ชะตาหงส์” ได้เรตติ้งอันดับหนึ่งของช่องวัน?
ดอม : ครับผม อันนี้ก็ได้ทางทีมนักแสดงครบ เรตติ้งเฉลี่ย 7.4
พอเห็นเรตติ้งแบบนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ?
ดอม : ก็รู้สึกดีใจแทนนักแสดงทุกคน ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ และที่นี่ก็มีบทให้กับทุกตัวละครไม่ว่าจะรุ่นใหม่เลือดใหม่พระเอกนางเอก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่อย่างพวกผม หรือพี่แหม่ม จินตหรา
เรื่องขอเล่นเองด้วย ?
ดอม : ใช่ครับ เพราะเราดูพฤติกรรมของคนดู ว่าตอนนี้ควรหันมาดูละครก่อนข่าวเยอะขึ้น พอหลังสองทุ่มครึ่งเขาก็จะมีกิจธุระไปทำอื่นๆ ของเขา ไปอยู่กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบ้างทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง ซึ่งละครบ้านเราก็ถือว่าทำได้ดีอยู่ แต่มันอาจจะแชร์ไปด้วยช่องทางอื่นๆ อย่าง สตรีมมิ่ง ในโซเชียล เพราะฉะนั้นเราเลยคิดว่า ถ้าคนไปกองกันอยู่ละครก่อนข่าว งั้นเราขอเล่นได้ไหม เพราะเราเห็นละครก่อนข่าวของหลายๆ ช่องเรตติ้งดี เราเลยขอเถอะ
นอกจากละครบ้านเรา ล่าสุดก็ยังโกอินเตอร์ จุดเริ่มต้นที่ได้ไปเล่นซีรีส์ “The White Lotus Season 3” ?
ดอม : ก็ได้เข้าไปปกติเลย ก็มีการเรียกไปออดิชั่น ที่เกิดขึ้นทุกที่กับทุกโปรเจกต์ มันเป็นเรื่องราวปกติ การไปแคสคือการให้เขาได้ดูว่าเราเหมาะสมจริงๆ มั้ย รูปก็อย่างนึงการแสดงก็อย่างนึง มันมีขนาดที่เข้าฉากแล้วก็ยังเปลี่ยนตัวได้ ถ้าดูโดยรวมแล้วมันไม่เกิดเคมีเขาก็เปลี่ยนได้ จุดเริ่มต้นเลยคือเรียกไปออดิชั่น เราก็ไม่ได้ติดอะไรพอเราทำงานเยอะๆ แล้วเราก็รู้สึกเหมือนอยากได้อากาศใหม่ๆ เราเหมือนรีบูทรีสตาร์ทตัวเองใหม่ เพื่อที่จะไม่ได้ยึดกับบทบาทที่เราเคยได้รับ
อย่างเรื่องนี้ตอนเขาส่งมาแคสเขาก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร ?
ดอม : ไม่ได้บอกครับ เค้าจะมีแค่ชื่อโปรเจกต์ของเขา อื่นๆ ใดๆ ดังนั้นก็รู้กันเฉพาะกลุ่มโปรดักชั่น แต่เราไม่รู้หรอก จริงๆ แล้วมันเป็นขั้นตอนปกติ
พอแคสไปเขาบอกตอนไหนว่าเราได้โปรเจกต์นี้ ?
ดอม : ก็อีกประมาณสองถึงสามสัปดาห์ครับ เพราะเขาทำงานค่อนข้างเร็ว เนื่องจากเลือกนักแสดงบางส่วนไปเรียบร้อยแล้วเขาทำงานกันเร็วมาก
พอบอกว่าเป็นเรื่องนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
ดอม : เราไม่เคยดู ได้ยินคำกล่าวอ้างจากคนรอบรอบตัวว่ามันดีนะ มันดัง แต่เราไม่เคยดูไม่เคยเสพ มานั่งอ่านตาม Google มาทำความเข้าใจว่ามันคือยังไง ตอนนั้นรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่ ก็ต้องมานั่งดูการเล่าเรื่องเขาว่าเป็นยังไง เราก็มาดูว่าตอนที่เราแคสได้เราแคสได้เพราะอะไร
มันยากไหมเราต้องเจอกับนักแสดงต่างชาติด้วย หนึ่งในนั้นมีลิซ่าร่วมด้วย?
