“โอปอล สุชาตา” พามิสเวิลด์เยี่ยมหมู่บ้านช้าง “จูเลีย มอร์ลีย์” บริจาค 6.5 แสนช่วยช้างไทย เผยรักช้างเหมือนลูกน้อย แจงปมเงินรางวัล ย้ำเกียรติยศยิ่งใหญ่กว่า มุ่งช่วยสังคม แม้ได้ตำแหน่งระดับโลก ก็ยังเป็นผู้หญิงธรรมดา
หลังจากสร้างความภาคภูมิใจด้วยการคว้ามงกุฎมิสเวิลด์คนแรกของไทย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” พามงฟ้ากลับบ้านมาให้คนไทยได้ร่วมฉลองความสำเร็จไปด้วยกันอย่างยิ่งใหญ่ ล่าสุดโอปอลได้เปิดใจกับสื่อมวลชนในงาน Exclusive Interview ณ ห้อง Ballroom 1 โรงแรม รอยัล ออร์คิด เชอราตัน พร้อมเผยถึงความรู้สึกที่ได้เป็นตำนานระดับโลก รวมถึงโมเมนต์ที่พา “จูเลีย มอร์ลีย์” เจ้าของเวทีมิสเวิลด์ ไปดูช้างไทย ก่อนชี้แจงถึงประเด็นเรื่องเงินรางวัลที่หลายคนถกเถียงกัน
“ดีค่ะ แฮปปี้ค่ะ พาคุณจูเลียไปดูช้างมาก็สนุกมากได้พักผ่อนวันหนึ่ง คุณจูเลียเป็นคนชอบช้างอยู่แล้ว แล้วเขาก็เคยเห็นช้างแล้ว แต่ว่าตอนที่เขามาถึงไทยวันแรกโอปอลถามเขาว่าอยากทำอะไร เขาก็บอกว่าเขาชอบช้าง เราก็เลยคิดว่าถ้ามีวันว่างอยากพาเขาไปดูใกล้สุดก็ที่อยุธยาก็เลยพาเขาไป
เขาเอ็นจอยแฮปปี้เพราะว่าช้างที่ไปเป็นพระเนตรหลวง เหมือนเป็นศูนย์อนุรักษ์ที่เขาดูแลช้างแล้วก็เทรนน้องๆ อย่างดีเรียบร้อยมาก คือเป็นช้างที่ gentle ที่สุดเท่าที่เราเคยเจอเลยที่ผ่านมาก็เลยแฮปปี้ พอเขา gentle มากๆ เราก็เข้าไปเล่นกับเขาใกล้ๆ ได้ มันก็เลยสนุก”
มองช้างเป็นเหมือนเด็กเหมือนลูก
“คือสำหรับคุณจูเลียเขามองว่าเหมือนเป็นเด็ก คือด้วยความที่สัตว์ไม่สามารถพูดกับเราได้ แล้วบางทีเขาก็ต้องเติบโตในป่าอะไรอย่างนี้ แต่ว่าด้วยโลกที่มันเปลี่ยนไป ป่าอะไรก็มีน้อยลงแล้ว บางทีพื้นที่ก็ถูกรุกราน เขาก็เลยรู้สึกว่าบางทีสัตว์พวกนี้มันยังไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้อย่างดี แต่มันก็จะดีถ้าเกิดว่ามีคนที่เข้าใจเขาแล้วก็รับเข้ามาดูแลแล้วก็ให้ชีวิตที่ดีกับเขา เพราะว่าสำหรับคุณจูเลียคือสัตว์พวกนี้เขาผ่านมาเยอะไม่ว่าจะเป็นการถูกใช้งานหรือว่าจะเป็นการที่เขาจะต้องเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน ถึงเวลาที่เขาจะได้มาพักที่พระเนตรหลวง คุณจูเลียก็ชอบมากๆ เพราะว่าเห็นเหมือนเขาเป็นเด็กแล้วก็อยากดูแลเขา คุณจูเลียบอกว่าถ้าเราจะดูแลเด็กเราก็ต้องดูแลสัตว์ด้วยมันต้องไปควบคู่กัน”
ปลื้ม “จูเลีย มอร์ลีย์” บริจาค 6.5 แสนบาท ช่วยช้างไทย
