xs
xsm
sm
md
lg

Kpop Demon Hunters แอนิเมชันน่ารัก ๆ ที่ดูเพลินและเพลงเพราะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา



ถ้าคุณเคยชื่นชอบแอนิเมชันแนวมิวสิคัลสีสันสดใสที่มาพร้อมกับเรื่องราวดี ๆ และเพลงเพราะ ๆ อย่าง Frozen , Moana หรือ Encanto มีความเป็นไปได้สูงมากที่แอนิเมชันเรื่องใหม่อย่าง Kpop Demon Hunters จะเข้าไปอยู่ในลิ้นชักแห่งความชอบของคุณอีกเรื่องหนึ่ง

Kpop Demon Hunters หรือชื่อไทย “เกิร์ลกรุ๊ปนักล่าปีศาจ” เป็นผลงานจากค่ายโซนี พิคเจอร์ส ที่เผยแพร่ทางเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งต้องบอกว่า โซนี่นั้นเคยประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมมาแล้วจากการนำสไปเดอร์แมนมาสร้างจักรวาลใหม่ในเวอร์ชันแอนิเมชันอย่าง Spider-Man: Across the Spider-Verse ปี 2018 ซึ่งนอกนอกจากจะทำรายได้ถล่มทลาย ยังคว้ารางวัลแอนิเมชันบนเวทีออสการ์มาครอง

หลังจากนั้น ยังมีไอ้แมงมุมแอนิเมชันตามมาอีกในปี 2023 กับ Spider-Man: Across the Spider-Verse ซึ่งแม้จะมีโอกาสได้เป็นเพียงผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชันโดยพ่ายให้กับ The Boy and The Hyron แต่ทว่าในเรื่องรายรับ กลับทำเงินได้มากกว่าภาคแรกถึง 2 เท่า


แน่นอนว่า นอกจากเนื้อเรื่องที่โดนใจ งานภาพที่งดงามอลังการ องค์ประกอบอย่างหนึ่งซึ่งทำให้คนดูตกหลุมรักจักรวาลใหม่ของไอ้แมงมุมก็คือเพลงประกอบที่มาในสไตล์เพลงป๊อป และคนจำนวนไม่น้อยก็ยกให้เป็นแอนิเมชันที่มีเพลงประกอบเพราะมากที่สุดเรื่องหนึ่ง

และในระหว่างรอคอยการมาถึงของแอนิเมชันสไปเดอร์แมนภาค 3 โซนี พิคเจอร์ส ก็มีหมัดเด็ดมาคั่นเวลาก่อน ซึ่งก็คือ Kpop Demon Hunters เรื่องนี้ที่เสมือนหนึ่งจะเป็นการเชิดชูความงดงามของบทเพลงแบบจัดเต็ม ด้วยการสร้างแอนิเมชันแนวมิวสิคัลแบบสมบูรณ์ โดยยก K-Pop ขึ้นมาเป็นตัวตั้งแล้วสร้างสรรค์ผสมผสานกับความป๊อปของไอดอลเกาหลีที่ดังไกลไปทั่วโลก

แต่แม้จะบอกว่าเป็นงานคั่นเวลา ถึงอย่างนั้นก็พูดได้ว่า เป็นงานที่มีคุณค่าอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะองค์ประกอบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโปรดักชันงานสร้าง งานดีไซน์ เอฟเฟคต์ ตัวละคร เนื้อเรื่อง ล้วนน่าประทับใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกเพลงในเรื่องล้วนดีงามและมีความหมาย


Kpop Demon Hunters กำกับโดย “แม็กกี้ คัง” (Maggie Kang) และ “คริส อัปเปิลฮานส์” (Chris Appelhans) ซึ่งในส่วนของต้นขั้วความคิดไอเดีย เชื่อว่าน่าจะมาจากแม็กกี้ คัง เป็นสารตั้งต้น เธอคือคนเกาหลีที่ไปเติบโตในแคนาดา เรียนจบและทำงานด้านแอนิเมชันในสังกัดโซนี พิคเจอร์ส โดยที่ผลงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จากการคิดคำนึงถึงวัฒนธรรมและเรื่องราวหลากหลายในถิ่นฐานบ้านเกิด โดยนำเอาตำนานปีศาจที่ลึกลับมาผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรม K-Pop ที่เฟื่องฟู ในบรรยากาศเรื่องราวที่ห่อหุ้มด้วยความเป็นแฟนตาซี แอ็กชัน และมิวสิคัล ที่สอดประสานเข้ากันอย่างลงตัว

