“กรณ์ - ริต้า” เผยเคล็ดลับชีวิตคู่ สิ่งสำคัญคือการเติมความหวานสม่ำเสมอ ประกาศปิดอู่ไม่มีคนที่ 3 แล้ว แจงเงิน 100 ล้านไม่ใช่สินบน แต่เป็นเงินประกันศาล พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะทำถูกต้องตามกฎหมาย โอดถูกดิสเครดิตกระทบครอบครัวและธุรกิจ ยอมรับตรงๆ เรื่องครอบครัวพูดเยอะก็อาย
เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่หลายคนอิจฉา สำหรับครอบครัวของสาว “ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” เพราะนอกจากลูกๆ จะน่ารักน่าเอ็นดูแล้ว คุณสามี “กรณ์ ณรงค์เดช”ยังหมั่นเติมความหวาน และดูแลดุจเจ้าหญิง ล่าสุดวันนี้ (19 มิ.ย.) ได้เจอ กรณ์ - ริต้า ที่ควงกันมาร่วมงาน SIAMRATH AWARDS 2025 ทั้งสองคนก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ถึงสิ่งสำคัญในชีวิตคู่ พร้อมอัปเดตถึงลูกชายและลูกสาว อย่าง “น้องกวิณท์ - น้องเรเน่” และชี้แจงถึงประเด็นเงิน 100 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเงินสินบนเรื่องคดีความ
กรณ์ : “เราก็เหมือนทุกคู่แหละครับ ใช้ชีวิตปกติ มันก็มีวันที่แฮปปี้ วันที่อาจจะไม่เข้าใจกันบ้าง แต่สุดท้ายผมเชื่อว่าความรักมันไม่ได้เจอกันแล้วก็จบ มันต้องร่วมสร้าง ร่วมจับมือไปด้วยกัน ในวันที่ดี วันที่มีพายุ อยู่ด้วยความรัก ความเข้าใจครับ ส่วนลูกๆ ก็เป็นอะไรที่มาเติมเต็มมากขึ้นครับ ทำให้ความสัมพันธ์ทุกอย่างมันแนบแน่นขึ้น”
ริต้า : “ริต้าว่ามันก็ต้องขยันสร้างด้วย เรื่องการหาเวลาอยู่ด้วยกันก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมเติมความหวานให้กัน ตอนเดตกันทำยังไง ก็ทำแบบนั้น อย่างเรื่องทานอาหาร เป็นเรื่องสำคัญของคุณกรณ์ ก็จะแบบกินอะไรหรือยังคะ จะกินอะไรไหมคะ อยากให้เตรียมอะไรให้ไหมคะ อยากทานอะไรพิเศษไหม ก็เตรียมให้เขา เวลาไปทำงานก็ไปส่งที่รถ อะไรเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ริต้าว่ามันสำคัญ มันก็ใจฟูเหมือนกัน เรารู้ว่าเขาเหนื่อยมา แล้วเราเห็นความสำคัญเขา อยากเห็นเขามีความสุข แค่นี้เลยค่ะ”
กรณ์ : “ถามว่าเขินไหม ตอนนี้ก็ยังเขินอยู่เลยครับ แต่เวลาเราทำอะไรให้เขา แล้วเขารู้สึกตื้นตันกับสิ่งที่เราทำให้ เราก็แฮปปี้ แล้วก็อยากจะทำให้เขาอีก”
ริต้า : “บางทีเราลืมเห็นคุณค่าคนใกล้ตัว ทุกวันนี้เวลาเขามาช่วยเป็นกำลังใจเรา เราก็จะขอบคุณแล้ว ขอบคุณอีก เช่นกันเวลาเราไปช่วยซัปพอร์ตอะไรเขา เขาก็จะขอบคุณ ริต้าว่าการเห็นคุณค่ากัน มันสำคัญมากๆ ถามว่าเวลางอนกัน จะง้อกันยังไง ก็ยังไม่เคยงอนเลยน่ะสิ (หัวเราะ)”