“เขาก็ไปเห็นว่ามันมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมค่ะ แล้วก็ด้วยความที่คุณจูเลียเขารักช้างมาก แล้วเป็นสัตว์คู่บุญของไทยเป็นสัตว์ประจำชาติไทยด้วย เขาก็เลยอยากที่จะซัปพอร์ตตรงนี้ตอนที่มีโอกาสได้ไป ก็มีถามไถ่กับทางผู้ดูแลที่นั่นว่าต้องการขาดเหลืออะไรเพิ่มเติมก็ให้แจ้งมาทางเรา เดี๋ยวเราก็จะกระจายข่าวต่อไปเพราะว่าแพลตฟอร์มของเราก็ถึงคนทั่วโลกนะคะ เราก็อยากที่จะใช้พื้นที่ตรงไหนให้เขามีโอกาสได้รับการระดมทุนหรือว่าความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ด้วย
หลายคนก็เซอร์ไพรส์กับตัวเลข 20,000 ดอลล่าร์ ก็เยอะสำหรับเรา เราไม่ทราบมาก่อนเลยค่ะว่าเขาจะบริจาค ไม่ได้แพลนเอาไว้ว่าให้หรืออะไรเท่าไหร่ แต่ก็คืออย่างที่โอปอลบอกว่าเขาไปเห็นแล้วเขารู้ว่าตรงนี้ต้องการการดูแล เพราะว่ามันก็เป็นหมู่บ้านช้างที่โลคอลมากๆ หลายๆ คนอาจจะไม่ได้รู้หรือว่ารู้จักขนาดนั้น เรามีโอกาสได้ไปแล้วเราก็อยากที่จะซัปพอร์ต ถ้าเกิดมีโอกาสเพิ่มเติม เราอาจจะมี respon อะไรให้เขาเพิ่มเติมด้วย”
ดีใจเห็นเขาให้ความสำคัญกับช้าง
“อย่างที่โอปอลบอกช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของเรา เขาก็มีความพิเศษแล้วก็เป็นหนึ่งในสัตว์ที่โอปอลชอบด้วยเพราะว่าเขารู้เขาฉลาด แล้วก็ช้างเป็นสัตว์ที่มี emperty มากที่สุดเลยในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย เขามีความเข้าใจคิดได้ว่าเขาจะต้องช่วยเหลือหรือว่าเขาจะต้องทำอะไร เราก็รู้สึกว่าเราดีใจที่เขาชอบ เราดีใจที่เขารัก แล้วยิ่งเขาสนับสนุนเราก็ยิ่งดีใจมากกว่าเดิม”
ขี่ช้างเล่นน้ำครั้งแรก
“โอปอลเคยขี่ช้างแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าเราไม่เคยลงไปเล่นน้ำกับเขา เพราะปกติเวลาเราไปตาม elephant constitution เขาจะมีตัวที่นั่งข้างบน แล้วโอปอลไม่ชอบเพราะมันน่ากลัวและกลัวเขาเจ็บด้วย แต่ว่ารอบนี้เราก็ได้ขึ้นหลังเขาเลยเพราะว่าเขาเรียบร้อยมากๆ ตัวที่โอปอลขี่แล้วก็ได้ลงไปเล่นน้ำด้วยกันคือชอบมาก
มีช็อตหนึ่งน้องพามุดน้ำ คือเวลาที่เขาลงไปทั้งตัวแล้วขึ้นมาเหมือนเวลาเราเล่นน้ำ พออยู่ข้างนอกข้างบนแล้วมันร้อนเขาก็จะจุ่มตัวลงไปแต่ว่ามีครั้งหนึ่งที่เขาเอียงเราก็คิดว่าเราจะตกลงไปแล้ว คือคิดแล้วว่าต้องไหลลงไปในน้ำแน่ๆ ไม่รู้ด้วยว่าน้ำลึกแค่ไหน แต่ว่าพี่เขาบอกว่าเราจับที่หูเขาได้แต่เราก็กลัวว่าเขาเจ็บ แต่ตอนหลังก็ต้องเกาะเพราะว่าไม่งั้นต้องไหลลงไปแน่นอน
