กลายเป็นเรื่องเป็นราว เมื่อ “อนุวัติ เฟื่องทองแดง” อยู่ดีๆ ก็โดนออกหมายจับ ในคดีฉ้อโกง จากตำรวจที่บึงกาฬ โดยให้เหตุผลว่าผู้เสียหายสูญเงินจากการหลงเชื่อเพจ “อนุวัติ จัดให้” เป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท ต้องไปแสดงตัวในวันที่ 30 มิ.ย.
แต่หลังจากเป็นข่าวก็เหมือน “คดีจะพลิก” จากเป็น “ผู้เสียหาย” ตอนนี้กลายเป็น “ผู้ต้องหา”
~ เริ่มจากเป็นผู้เสียหาย เพราะโดนแอบอ้างนำรูปไปใช้ โดยได้นำคลิปต่างๆ ที่เจ้าตัวได้โพสต์ลงในเพจส่วนตัว โดยเพจของมิจฉาชีพได้นำไปโพสต์พร้อมข้อความ “ขาดสภาพคล่อง ต้องการเงินด่วน ถูกกฎหมาย อนุมัติไว น่าเชื่อถือ” รวมไปถึงใช้ภาพนิ่งกับข้อความ “บริการสินเชื่อเงินกู้“ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาเตือนว่าอย่าหลงเชื่อ ผ่านเพจอนุวัต จัดให้ ในวันที่ 21 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา
~ ล่าสุด (มิ.ย.68) เจ้าตัวตกเป็น “ผู้ต้องหา” เพราะมีชาวบ้านแจ้งความในคดีฉ้อโกง และตำรวจบึงกาฬได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 หากไม่ไปก็จะโดนหมายจับ ซึ่งนัดให้ไปพบ 30 มิ.ย.
~ เจ้าตัวงงจาก “ผู้เสียหาย” แต่ทำไมกลายเป็น “ผู้ต้องหา” อยู่ดีๆ ก็ถูกดำเนินคดี “อะไรกันครับ ระบบยุติธรรมเมืองไทย”
~ เจ้าตัวงงใจ ตัวเองเตือนภัยตลอดเวลา แต่ที่ยังจับไม่ได้ก็เพราะมิจฉาชีพมันอยู่ปอยเปต พร้อมถามกลับว่ามิจฉาชีพมันเอาทุกรูปของเจ้าตัวไปปลอม พอถ่ายรูปใหม่ ก็ยังโดน แล้วจะให้ทำยังไง
~ ได้โทร.ไปสอบถามตำรวจ ตำรวจบอกต้องทำตามหน้าที่ ไม่เช่นนั้น ตำรวจจะโดนข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตำรวจอาจจะโดนดำเนินคดีก็ได้ ตำรวจก็ให้เบอร์ผู้เสียหาย ให้โทร.ไปเคลียร์กับเขา
~ ผู้เสียหายบอกว่า ไม่มีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับคุณอนุวัติ ซึ่งเขาเป็นชาวบ้านธรรมดา เพราะมันเกิดเหตุการณ์ เขาก็ไปแจ้งความตามกฎหมาย และตำรวจแนะนำว่าต้องเอาคนนี้ไปด้วยก็คืออนุวัติ
~ เจ้าตัวเข้าใจว่ากฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา แต่ถ้าวันนึงวันนึงมันเกิดขึ้นอีก และนี่ก็หมายเรียกผู้ต้องหามาแล้ว ตอนแรกบอกว่าเป็นผู้ต้องหา ตอนนี้พอมีกระแส ก็เปลี่ยนว่าให้ไปเป็นพยาน
~ ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจที่อยู่เหนือกว่าสภ. นี้ ซึ่งเขาได้ไปดูสำนวนแล้ว และเขาก็แจ้งมาว่าไม่สามารถออกหมายเรียกได้ตั้งแต่ต้นแล้ว และผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงเขาก็ไม่ประสงค์ดำเนินคดีตั้งแต่ต้นแล้ว และล่าสุดเขาก็ได้ไปถอนแจ้งความแล้ว
~ ซึ่งตำรวจที่รับแจ้งความนั้น ได้บอกว่าหมายที่ส่งมา มันคือเรียกไปสอบให้เป็นพยาน ไม่ใช่หมายเรียกผู้ต้องหา และเจ้าตัวก็ได้โชว์เอกสารที่ตำรวจบึงกาฬส่งมาให้ ซึ่งเขียนว่า “หมายเรียกผู้ต้องหา” พร้อมคดีฉ้อโกง
~ สุดท้ายก็ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ไปตรวจสอบให้ ทุกอย่างมันก็จบแล้ว ไม่ต้องไปสอบปากคำ หวังว่าจากนี้คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกนะ
จากนั้นเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับช่องวัน 31 เจ้าตัวเผยว่า “ได้คุยกับผู้เสียหายแล้ว ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินคดีตั้งแต่ต้น เพราะว่าเขาโดนหลอกเงินไปจำนวน 60,000 บาท ซึ่งเราก็เห็นใจเขา เพราะเขาก็เป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไป เขาก็บอกว่าตอนไปแจ้งความ ตำรวจให้ทำอะไรก็ทำ ส่วนด้านตำรวจนั้น เราก็เห็นใจเขา เขาบอกว่าถ้าเค้าไม่ทำ เขาก็จะโดน 157 ซึ่งเราไม่ทำอะไรกับเขาหรอก เพียงแต่บอกว่า กระบวนการยุติธรรม มันไม่ยุติธรรมต่อเรา มันเกิดจากสิ่งที่เราไม่ได้ก่อ และตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าเขาบอกว่าเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร”
“เราก็เลยบอกตำรวจไปว่า ก็คุณคนเดียวนั่นแหละครับที่ทำกับผม คนอื่นเขาไม่ทำหรอก เขาใช้ดุลยพินิจหมด”
“แล้วก็มีคนเข้ามาด่าในเพจทุกวัน ทักมาในเพจว่า มีอาชีพการงานที่มั่นคง ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์เงินกู้ทำไม เราก็บอกเขาไปว่าหน้าที่การงานผมดีขนาดนี้ ผมไม่จำเป็นต้องเป็น เขาก็ยังแย้งกลับมาอีกว่าก็เห็นมีคลิป เราก็เลยบอกเขาไปว่าเดี๋ยวนี้มันตัดต่อได้ครับ เราต้องรู้ให้เท่าทันโซเชียลหน่อย”
