xs
xsm
sm
md
lg

“ลูกหมี” แถลงชนะคดี “ปู มัณฑนา” ไม่จ่ายหนี้ภายใน 30 วัน จ่อฟ้องล้มละลาย แฉอีกฝ่ายยื่นข้อเสนอในศาล ฟังแล้วอึ้ง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ลูกหมี รัศมี” ขอบคุณศาลยุติธรรม สั่ง “ปู มัณฑนา” ชดใช้หนี้ 1.7 ล้านบาทรวมดอกเบี้ย ไม่หวั่นอีกฝ่ายยื่นอุทธรณ์เชื่อในหลักฐานที่มี มองคนมีการศึกษาไม่โพสต์ข้อความใช้อารมณ์ ถ้ายังไม่หยุดอาจต้องฟ้องกันจนตาย ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วันไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นยึดทรัพย์ - ฟ้องล้มละลาย ลั่นยื่นฟ้อง ปู มัณฑนา ทั้งหมด 5 คดี เผย 17 มิ.ย.นี้ รอลุ้นผลอีก 1 คดี ส่วน “ทนายกุ้ง” บอกรอเงินโอนค่าทนายความอยู่ หากได้จะนำไปทำบุญ

จากกรณีมหากาพย์คาราคาซังข้ามปี สำหรับการทวงหนี้ 2 ล้านระหว่างนางแบบตัวแม่ “ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี” ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยอดีตนางเอกชื่อดังอย่าง “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” ข้อหาผิดสัญญากู้ยืมเงิน เงินต้น 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ล่าสุดศาลชั้นต้นพิพากษาว่าสัญญากู้เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้อง หลังจากกู้จำเลยชำระหนี้บางส่วนเป็นเงิน 2 แสนกว่าบาท หักจากหนี้ตามสัญญาเหลือหนี้เงินต้นประมาณ 1.7 ล้านบาท ซึ่งโจทก์ต้องชำระเงิน 1.7 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของเงินต้น 2 ล้าน นับแต่วันที่ 2 มี.ค. 67 ที่เซ็นสัญญา จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ รวมถึงให้ชำระค่าธรรมเนียม ค่าทนายความ 3,000 บาทแทนโจทก์
 
ด้าน “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” คู่กรณี ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวทันที โดยได้โพสต์อินสตาแกรมเป็นภาพที่มีข้อความว่า “ปูเคารพคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนที่ศาลสั่งจ่ายค่าทนายเดย์ 3,000 บาท เดี๋ยวโอนให้นะคะ 3,000 บาท เดย์แบ่งกุ้งคนละ 1,500 บาทนะคะ” และภาพตัวเองขณะกำลังชนแก้ว

ล่าสุด ลูกหมี รัศมี ควง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และ ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์ ออกมาเปิดใจหลังชนะคดีผิดสัญญาเงินกู้ โดยเผยว่า หากปูไม่ใช้หนี้ใน 30 วัน เตรียมยื่นยึดทรัพย์ - ฟ้องล้มละลาย

ทนายเดชา : “คือคดีนี้ลูกหมีฟ้องลูกหนี้ที่เป็นนางงาม-นางเอก ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องผิดสัญญากู้ยืมเงิน เงินต้น 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลก็พิพากษาว่าสัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พิพากษาว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้อง เพียงแต่ว่าหลังจากมีการทำสัญญากู้จำเลยได้ชำระหนี้มาบางส่วนประมาณ 5-6 ครั้ง เงินประมาณ 260,000 บาท หักจากหนี้ตามสัญญากู้แล้ว ก็จะเหลือหนี้ต้นเงินประมาณ 1,700,000 บาท อันนี้ประเด็นแรกประเด็นเรื่องการกู้ยืมเงิน

ประเด็นที่ 2 เป็นประเด็นที่คุณลูกหมีเคยพูดตั้งแต่แรกว่า ลูกหนี้รายนี้ได้มีการชักชวนลงทุนแล้วจะจ่ายผลตอบแทน อันนี้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดีก็ปรากฏชัดว่ามีการชักชวนลงทุนจริงก็ไม่ได้จ่ายเงินปันผล อันนี้ก็มีประเด็นเรื่องชักชวนลงทุนจริง แล้วก็ไม่มีการลงทุนซึ่งคุณลูกหมีก็ได้มีการฟ้องฉ้อโกงพ.ร.บ.เช็ค อยู่ที่ศาลแขวงพระนครใต้