กรณ์ : “สำคัญที่สุดคือชีวิตคู่ต้องไม่มีทิฐิ มันไม่สำคัญว่าใครจะผิดใครจะถูก แต่ชีวิตคู่คือใครขอโทษก่อนก็จบ อย่าไปถือว่าเราไม่ผิด เราไม่ควรขอโทษก่อน ตอนนี้ก็แต่งงานกันมา 5 ปีแล้ว แต่เป็นแฟนกันมาก็เกือบๆ 9 ปีครับ”
โอดลูกคนที่ 3 คงไม่ไหวแล้ว สองคนกำลังแฮปปี้
กรณ์ : “ต้องถามคนท้องครับ (หัวเราะ)”
ริต้า : “ไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้วจริงๆ ค่ะ เหนื่อยมาก จริงๆ ขอเอาแค่นี้ค่ะ สองคนกำลังแฮปปี้ ก็มีความสุขมากแล้วค่ะ คิดว่าปิดอู่เลยนะคะ (หัวเราะ)”
กรณ์ : “จริงๆ ก็แฮปปี้แล้วครับ เราเน้นที่คุณภาพ ไม่เน้นที่จำนวนครับ(หัวเราะ)”
ริต้า : “กวิณท์กับเรเน่นี่เข้ามาสร้างความอบอุ่นมากๆ เลยค่ะ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย แต่ก็มีความสุขค่ะ ม้วนต้วนมากเลยสองคน”
กรณ์ : “เป็นการเหนื่อยที่มีความสุขมากครับ ตอนนี้เรเน่เขาเริ่มอ้อแอ้ๆ แล้ว เขาจำเสียงเราได้แล้ว เวลาเจอจะยิ้มตลอด พ่อก็ระทวยไปครับ หลงลูกสาว แต่สิ่งที่มีความสุขที่สุดคือได้เอาเขาเข้านอน แล้วทุกวันเขาก็จะตั้งตารอ เขาจะพูดว่าวันนี้วันใคร หม่ามี๊หรือแด๊ดดี๊ ก่อนเข้านอนก็จะอ่านหนังสือให้เขาฟัง ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันครับ แต่ถ้าอยู่ทั้งคู่ก็จะอยู่ด้วยกันหมด”
ริต้า : “สิ่งที่เราทำประจำวันก็คือเอาลูกเข้านอน แต่เรเน่เขาจะชอบให้ริต้าร้องเพลง เขาจะยิ้ม จะหัวเราะ เขาชอบมาก เราก็ร้องเพลงตลกๆ ค่ะ”
ไม่ติดถ้า “น้องกวิณท์” อยากเข้าวงการ ชอบอะไรก็พร้อมสนับสนุน
กรณ์ : “แล้วแต่เขาเลยครับ อะไรที่เขารัก ที่เขาชอบ เราพ่อแม่ก็พร้อมสนับสนุนครับ”
ริต้า : “แต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะ 4 ขวบเองค่ะ ก็ยังค่ะ”
เผยช่วงแรกๆ “น้องกวิณท์” มีหวงแม่
ริต้า : “ตอนนี้ก็เขาช่วยดูแลน้อง แต่แรกๆ ก็จะมีหวงแม่บ้าง เราก็บอกว่ามาช่วยหม่ามี๊ดูแลน้องหน่อย เขาก็มาช่วย”
กรณ์ : “ก็ช่วงแรกๆ ก็มี แต่เราก็พยายามบาลานซ์เขา สมมติน้องร้อง ก็คนหนึ่งไป คนหนึ่งอยู่ เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าความสนใจของพ่อแม่ไปอยู่กับน้องหมด”
ริต้า : “แล้วหนังสือช่วยได้ค่ะ เราชอบสอนเขาผ่านนิทาน เขาจะได้เข้าใจอารมณ์ของตัวเอง ว่าทำไมถึงหวงแม่ ทำไมถึงงอน ก็ช่วยได้เยอะเลยแล้วก็พูดให้เขาฟังว่าเขาโชคดีมากเลยที่มีน้อง ก็จะพูดให้เขาเข้าใจ เขาจะได้รักน้องค่ะ”
ใจฟูไปมอบของให้โรงเรียนคนหูหนวก
ริต้า : “คือทุกครั้งที่ไปเราจะรู้สึกใจฟูค่ะ ครั้งนี้ก็นำของใช้ที่จำเป็นมอบให้กับทางโรงเรียน แล้วก็เล่นเกมกันด้วย ถามคำถามง่ายๆ ใครตอบได้ก่อนเราก็มีของเล่นมาให้แล้วเราจะไปช่วยเขา เราก็อยากจะสื่อสารกับน้องๆ ได้ ก็มีฝึกภาษามือไปด้วยค่ะ เราเห็นน้องๆ มีความสุข เราก็มีความสุขค่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะไปอีก น้องๆ ทุกคนน่ารักมากๆ”
