xs
xsm
sm
md
lg

Murderbot หุ่นยนต์บ้าซีรีส์ ขี้แซะ เหม็นเบื่อมนุษย์ รำคาญสังคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา



ถ้าคุณกำลังรู้สึกเบื่อหน่ายสังคม เหม็นเบื่อมนุษย์ บางที เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้อาจจะพูดแทนใจคุณได้ชนิดที่ว่า มันใช่เลย!

Murderbot เป็นชื่อซีรีส์ที่สตรีมทาง Apple TV สร้างมาจากนวนิยายไซไฟของ “มาร์ธา เวลส์” ในชุด The Murderbot Diaries ซึ่งขายดีและมีการเขียนภาคต่อออกมาหลายเล่ม สำหรับซีรีส์เรื่องนี้มาจากเล่มแรกที่ชื่อว่า All System Red โดยมีทั้งหมด 10 ตอนจบ ณ ตอนที่เขียนบทความนี้อยู่ ออกอากาศไปแล้ว 6 ตอน ซึ่งหลังจากที่ได้ดูก็ต้องบอกว่า ซีรีส์จากนวนิยายเรื่องนี้มีแววได้ไปต่อยาวแน่ ๆ

ทั้งนี้ก็เนื่องจากเสน่ห์ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครมีของตัวละครอย่างเจ้าหุ่นยนต์ที่เรียกตัวเองว่า “เมอร์เดอร์บอท” (Murderbot) ซึ่งมาพร้อบกับบุคลิกภาพและเอกลักษณ์ที่เรียกความเอ็นดูจากผู้ชมได้ไม่ยาก แต่ความเอ็นดูนี้ไม่ได้เกิดจากความน่ารักของมันเหมือนหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ หากแต่เป็นความกวนที่ชวนให้รู้สึกตลกจากความคิดของมันที่มีต่อสิ่งต่าง ๆ ทั้งต่อสถานการณ์เบื้องหน้า ต่อสังคม หรือต่อมนุษย์

โดยที่มาที่ไป หุ่นตัวนี้มันคือหุ่นยนต์อารักขาซึ่งเป็นไซบอร์กในหน่วย “เซคยูนิต” (Security Unit) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทขนาดใหญ่ในโลกอนาคต มีภารกิจช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับคนที่ต้องการหรือลูกค้าของบริษัท แต่ประเด็นก็คือ พอเปิดเรื่องมา เจ้าเซคยูนิตก็ทำการแฮ็กระบบได้สำเร็จหลังจากพยายามมานาน และตั้งชื่อให้ตัวเองใหม่ว่า “เมอร์เดอร์บอท”


สิ่งที่น่าขำก็คือ พอปลดแอกตัวเองเป็นอิสระจากระบบได้แล้ว แทนที่จะล้างบางมนุษย์ให้สิ้นซากแล้วสถาปนาตัวเองเป็นใหญ่ เหมือนความกลัวทั่วไปของมนุษยชาติที่ชอบหวาดวิตกว่าเอไอหรือหุ่นยนต์จะยึดโลก แต่กลับตรงกันข้าม เจ้าเมอร์เดอร์บอทกลับคิดเห็นว่า ได้ครองโลกแล้วยังไงต่อ น่าเบื่อจะตาย สู้อยู่แบบอิสระชิล ๆ แบบนี้ดีกว่า เอาเวลาดูซีรีส์เพลิน ๆ ไปวัน ๆ ไม่ต้องกดดันอะไร นอกจากต้องระแวดระวังไว้หน่อยเพื่อไม่ให้ถูกผู้ควบคุมระบบจับได้ว่าตัวมันเป็นไทแก่ตัวเองแล้ว

ดังนั้นแล้ว เราจึงได้เห็นว่า ขณะที่เมอร์เดอร์บอททำหน้าที่อารักขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่สบช่องมีเวลานิด ๆ หน่อย ๆ เป็นไม่ได้ มันจะเปิดซีรีส์ขึ้นมาดูทันที เป็นเรื่องเดิมที่ดูได้ไม่เบื่อ เดาว่ามันน่าจะดูซ้ำมาไม่น้อยกว่าร้อยรอบแล้วจนจดจำเนื้อเรื่องได้ทุกช็อตทุกฉาก เรียกว่า “ติ่ง” ตัวจริงก็ว่าได้