ดอน : กับน้องลิซ่าผมก็เล่นปกติ การรับบทหรือเลือกบทตัวละคร ลิซ่าก็ถือว่าเป็นเดบิวต์เรื่องแรกเขาก็พยายามเต็มที่ สิ่งที่ออกมาเขาก็อาจจะบอกว่าบทน้อยไปอาจจะไม่มีอะไรเลย แต่สิ่งที่น้องเป็นเหมาะสมกับตัวละคร สิ่งที่ออกมาบางคนอาจจะบอกว่าแอร์ไทม์น้อยไปหรือเปล่า แต่คนที่มาเล่นก็มีชื่อเสียงหมด วิธีการทำงานโปรดักชั่นก็จะแตกต่างจากบ้านเรา
ในชีวิตของการเป็นนักแสดงก็จะมีกราฟขึ้นและกราฟลง เคยผ่านช่วงงานน้อยมาแล้ว?
ดอม : มันก็เป็นเรื่องปกติของชีวิตคนเรา มีขึ้นมีลงทำยังไงก็หาอย่างอื่นทำ ช่วงที่งานน้อยก็อายุ 26-27 เราก็เลยหาอย่างอื่นทำ โชคดีที่ตอนนั้นมีงานหนังต่างประเทศเข้ามาให้แคส เราก็ได้มีโอกาสสร้างคอนเนกชั่นฝั่งนั้นด้วย ทุกคนมีขึ้นมีลงใช้เวลาระยะเวลาไม่เท่ากัน ตอนนั้นเราทำธุรกิจมอเตอร์ไซค์อยู่ก็ผลักดันมันขึ้นมาการรับงานละคร ตอนนั้นเราก็มองว่างานละครไม่ได้มีบทตัวเอกหรือพระเอก อย่างเดียวที่คนจะจำได้ก็คือไปเล่นร้าย เราก็เลยได้กลับมา พอตอนกลับมาตอนอายุ 31 ก็มีลูกพอดีก็เลยมีความพยายามมากขึ้น
คนนี้คือคุยกันกี่วันแล้วแต่งเลย ?
ดอม : เดตๆ เดตกัน 6 วันก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียนคนที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ ได้ไปที่ทำงาน เราก็เลยตัดสินใจเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตมันก็จะมีทั้งดีกว่าและแย่กว่าปนกันไป แต่เราพอได้ก็พอ ถ้าเราไปเจอคนที่ดีกว่าและเราไม่พอก็ต้องไปต่อ เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องมองไปไกลกว่านั้น แต่เราก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้เหมือนกัน ถ้า 6 วันแล้วมันโอเคมันก็จะโอเค
6 วันแล้วขอแต่งงานเลย ?
ดอม : ก็ขอแต่ที่เหลือก็รอไปอีกสองปี ผู้ใหญ่ก็บอกว่าอย่าเพิ่ง ไม่ต้องรีบร้อน ก็จริงคือช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ก็มีทะเลาะกันบ้างเราก็คิดเสมอว่าถ้ามันเลือกมันก็ต้องเลือกตลอดชีวิต เราตั้งแต่ชาร์จกับตัวเองประมาณนึงนะ บางคนถามว่าเลือกเพราะอะไร สำหรับผมเองผมเลือกคนที่มีอะไรที่ผมไม่มี ก็ต้องมานั่งตอบตัวเองว่าแล้วเราไม่มีอะไร
แล้วตอนนั้นไม่มีอะไร?
