xs
xsm
sm
md
lg

“อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” ล่มแผนบวชตลอดชีวิต บอกอยากนิพพานแต่ยาก ศีล 5 ยังไม่รอด!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” หันหน้าพึ่งธรรม ตั้งเป้าบวชตลอดชีวิต มุ่งสู่นิพพาน แต่ยอมรับยาก แค่ศีล 5 ก็ยังไม่รอด จอดข้อกาเม ที่ไม่เกี่ยวกับกาม ลั่นติดสุข ติดทุกข์ ยังมีกิเลส

ตั้งแต่ป่วย ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” ก็หันเข้าหาทางธรรมมากขึ้น ซึ่งช่วงที่ป่วยยังได้ไปบวชเพื่อศึกษาพระธรรมเพิ่มเติม จนตอนนี้เจ้าตัวเผยว่าถ้าเป็นไปได้อยากจะไปให้ถึงนิพพาน แต่สุดท้ายถ้าศึกษาจริงๆ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญคือการรักษาศีลเบื้องต้นที่หลีกเลี่ยงยาก ทุกวันนี้พยายามไม่ให้ตัวเองมีทั้งความสุขและความทุกข์ เพราะสุดท้ายสุขมากก็ทุกข์มากเช่นกัน

“ทุกวันนี้ใช้ธรรมะครับ จริงๆ แล้วธรรมะชนะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์มา เราก็ไม่สนใจ ทำอะไรเราไม่ได้ ทุกข์มาไม่รับ มันก็ผ่านไป สุขมาไม่รับก็ผ่านไป สุขก็ไม่ดีนะ สุขมากก็ติดสุขก็เป็นทุกข์ เสพสุขจนติดสุขมันก็เป็นทุกข์ ผมก็เคยมีโมเมนต์แบบนั้น ทุกคนก็มี บางคนติดซีรีส์เกาหลี ลูกผัวไม่สนใจ ดูจนกระทั่งสว่าง 2 คืนไม่นอน งานการเสีย นี่ก็ทุกข์แล้ว บางคนชอบเงิน ได้เงินมามากๆ มีความสุข เงินเยอะจะกลัวอะไร สุดท้ายก็กลัวเงินหาย คนมาปล้นบ้างอะไรบ้าง ก็ทุกข์อีก ผมพยายามจะไม่มีความสุข เพราะพยายามจะไม่มีความทุกข์ (หัวเราะ) แต่เชื่อเถอะ เราต้องยอมรับความจริง ชีวิตน่ะ ในเมื่อยังเป็นคนมีกิเลสอยู่ มีกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง นั่นมันก็มีทุกข์

เสพสุขจนเป็นทุกข์ในชีวิตจริงมีเยอะแยะไปหมด อย่างผมเมื่อก่อนเป็นนักสะสมทุกอย่าง บ้าปากกาก็เก็บปากกา เมื่อก่อนบ้าพระเครื่องก็เก็บพระเครื่อง บ้าเครื่องรางก็เก็บเครื่องราง ทุกข์ไหม เงินไม่มี เพราะเอาไปซื้อหมด ของมันไม่ได้มาฟรีๆ นี่ (หัวเราะ) ก็ต้องเอาเงินไปซื้อ ต้องดิ้นรนหาเงิน

ทุกที่ที่มีสุขที่นั่นย่อมมีทุกข์ บนโลกใบนี้คือแหล่งที่พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นแหล่งที่มีธรรมะมากที่สุด นั่นคือมีทุกข์มากที่สุด ทุกข์เพราะกิเลสตัณหาเป็นแหล่งทุกข์ทั้งหมด แต่ถ้าเลือกได้ทุกคนก็อยากสุข สุขแบบไหน ไอ้ที่คุณสุข สุขจริงๆ หรือเปล่า ถามตัวเอง แล้วคุณจะได้คำตอบว่าคุณอยากสุขแบบไหน สุขจริงๆ ก็มี ไปหาเอาเอง รู้แหละว่ามันหมายถึงอะไร บอกแล้วว่าไม่สุขก็ไม่ทุกข์”

