xs
xsm
sm
md
lg

“เก๋ไก๋” เผยพ่อจากไปเพราะล้มหัวฟาดขอบเตียง ไม่ใช่โรคประจำตัว ไม่โกรธคนด่าทิ้งพ่ออยู่คนเดียว (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เก๋ไก๋ สไลเดอร์” เผยที่ผ่านมาได้มีการติดต่อกับคุณพ่อเรื่อยๆ แต่ที่คุณพ่อเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากอาการป่วย แต่เป็นเพราะอุบัติเหตุหลังพบแผลที่ศีรษะ คาดล้มหัวฟาดขอบเตียง ไม่โกรธคนเข้าใจผิดว่าทิ้งพ่อ เพราะคนรอบตัวรู้ดี ยันทำหน้าที่ลูกดีที่สุดแล้ว



กลายเป็นดรามาเบาๆ หลังจากที่ยูทูปเบอร์ชื่อดัง “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” หรือ “ณัฐธิชา นามวงษ์” สูญเสีย “คุณพ่อมงคล แซ่จง”จากไปกะทันหัน ในวัย 57 ปี ขณะอยู่บ้านคนเดียว ที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีบุรุษไปรษณีย์มาพบศพคุณพ่อขณะมาส่งของ แต่งานนี้ก็มิวายเจอชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยทำไมปล่อยให้คุณพ่ออยู่คนเดียว ทอดทิ้งพ่อ?

ล่าสุด เก๋ไก๋ สไลเดอร์ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงดรามาดังกล่าว โดยเจ้าตัวยืนยันว่าที่ผ่านมาก็ได้มีการติดต่อกับคุณพ่อเรื่อยๆ แต่ที่คุณพ่อเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากอาการป่วย แต่เพราะเป็นอุบัติเหตุที่คาดว่าคุณพ่อน่าจะกำลังถอดเสื้อและล้มหัวฟาดที่ขอบเตียง

คุณพ่อป่วยเป็นโรคเกาต์ ก็คือมันจะมาช่วงที่พ่อกินของอร่อย อาการคือเรียกว่ากรดยูริก เวลาทานอาหารอะไรอร่อยในโรคนี้ที่เขาไม่ชอบมันก็จะเกิดอาการแล้วก็จะปวดตามข้ออาการของพ่อเป็นประมาณนี้

พ่อไม่มีโรคประจำตัวอย่างอื่นแทรกซ้อน แต่ที่เราเห็นคือพ่อเป็นหนักมากเหมือนกัน คือพ่อเป็นคนที่รักอิสระมากๆ จะมีช่วงที่อยากจะพาพ่อไปรักษา แต่เขาก็รู้สึกว่าเขาอยากรักษาด้วยตัวเขาเอง เวลาเขามีอะไรเขาก็จะโทร.มาคุย หรือมีอะไรอยากได้เขาก็จะโทร.มา แต่เราก็รู้สึกว่าจะช่วยพ่อยังไงตอนนั้นที่รู้ว่าพ่อป่วยเรายังอายุประมาณ 17 ปีที่เรายังเริ่มเข้าแคสงานยังไม่มีความสามารถอะไรที่จะมีเงินรักษาพ่อตอนนั้น”

คาดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ บอกน่าจะกำลังถอดเสื้อและล้มหัวฟาดที่ขอบเตียง
“พ่อยังเดินได้ค่ะ ตอนที่พ่อมาอยู่กับทางญาติฝั่งแม่ พ่อเขาจะขับมอเตอร์ไซค์ไปกินของที่เขาชอบ แล้วเขาก็ได้อยู่ในที่ๆ มีธรรมชาติ เขาก็จะทำในสิ่งที่เขาอยากชอบ(แต่คุณพ่อก็ดูแลตัวเองทานยาปกติ?) อันนี้เรื่องของทานยาเราว่าเขาก็ทานยามาเป็นเวลานาน