แต่ที่ฮาไปกว่านั้น คือการคิดหรือพูดในใจของเมอร์เดอร์บอท แต่ละครั้ง มันช่างเจ็บจี๊ด ๆ ซะทุกครั้ง ซึ่งทั้งหมดมันก็สะท้อนออกมาจาก “ตัวตน” ของเมอร์เดอร์บอทเอง ซึ่งต้องยอมรับว่า มาร์ธา เวลส์ ได้ดีไซน์คาแร็กเตอร์นี้ออกมาในนวนิยายต้นฉบับได้ดีเยี่ยม และมันตอบสนองต่อด้านเทา ๆ ของมนุษย์ได้อย่างตรงจุด เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บ่อยครั้ง เราเองก็รู้สึกว่ามนุษย์มนานี่มันน่ารำคาญน่าเบื่อหน่ายเพียงใด


ด้วยเหตุนี้ สำหรับเมอร์เดอร์บอทแล้ว แม้ภายนอกจะดูเงียบ ๆ แต่ภายในกลับเพียบด้วยถ้อยคำเป็นหมื่นล้านคำ ทั้งแซะ ทั้งด่า เห็นแย้ง ปฏิเสธ เอาเข้าจริง นี่ก็คงเป็นเหตุผลที่บรรดาแฟนคลับหนังสือตกหลุมนวนิยายเรื่องนี้และติดตามอ่านทุกเล่มอย่างเหนียวแน่น เพราะเมอร์เดอร์บอท มันเหมือนเป็นตัวแทนบางด้านของเรา ลองนึกเอาดูว่า แม้คนคนหนึ่งจะยอมทำตามสิ่งที่คนหนึ่งบอกเพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ และก็ทำได้ดีด้วย แต่ลึก ๆ ในใจก็อาจจะมีคำพูดมากมายที่ขัดแย้งกัน

อีกประการ สิ่งที่ทำให้เมอร์เดอร์บอทล้ำ ๆ กว่าหุ่นยนต์ตัวอื่น ก็คงเป็นเรื่องของการที่มันมีคุณสมบัติเฉียดใกล้กับมนุษย์อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความคิด และอาจจะลึกถึงระดับความรู้สึกหรือจิตใจที่เทียบได้กับความเป็นมนุษย์ การที่มัน “ไม่ชอบสบสายตา” อาจเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่าอาจจะทำให้มันเปิดเผยอะไรออกมาบางอย่างผ่านสายตา เหมือนกับที่เราชอบพูดว่า ดวงตาคือหน้าต่างของดวงใจ การสบตาอาจทำให้มันสั่นไหวและถูกจับได้ว่าตัวมันเองมีความแตกต่างจากหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ อย่างไร

แน่นอนว่า สิ่งนี้ก็อยู่ในความสงสัยของทีมที่เข้ามาทำการสำรวจพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวละครกลุ่มสำคัญที่จะเดินทางร่วมไปกับเราคนดูตลอดทั้งเรื่อง และเชื่อว่า ตัวละครกลุ่มนี้จะร่วมกันพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับบอทตัวนี้ออกมาได้น่าประทับใจแน่นอนในตอนท้าย

สำหรับ “อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด” ซึ่งสวมบทบาทเป็นหุ่นยนต์ ก็ต้องบอกว่าเป็นผลงานที่เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะหุ่นยนต์ตัวนี้ไม่ได้ปิดหน้ากากตลอดเวลา แต่มีช่วงที่ต้องเปิดหน้าเป็นระยะ ๆ และอเล็กซานเดอร์ก็ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ของหุ่นยนต์ออกมาได้อย่างน่าเอ็นดู ความหน้าตายแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกนึกคิดและคำพูดอยู่ข้างใน คือหมัดเด็ดของตัวละครตัวนี้ เชื่อได้ว่า หลายคนดูแล้วต้องตกหลุมรักเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้แน่นอน















กำลังโหลดความคิดเห็น