เนื้อเรื่องโดยย่อเล่าถึงสาวน้อยทริโอวงฮันทริกซ์ (Huntrix) ซึ่งประกอบไปด้วย “รูมิ” “มีรา” และ “โซอี้” โดยภาพลักษณ์เบื้องหน้า พวกเธอคือเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังมีอีกหนึ่งภารกิจที่หลายคนอาจไม่รู้ คือการเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องโลกจากการคุกคามของปีศาจที่กำลังรุกคืบเข้ามาทุกขณะ โลกจะถึงกาลอวสานหรือคงอยู่ต่อไป คือเดิมพันอันยิ่งใหญ่ที่ท้าทายความสามารถของพวกเธอ

ว่ากันตามจริง Kpop Demon Hunters เปรียบเสมือนลูกกวาดสีสันสดใสที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร มันเป็นหนังที่ดูง่ายและเข้าถึงได้ง่าย ด้วยเนื้อหาที่อายุไม่เยอะ แบบเด็กวัยรุ่นอินได้ ขณะที่ผู้ใหญ่หน่อยก็สามารถเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็มีมิติมีปมตัวละครที่ซับซ้อนพอสมควรและเป็นจุดที่หนังนำมาใช้ในการขับเน้นให้เรื่องดูมีอะไรเข้มข้นขึ้น


โดยเฉพาะสามตัวละครหลัก คนที่แบกเยอะสุดคงเป็น “รูมิ” ที่ซ่อนเรื่องราวความเป็นมาไว้อย่างมิดชิด ก่อนจะกลายเป็นประเด็นปัญหาที่รบกวนจิตใจและความเชื่อมั่นของเธอเอง รวมทั้งกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งจุดนี้ก็เป็นมิติตัวละครที่ทำออกมาได้น่าสนใจ เช่นเดียวกับ “จินอู” หนุ่มบอยแบนด์สุดเท่ที่จะว่าไปก็เหมือนภาพสะท้อนอีกด้านของ “รูมิ” เช่นกัน แต่รวม ๆ แล้ว แม้ตัวละครหจะดูมีความเครียด แต่ก็มีจังหวะผ่อนคลาย แบบตลก ๆ ทั้งคำพูด ท่าทาง และหน้าตา ซึ่งได้อิทธิพลมาจากอนิเมะ ทำให้ตัวละครสุดป๊อปสุดเท่เวลาอยู่ต่อหน้าสาธารณะ มีมุมตลกน่ารักตอนอยู่ในโลกส่วนตัว

ทั้งนี้ จุดขายสำคัญอย่างหนึ่งของ Kpop Demon Hunters คือความเป็นมิวสิคัลหรือมีเพลงเป็นหัวใจอีกหนึ่งห้อง ซึ่งมีคนดังมากมายมาร่วมแต่งเนื้อร้องทำนอง โดยเพลงส่วนใหญ่มีสไตล์แบบตะวันตกผสมกับกลิ่นอายเคป๊อป โดยเฉพาะเพลงหลักอย่าง Takedownที่คนขับร้องก็ระดับไอดอลตัวท็อปของเกาหลีจากวง Twice ทั้ง “จีฮโย” “จองยอน” และ “แชยอง” ส่วนในฝั่งของตัวละครชายก็ได้ “อันฮโยซอบ” มาเดบิวต์พากย์เสียงภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรกในบท “จินอู” หัวหน้าวงซาจาบอยส์สุดหล่อที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดา

ถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเห็นจากหน้าหนังว่าเน้นไปทางเคป๊อปซึ่งตัวเองไม่สนิทชิดเชื้อ (ผู้เขียนก็เช่นกัน) แต่ก็อยากจะบอกว่าถึงแม้คุณจะไม่ใช่สาวกเคป๊อป ก็ยังสามารถที่จะชอบหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากจากเนื้อหาที่มีความเป็นสากล เพียงแต่ถ้าติดตามเคป๊อปอยู่แล้ว ก็จะเห็นรายละเอียดที่หนังแทรกใส่เข้ามาซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของเหล่าสาวกเคป๊อป แต่สุดท้ายแล้วอยากจะบอกว่า หนังมีความเป็นสากล ดูสนุก เพลิดเพลินตลอดความยาว 1 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ แบบ...ไม่เสียดายเวลา...











กำลังโหลดความคิดเห็น