ที่ผ่านมาจะมีโทร.คุยกับพ่อ วันไหนที่เราขึ้นไปที่อำนาจเจริญเราว่าจะไปหาพ่อ แต่ล่าสุดเพิ่งซื้อทีวีให้เพราะเขาบอกว่าทีวีเพิ่งเสียนะ แล้วเราก็วีดีโอคอลคุยกับพ่อ แล้วพี่ชาย (มาร์ค กุลวัฒน์ แซ่จง) ก็เป็นคนขึ้นไปหาพ่อ

แต่ว่าอันนี้ตอนแรกเราคิดว่าพ่อป่วยจากโรคแล้วเสียชีวิต แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะเกิดอุบัติเหตุ พ่อกำลังจะถอดเสื้อแล้วมีรอยแผลที่หัวเขา เขาน่าจะล้มฟาดกับขอบเตียงตรงขาเตียง แล้วตอนนั้นเราก็อยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นวันที่เราไปร่วมแสดงความเสียใจกับพี่ๆ นักแสดงช่อง มันคืนวันที่ 11 มิ.ย. แล้วทราบว่าพ่อเสียชีวิตวันที่ 12 มิ.ย. ในคืนตอนนั้นเพราะว่าทางตำรวจเขาบอกเวลาที่พ่อเสีย แต่ว่าไม่มีใครรู้ว่าพ่อได้จากไปแล้ว ก็รู้แค่มีพี่ไปรษณีย์ที่เขาไปส่งของแล้วไม่มีการตอบ ก็เลยมีพี่ไปรษณีย์ที่พ่อจากไป 2 วัน แล้วก็ได้รู้คือทางป้าๆ เขาก็ไปหาไปดูอะไรแบบนี้ ซึ่งวันนั้นเลยเขาขับมอเตอร์ไซค์ไปกินของอะไรในเมืองในอำนาจเจริญ แล้วเราก็ทราบแค่นี้”

ลั่นไม่ได้ทิ้งพ่อให้อยู่คนเดียว
“ใช่ค่ะพ่ออยู่คนเดียว พ่ออยู่คนเดียวในบ้าน แต่ว่ารอบๆ จะมีเพื่อนบ้าน มีป้าๆ ที่เขาจะแบบว่าวันนี้มงคลอยากกินอะไรซึ่งวันนั้นพ่อบอกว่าอยากกินข้าวผัด แล้วคนที่เขากำลังจะผัดข้าวให้พ่อเขายังเตรียมหมูอยู่เลยพ่อก็ไปก่อน

ทางญาติเขาแจ้งมาทางเราค่ะ หลังจากที่ทราบพี่ชายก็ไปรับนำร่างพ่อมาที่กรุงเทพฯ เพราะว่าพ่อเกิดและโตมาที่กรุงเทพฯ มาโดยตลอด เป็นช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่เรารู้สึกว่าเขาก็ได้ไปใช้ชีวิตที่เขาบอกว่าอยากอยู่ในที่ๆ ธรรมชาติ แล้วบ้านตรงนั้นเราบอกพ่อว่างั้นอยากอยู่ที่นี่ไหมอยู่ใกล้ๆ กับบ้านยายข้างหลังเป็นภูเขาข้างหน้าเป็นแม่น้ำแล้วเขาก็มีมอเตอร์ไซค์คู่ใจแล้วเขาก็จะขับรถไปกินไปทำอะไรที่เขาอยากทำ”

เผยพ่อชอบอยู่สันโดษ-ชอบอยู่กับธรรมชาติ
คุณพ่อเลือกที่จะขอไปอยู่กับธรรมชาติที่ค่ะ เราเห็นด้วย แล้วเราขอพ่อว่า ถ้าเราจะต้องอยู่กับพ่อตลอด แล้วเราจะหาเงินจากตรงไหนเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีมันเหมือนเป็นช่วงชีวิตที่เราก็กำลังเข้ามาทำงาน เราขอให้พ่ออยู่ในที่ๆ มีคนดูแลพ่อ แต่พ่อบอกว่าพ่อไม่เอา พ่ออยากอยู่อิสระของพ่อเพราะเขารักสันโดษเขาอยากอยู่ในที่ๆ เขาอยากทำอะไรอยากไปไหนก็ได้