ดอม : มันบอกไม่ได้แต่ตอนนั้นคือเขามีทุกอย่างที่ผมไม่มี เราไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกัน ชีวิต ความเป็นอยู่เราก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่ทุกวันนี้ที่ผมอยู่ได้มันเหมือนมีความบาลานซ์ ทุกคนอาจจะแสวงหาอย่างอื่นแต่ชีวิตคู่ของผมอยากหาในสิ่งที่ผมไม่มี คำแนะนำหรืออะไรบางอย่างที่วันนึงเรารู้สึกท้อ เขาจะบอกว่าให้เราสู้ ถ้าเราดันทุรังสุดๆ เลยเขาจะบอกว่าให้เราพอแล้ว มันมีคนผลักดันเวลาเราท้อ มันก็คือเป็นสิ่งที่ดีกว่า เราเห็นทุกอย่างแล้วเราคิดว่ามันโอเคก็โอเค สองปีที่ผ่านมาเราก็เจอปัญหาเหมือนที่ผู้ใหญ่เขากลัวย้อนกลับมาตอนนี้ก็ 24 ปี แล้วมันก็ไม่ได้ง่าย ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ง่าย เราต่างมีงานมีธุรกิจทุกวันนี้ ปีนี้ก็เป็นปีที่หนักอยู่
อยากให้แชร์เคล็ดลับว่าอะไรที่ทำให้เรารักกันมาได้นานขนาดนี้?
ดอม : มันเป็นสายสัมพันธ์บางอย่างที่เริ่มจากชอบ ประทับใจ เพราะมันมีความรัก มันจะทำให้เรายอมรับทุกสิ่งทุกอย่างได้ แม้กระทั่งข้อเสียอยู่กับมันได้ เพราะวันนึงมันจางไปมันก็เหมือนปูนที่ต้องฉาบใหม่ แล้วมันแยกกันยาก บางครั้งมันมีอารมณ์เยอะ บางทีก็ผ่อนบ้างเพราะความรักเป็นสายสัมพันธ์ที่เทียบกับอะไรไม่ได้ มันก็ต้องยืดหยุ่นยอมรับซึ่งกันและกันเข้าใจกันและกัน อยู่ด้วยกันและให้เกิดความสบาย บางครั้งทุกคนกลัวความเปลี่ยนแปลงแต่ทุกคนก็ไม่ได้อยากยึดติด เราโตขึ้นทุกวันความแก่เป็นความธรรมชาติของพวกเรา หลายหลายอย่างมันคือความธรรมชาติแล้วทำไมเราถึงไม่ยอมรับมัน
ลูกสาวตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว อายุเท่าไหร่แล้ว?
ดอม : ปีนี้ 18 แล้ว ลูกสาวมีเดตแล้ว
ห่วงไหมเวลาลูกสาวจะมีแฟนความรู้สึกเป็นพ่อเป็นยังไง?
ดอม : ก็ถ้าในอดีตเราเป็นแบบนั้นมันก็คงเป็นแบบนั้น ไม่ต้องหวงอะไรมากนัก คือมันเป็นความรู้สึกห่วง เวลาเราไม่เข้าใจมันจะมีความกลัวแทรกเข้ามา แต่มันต้องถามก่อนว่าเราอยากดูแลเขาไหมถ้าเราอยากดูแลเขามันก็ต้องเข้าใจกับสถานการณ์ มันก็จะห่วงน้อยลง สิ่งที่เราอยากรู้ก็ใช้ความเชื่อใจและความเข้าใจ ที่จะสะดวกใจคุยกัน
ถามว่าหวงไหมก็หวง แต่ไม่ได้อะไรมากขนาดนั้นอยากทำให้เขาเห็นมากกว่า ไม่อยากเสียความไว้ใจเชื่อใจจากลูกไป อย่างน้อยถ้าเราทำให้ลูกรู้สึกว่าเราอยากได้ ผู้ชายแบบนี้ คือเราไม่ต้องทำอะไรเยอะคือเขาจะพยายามหาผู้ชายที่แบบพ่อฉันเนี่ย ถ้าฉันอยู่และมีความสุขฉันอยากได้แบบนี้ เขาค่อนข้างเอาตัวรอดเก่ง คือถ้าเขาเป็นแบบนี้เราสบายแล้ว
เดี๋ยวลูกสาวจะไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย?
ดอม : จริงๆ เขาเลือกไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าอยากเรียนต่างประเทศอยากไปเรียนพวกจิตวิทยา ถามว่าห่วงมั้ยก็ยังห่วงอยู่ แต่เชื่อว่าเขาน่าจะโอเค
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