มีโมเมนต์หนึ่งที่คุณจูเลียเขานั่งดูเราด้วย เขาชอบค่ะ ความจริงเราเตรียมเสื้อผ้าไปเพราะว่าเราอยากลงไปเล่นน้ำกับช้าง เพราะว่าเราเคยอาบน้ำกับช้างมาแล้วและเราชอบ แต่ที่นี่เราไม่รู้ว่าเรามีเวลาพอไหมหรือว่าสามารถที่จะลงได้หรือเปล่า จนตอนหลังคุณจูเลียบอกว่าอยากให้เราไปถ่ายรูปไปยืนใกล้ๆ ช้าง โอปอลก็เลยงั้นเราขอลงไปเลยได้ไหมเอาเสื้อผ้ามาแล้วเขาก็บอกโอเคก็เลยได้ลงไปเล่น”
เปิดประสบการณ์จูเลียนั่งรถมอเตอร์ไซค์
“โอปอลไม่เห็นเพราะว่าโอปอลอยู่ในน้ำกับช้างมาเห็นรูปทีหลังเหมือนกัน แต่ว่าก็หัวเราะก็เป็นอะไรที่ชอบเพราะว่าเขาก็นั่งอยู่ข้างๆ แม่ปุ้ย (ปิยาภรณ์ แสนโกศิก) เป็นภาพที่อบอุ่น ฟีลแม่ๆ บ้านใกล้กันหยุดคุยกัน บ้านคุณยายก็อะไรแบบนี้ แล้วเขาเป็นต่างชาติที่มาที่ไทยด้วย เขาได้มีโมเมนต์แบบนี้ในประเทศเรา เราก็ดีใจมาก
คนก็แซวมีไปซิ่งกันหรือเปล่ากับแม่ปุ้ย ถ้าเราเล่นน้ำนานกว่านี้น่าจะหันไปแล้วก็หายไปเลยสองคน น่าจะพากันไปแล้ว ตอนนี้คุณจูเลียกลับไปแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปต่างประเทศเขามีคุยงานแต่ว่าคิดว่าเดี๋ยวจะกลับมาเร็วๆ นี้ ก็คือแวะไปคุยประชุมงาน”
เคลียร์ปมเรื่องเงินรางวัล ลั่นตอนประกวดไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ เพราะหวังช่วยสังคม-สร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศ
“ตอนนี้ยังไม่ได้คุยรายละเอียด แต่คิดว่าก็คงเหมือนการประกวดนางงามทั่วไป โอปอลก็ยังไม่ได้ถามถึงเรื่องเงินรางวัลว่าได้อะไรบ้าง เพราะอย่างที่โอปอลบอกว่าตอนที่เข้ามากับการประกวดมิสเวิลด์เราไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย เพราะว่าจุดมุ่งหมายหลักของเราคือหนึ่งเราอยากเดินทางรอบโลกไปทำการกุศลต่างๆ สองคือเราอยากให้คนไทยได้วินเนอร์การมงฯ ในยุคนี้ ให้เขาได้มีอะไรให้ภาคภูมิใจไปอีกหลายๆ ปี
ถ้าถามว่ามองเรื่องเงินรางวัลกับเกียรติยศที่ได้มายังไง เกียรติยศยิ่งใหญ่มากสำหรับโอปอล เพราะว่าเกียรติยศความภาคภูมิใจ ความได้รับเกียรติมันเป็นสิ่งที่ซื้อไม่ได้ มันต้องได้รับโอกาสในการทำอะไรเพื่อที่เราจะเหมาะสมที่จะได้รับมัน แล้วมันเป็นสิ่งที่ได้รับไม่บ่อยในชีวิต โอปอลก็เลยรู้สึกขอบคุณกับโอกาสนี้มาก
ในส่วนของรางวัลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินสิ่งของหรือว่าทรัพย์สินอะไรก็แล้วแต่ โอปอลมองว่ามันเป็นเหมือนรางวัลให้กับความเหนื่อยของเรา แต่ว่าอันนั้นก็คือจะเป็นอีกพาร์ตนึงที่โอปอลรู้สึกว่าโอปอลไปจัดการทีหลังได้ แล้วก็อยู่ที่ว่าเราได้รับอะไรมา เพราะว่านอกจากอันนี้มันก็ยังมีอย่างอื่นที่เราเกิดมาในชีวิตเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงาน พ่อแม่ มันก็อยู่ที่เราจะโฟกัสยังไงให้มันสามารถที่จะเพิ่มพูนได้ในอนาคต