เรารู้สึกว่าวันที่พ่อไป เราไม่รู้แล้วเราไม่ได้อยู่ข้างเขาตอนนั้น เรารู้สึกว่าอย่างน้อยพ่อไม่ต้องเจ็บ คือเราคิดให้กำลังใจตัวเองว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเจ็บเป็นโรคที่เจ็บปวดเพราะว่าเขาเคยบอกว่าอยากหาย แต่เราไม่รู้ว่าเราจะช่วยให้เขาหายยังไงได้บ้าง สิ่งที่เราทำได้ก็คือหน้าที่ของเราแล้วก็ดูแลคนในครอบครัวเท่าที่เราทำได้ เราทำให้เต็มที่ๆ สุด”

ไม่โกรธคนวิพากษ์วิจารณ์ทิ้งพ่ออยู่คนเดียว
“สำหรับคนที่เข้าใจเราผิดมันเป็นเรื่องปกติที่ที่เขาจะเข้าใจในแบบของตัวเขาเพราะว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เราไม่ได้อยู่ในวันที่พ่อเสีย เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดมาโดยตลอด ใครๆ ก็อยากอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ว่าถ้ามันไม่เกิดแบบนี้ขึ้นพ่อเขาก็ได้สอนให้เราเข้มแข็งแล้วก็ตั้งใจเรียน ถ้าเราเรียนเรามีความรู้เราก็ทำงานหาเงินอย่างน้อยเราได้ช่วยในแบบของเราอันนี้ที่เรารู้สึกว่าพอได้มอบพลังอันนี้ให้กับเรา

สิ่งที่คนเข้าใจผิดจริงๆ เราไม่ได้อ่านตรงนั้นมาก เพราะว่ามีคนเข้าใจในแบบของเขา เราก็แล้วแต่คนเขาจะคิดเลยค่ะ คนรอบๆ ไม่ว่าจะตัวเราเอง หรือว่าจะเป็นพี่ๆ หรือแม่ ญาติๆ ที่รู้จัก คือเขาไม่ได้เห็นในส่วนของเราหรือเปล่า หรือคนที่เขาคอมเมนต์ไม่ได้เห็นในส่วนของเราทำอันนี้ก็ไม่เป็นอะไร เราก็เข้าใจเราก็ไม่ได้โกรธที่เขาจะคอมเมนต์หรือคิดแบบนั้น

พี่ชายออกมาปกป้อง เขาก็เป็นห่วงเพราะว่าเขาก็มีน้องสาวคนเดียว เขาก็ทำเต็มที่ในรูปแบบของพี่ที่เขาจะทำได้ เขาก็รู้ว่าเราทำอะไร เราก็รู้ว่าเราทำอะไรอยู่”

บอกพ่อได้อยู่อย่างอิสระ หลับสบายที่สุดในชีวิตแล้ว
“เป็นช่วงที่พ่อได้อยู่อย่างอิสระแล้ว พ่อหลับสบายที่สุดแล้วในชีวิต เราขอให้พ่อได้หลับสบาย แล้วเราก็จะได้ส่งของกินที่พ่ออร่อยโดยที่พ่อไม่ต้องเจ็บป่วย

ถ้าถามว่าพ่อเป็นห่วงอะไรมากที่สุดหรอค่ะ เราคิดว่าพ่อก็คงรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน พ่ออาจจะไปรออยู่ที่ดาวดวงอื่น เขาก็คงภูมิใจที่เราดูแลตัวเองได้”

เตรียมนำอิฐลอยอังคารที่สมุทรปราการ
ก็เดี๋ยวมีไปลอยอังคาร แต่สถานที่ยังไม่ได้คุยกัน แต่คิดว่าก็คงไปลอยที่สมุทรปราการ ก็ขอบคุณทุกคนนะคะที่เขาเป็นห่วงเรา ไม่เป็นไรค่ะเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป พ่อได้ให้พลังตรงนี้อยู่ตรงนี้อย่างเข้มแข็ง”

































กำลังโหลดความคิดเห็น