ยอมรับบั้นปลายอยากบวชตลอดชีวิต ถ้าเป็นไปได้อยากให้ถึงนิพพาน
“ถ้าไม่ใช่ธรรมะจะเอาอะไรไปหลุดล่ะ ต้องธรรมะอย่างเดียว ก็คือละวาง (หัวเราะ) บอกแล้วว่าชุดเดียวเที่ยวรอบโลก พระไง งานศพก็ชุดนี้ งานแต่งก็ชุดนี้ จะไปงานขึ้นบ้านใหม่ก็ชุดนี้ ถามว่าบั้นปลายชีวิตผมอยากบวชตลอดชีวิตไหม คือผมบวชมาแล้ว ถ้าผมไม่มีอะไรแล้วคิดว่าอาจจะบวช ก็ไปทดลองมาแล้ว หมายถึงว่าไม่มีห่วงแล้วนะ

แต่พอเราจะบวชไม่สึกมันต้องมีปัจจัย ไม่ใช่แค่อยากจะบวช แต่ถ้าเรามีพันธะ เราต้องตกลงด้วยกับภรรยา มีแม่บางคนให้ลูกบวชไม่สึก เขาก็ต้องการอย่างนั้น แต่ผัวเมียกันต้องถามกัน มึงถามกูหรือยังถ้ามึงจะบวชไม่สึก ก็ต้องมีคำถามนี้ ลูกอีก ไม่งั้นมันเป็นห่วงหมด

คำตอบตอนนี้ก็คือมึงออกมาก่อน (หัวเราะ) งานยังมี ห่าก้อมมีจะฉายอยู่แล้ว ไปให้สัมภาษณ์ก่อน มีพันธะและมีห่วง ถ้าคุณบวชก็ไม่ดีหรอก มันบาป ห่วงหน้าห่วงหลัง ที่คิดว่าอยากบวชตลอดชีวิต ก็เพื่อศึกษาธรรมะไงถ้าเกิดไม่มีอะไรแล้วนะ อยากนิพพานนะ ไม่อยากเกิดแล้ว สูงสุดของคนศึกษาธรรมะทั้งหมดคือนิพพาน นิพพานคือไม่เกิด แต่โลกใบนี้มันมีวัฎสงสาร ก็คือเวียนว่ายตายเกิด เพราะคนยังมีกิเลสอยู่ ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ยังเวียนว่ายตายเกิด”

แต่สิ่งที่คิดเป็นไปไม่ได้เลยทั้งบวชตลอดชีวิตและนิพพาน
“แต่ความเป็นจริงห่างลิบเลย แต่เชื่อเถอะขอให้คุณมีเป้าหมาย สมาธิ จิตตั้งมั่นว่าเราอยากนิพพาน แต่คุณจะนิพพานหรือไม่ก็เป็นเรื่องของการปฏิบัติ แต่ขอให้มีการตั้งมั่นก่อน หนึ่งคือนึกถึงความตายไว้เสมอ คิดว่าตัวเราไม่มีตัวเรา ตัวเราไม่ใช่ตัวเรา ไม่มีตัวเราในเรา สองเชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าพระพุทธเจ้ามีจริง คำสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง พระสงฆ์มีจริง สามคือถือศีลตามสมณเพศ ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 ผมผ่านข้อที่หนึ่งแล้ว ผมคิดถึงความตายอยู่เสมอ ผมรู้ว่าผมต้องตาย ข้อสองเชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ผมเชื่อ

ข้อสามถือศีลตามสมณเพศ ถ้าใครผ่านสามข้อนี้โสดาบัน แต่โสดาบันยังเวียนว่ายตายเกิดนะจ๊ะ แค่สามข้อกูก็ไม่พ้นแล้ว เพราะว่าศีล 5 คือ1. ไม่ฆ่าสัตว์ ทำได้ 2.ไม่ลักทรัพย์ ได้ 3. กาเม กูเสร็จแล้ว ข้อนี้ ก็คือยังหลงในรูป ยังสะสมอยู่แค่นั้นแหละ กาเมไม่ใช่เรื่องกามอย่างเดียวนะ กาเมคือลุ่มหลง ตาหูจมูกลิ้นกายใจ และทุกที่บนโลกใบนี้มันเป็นเช่นนั้นแล คือมันมีอยู่ ถึงบอกว่าเทวดาทั้งหลายเอ๋ย มาเกิดบนโลกมนุษย์เถอะ โลกมนุษย์นี่แหละคือแหล่งของธรรมะ ทั้งหมดเต็มไปด้วยกิเลส แต่หน้าที่คุณคือละ ลา”











กำลังโหลดความคิดเห็น