ส่วนเรื่องเงินเอาจริงๆ ยังไม่ได้ถามรายละเอียด แต่ว่าคิดว่าก็คงเป็นภาพรวมเนอะ ก็เหมือนเวลาที่เราได้รับมงกุฎระดับประเทศ มันก็จะมีทั้งเงินรางวัล มีทั้งเงินสนับสนุน มีทั้งบ้านที่อยู่ คิดว่ามันก็อาจจะเป็นอะไรในภาพรวมเพราะว่าตัวเลขมันค่อนข้างเยอะ จากที่โอปอลก็ได้ยินมาเหมือนกับทุกคน แต่ยังไม่ได้ถามรายละเอียด ก็คิดว่าน่าจะเป็นอะไรภาพรวมมากกว่า ก็คงดีถ้าเกิดว่ามันรวมทุนสนับสนุนในโครงการด้วย”
เผยหลังได้ตำแหน่งมีคนรู้จักมากขึ้น โครงการ OPAL For Her ที่ทำตนคิดว่ามันสุดได้เท่านี้ แต่พอได้รับตำแหน่งมันก็ไปสุดได้มากกว่าเดิม
“ตอนที่ได้ Miss World เราเห็นว่ามันสามารถไปต่อได้ แต่เรายังไม่ได้มีภาพชัดขนาดนั้นว่าเราจะวางแผนต่อไปยังไง หรือว่าโดยละเอียดเราจะเดินหน้าโครงการยังไงกับโครงการตรงนี้ แต่เรารู้แค่ว่ามันมีโอกาสต่อไปเรื่อยๆ มากขึ้นในการที่เราจะสร้างสรรค์อะไรเพิ่มขึ้นได้ หรือว่าทำให้มัน success มากขึ้น
วันก่อนที่เราไปคุยกับท่านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ก็เห็นภาพมากขึ้น เพราะว่าเราก็รู้มากขึ้น หนึ่งคือเรารู้ว่าตอนนี้มันมีนโยบายอะไรบ้าง เพราะว่าโอปอลออกจากไทยไปประมาณเดือนสองเดือน ไม่รวมกับช่วงที่เราไม่ได้เข้ามาคุยกับผู้ใหญ่ ก็อาจจะมีนโยบายอะไรต่างๆ ที่ต้องอัปเดตเพราะว่าโอปอลก็เป็นเหมือนตัวแทนของคนปกติทั่วไปที่เข้าไปถามว่าประชาชนมีนโยบายอะไรที่รองรับสุขภาพชีวิตของเขาบ้าง เราก็จะมีหน้าที่เอาตรงนั้นเป็นสะพานเชื่อมไปบอกให้คนได้ทราบ อย่างที่โอปอลบอกว่าบางคนอาจจะไม่ทราบว่า ถ้าเกิดว่าครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมแบบนี้ เขาสามารถที่จะเข้ารับการตรวจได้เลยเพราะว่าในการเกิดมะเร็งเต้านมประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากพันธุกรรมมันค่อนข้างที่จะตัวแรง ตัวยีนส์ก็คือค่อนข้างที่จะแรงแล้วก็ส่งมีโอกาสส่งต่อได้ เราก็ต้องบอกเขาไปตรงนี้