แจงโดนกล่าวหาติดสินบน 100 ล้าน ทำถูกต้องทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้หมด
กรณ์ : “ก็เป็นเหมือนที่ผมโพสต์ไปครับ คือก่อนหน้านี้มีการกล่าวอ้างเรื่องคดีความที่บ้าน ว่ามีการเอาเงิน 100 ล้าน หรือ 100 โล ไปติดสินบน ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ คือเนื่องจากมีการฟ้องร้องกัน แล้วหนึ่งในคดีนั้น เรามีการวางเงินประกันศาลเพื่อคุ้มครองเงินปันผล เรื่องของหุ้นครับ ศาลก็บอกให้เอาเงิน 100 ล้านนี้ไปวาง พร้อมมีใบเสร็จชัดเจน แต่มันมีการบิดไปว่าเงินก้อนนี้ เป็นเงินสินบน ซึ่งมันไม่ใช่ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายและตรวจสอบได้หมดครับ”
รู้เจตนาต้องการดิสเครดิต
กรณ์ : “ก็ทราบดีครับ (หัวเราะ) จริงๆ ก็คือต้องการดิสเดรดิตแหละครับ ทำให้คนสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเรื่องคดีความ ผู้เสียหายมันก็เป็นแค่ฝ่ายตรงข้าม มันใช่ผู้เสียหายวงกว้าง มันเป็นเรื่องมานานแล้ว 7-8 ปีก็ยังไม่จบ ทุกอย่างก็อยู่ในกระบวนการของศาลครับ คือมันเริ่มมาจากที่มีการปลอมลายเซ็นคุณพ่อ”
อยู่กับเรื่องนี้มาหลายปี สร้างผลกระทบทั้งกับครอบครัวและธุรกิจ
กรณ์ : “ก็แน่นอนครับ เราอยู่กับเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว มันก็กระทบทั้งตัวผมเอง ภรรยา แล้วก็ธุรกิจ หลายคนก็ถามว่าเมื่อไหร่จะจบ อันนี้ก็ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะทุกอย่างอยู่ในกระบวนการศาลชั้นต้น มันก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่งครับ จริงๆ เรื่องภาพลักษณ์ไม่ได้กังวล เพราะสุดท้ายความจริงวันใดวันหนึ่ง ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วมันก็ต้องออกมาอยู่ดี แต่บางอย่างที่มันไม่ใช่ความจริง แล้วมาบิดเบือนให้คนเข้าใจผิดเนี่ย ก็ต้องออกมาชี้แจง”
โอดเรื่องครอบครัวพูดเยอะก็อาย แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องออกมาชี้แจง
กรณ์ : “ก็ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ครับ แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของครอบครัว เราก็ไม่อยากพูดเยอะ พูดเยอะมันก็อายเขาอะพูดตรงๆ แต่คืออะไรที่มันไม่ได้จริงๆ ไม่ถูกต้องจริงๆ ผมก็ต้องขออนุญาตออกมาชี้แจง (สู้เต็มที่เพื่อพิสูจน์ความจริง?) ก็พิสูจน์ความจริงด้วย แต่สุดท้ายคือชีวิตมันก็ต้องเดินต่อ ที่บ้านก็ทำมาหากินต่อ มันไม่ได้เป็นเรื่องคดีความทั้งหมด เรามีอาชีพเราก็ทำไป เรื่องคดีความก็จัดการไป”