รวมถึงสถาบันมะเร็งเราก็เข้าไปคุยว่าขาดเหลือตรงไหนมีพ้อยต์อะไรบ้างที่เขาอยากจะให้โอปอลช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นระดับประชาชนคนทั่วไป ปรับความเข้าใจผิดที่ยังมีอยู่ในสังคม ไปจนถึงระดับแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางแพทย์ว่าเขาขาดเหลือเครื่องไม้เครื่องมืออะไร หรือว่าสถานที่ในการปฏิบัติงานให้มันสะดวกสบายที่สุดสำหรับเขา ไปจนถึงระดับภาครัฐบาลเลยว่า ทางหมอ กับสถาบัน ประชาชน มีอะไรที่เป็นเรื่องที่เขารู้สึกว่าอยากให้ได้รับการช่วยเหลือแก้ไข โอปอลก็จะเอาตรงนี้ไปยื่นเรื่องกับทางรัฐบาลว่าประชาชนต้องการความช่วยเหลือในตรงนี้ เราสามารถที่จะทำงานร่วมกันยังไงเพื่อที่จะตอบรับเขาตรงนี้ได้บ้าง”
มองตัวเองเป็นผู้หญิงธรรมดา แม้ได้ตำแหน่งระดับโลก
“เราว่าเราผ่านมาเยอะมากๆ พี่ๆ ก็อยู่กับโอปอลมาตั้งแต่วันแรก มันไม่ได้ง่าย เพราะว่าเราต้องยึดมั่นกับตัวเองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นนางงามหรือว่าเป็นหน้าที่ไหนก็แล้วแต่ เพราะว่าเราเจอใครหลายๆ คนเราเจอคำพูดหลายๆ คำพูดตลอดชีวิตที่เราใช้ เราต้องแน่วแน่กับสิ่งที่เราเชื่อมากๆ เพราะว่าเราจะต้องยืนหยัด ไม่งั้นเราจะเป๋ไปเป๋มา เราก็จะไม่สามารถที่จะทำให้จุดมุ่งหมายของเราสำเร็จได้ แต่ว่าในขณะเดียวกันมันเป็นสิ่งที่โอปอลรู้สึกว่า ที่มันยากมันทำให้วันที่เราได้สิ่งนี้มันมีค่าสิ่งที่เราสำเร็จมันมีค่าเพราะว่าเราผ่านอะไรมาเยอะกว่าเราจะได้มัน แล้วทุกอย่างในชีวิตที่เราทำมันไม่มีอะไรที่ง่ายไม่ว่าจะเป็นสายอาชีพไหนไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายไหนก็ตามมันมีสิ่งที่เราต้องสู้สิ่งที่เราต้องแลก เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนรู้ว่ามันอาจจะเหนื่อยในช่วงแรกๆ แต่ว่าเมื่อเราสำเร็จแล้วมันคุ้มค่า
แล้วก็อยากบอกทุกคนว่าโอปอลก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึงเหมือนกัน อย่างที่ทุกคนบอกว่าเป็นผู้หญิงธรรมดาจนวันหนึ่งได้มาเป็น Miss World โอปอลอยากให้ทุกคนมองแล้วรู้สึกว่ามันเป็นไปได้สำหรับทุกคนเหมือนกันค่ะ การที่คุณเป็นคนธรรมดา สิ่งนี้มันทำให้คุณยิ่งมีแรงบันดาลใจเพราะว่ามันทำให้เห็นว่า เราเป็นคนธรรมดาแต่เราสามารถทำอะไรได้บ้างที่มันไม่ธรรมดา”
พร้อมทำทุกหน้าที่เพื่อช่วยเหลือคนทั่วโลก
“พร้อมเต็มที่แล้วค่ะ อย่างที่โอปอลบอกต่อให้เป็นผู้หญิงระดับโลกแต่ก็เป็นคนธรรมดานั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราสามารถมายืนระดับโลก แล้วก็เป็นตัวแทนทุกคนได้ เพราะว่าเราเป็นคนธรรมดาที่เราเข้าใจสิ่งที่ทุกคนรู้สึก แล้วเราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือทุกคนกลับไป อยากให้ทุกคนติดตามการผจญภัยครั้งนี้ไปด้วยกัน มีอะไรก็จะได้พูดคุยช่วยเหลื