อีกประเด็นหนึ่งประเด็นที่ว่ามีการจ่ายเช็คหลายฉบับ ประมาณ 8-9 ฉบับ ทางฝ่ายลูกหนี้ขอเช็คคืนประมาณ 9 ฉบับ แล้วศาลพิพากษาให้ลูกหนี้แพ้คดี เพราะเช็คพวกนั้นศาลพิพากษาแล้วว่ามีมูลหนี้ เป็นการจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ ไม่ใช่ใช้เช็คเพื่อการค้ำประกันตามที่จำเลยต่อสู้ เพราะฉะนั้นศาลก็ไม่คืนให้ คือพูดง่ายๆ ก็คือว่าจ่ายเช็คชำระหนี้ พอเช็คเด้งแล้วหนี้ยังไม่ใช้เขาเลยจะไปขอเช็คคืน เพราะเช็คต้องยึดหน่วงไว้สำหรับการดำเนินคดี อันนี้ก็คือประเด็นที่ 3 นอกนั้นลูกหนี้ต่อสู้เกี่ยวกับเรื่องสัญญาปลอม บอกคุณลูกหมีเอาสัญญากู้ที่มันแบบฟอร์มเปล่าไปหลอกลูกหนี้ให้ลงชื่อ อันนี้ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาคดี ก็ปรากฏว่าไม่ใช่สัญญาปลอมเป็นสัญญาที่กรอกตัวเลขครบถ้วนแล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่สัญญาปลอม แล้วประเด็นที่ต่อสู้เรื่องหนี้ผิดกฎหมายก็ไม่มี หลักๆ ประมาณนี้”

ดีใจที่ศาลท่านให้ความยุติธรรม
ลูกหมี : “ก็ดีใจนะคะที่ศาลท่านยุติธรรม แล้วคดีก็ออกมาอย่างชัดเจนว่าคำพิพากษาค่อนข้างชัดเจนทุกขั้นตอนในทุกกรณีเลย ก็รู้สึกว่ามันก็เป็นคดีตัวอย่างว่าการที่เราจะไปลงทุนกับใครต้องระมัดระวังที่จะโดนโกงได้”

ทนายกุ้ง : “ศาลตัดสินให้ชำระเงินเป็นเงินก้อน 1,739,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2567 วันทำสัญญา แล้วก็จะมีค่าวิชาธรรมเนียมด้วยคือค่าทนายความ จริงๆ แล้วตอนแรกทางจำเลยก็ต่อสู้คดีบอกว่า ใน 2 ล้านบาท มีหนี้ผิดกฎหมายรวมอยู่ด้วยแล้วก็เซ็นกระดาษเปล่าเป็นสัญญาปลอม ทีนี้ศาลก็ตัดสินมาชัดเจนแล้วว่าสัญญาเงินกู้ 2 ล้านบาท เป็นหนี้มาจากการร่วมลงทุน แล้วก็เป็นยอดสรุปว่า เหลือหนี้จริงๆ เป็นเงินทุนจริงๆ แล้วมาสรุปสัญญาเงินกู้ก่อนที่จะลงนามกันเซ็นสัญญากัน หลังจากนั้นใน 2 ล้านบาท ไม่มีหนี้ผิดกฎหมายเลยตามที่เขาต่อสู้มาแล้วพูดมาเสมอว่ามีหนี้ผิดกฎหมายรวมอยู่ด้วย ซึ่งในสัญญา 2 ล้านบาท ก็ไม่มีหนี้ผิดกฎหมายรวมอยู่ในนั้นเลย

ทีนี้ประเด็นต่อมาก็คือว่า สิ่งที่ศาลบอกว่าจำเลยต่อสู่ว่าเซ็นกระดาษเปล่าแล้วเป็นสัญญาปลอม ซึ่งศาลก็วินิจฉัยชัดเจนแล้วว่าจำเลยเป็นคนที่มีความรู้เป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิตพอสมควร เป็นอดีตนางงาม เป็นนางแบบนักแสดง รู้ผลถึงสัญญาถ้าเซ็นไปแล้วผลผูกพันแน่นอน ซึ่งเป็นข้อความง่ายๆ บุคคลทั่วไปอ่านแล้วก็เข้าใจได้ ถ้าเซ็นลงไปแล้วผูกพันทันที ซึ่งตรงนี้จำเลยก็เซ็นชื่อลงไป อีกอย่างประเด็นนี้คือทางโจทก์กับจำเลย ก่อนทำสัญญาก็มีการพูดคุยกันแล้วเรื่องตัวเลข 2 ล้านบาท แล้วครั้งแรกมีการนำเช็คมาให้ 2 ล้านบาท ทางลูกหมีก็เขียนเช็คลงไปในสัญญาเงินกู้แล้วก็มีการถ่ายภาพไว้ครั้งนึงก่อน แล้วก็นำสัญญาเงินกู้ส่งไปให้กับจำเลยเซ็น แล้วจำเลยก็ให้แมสเซนเจอร์เอาสัญญากลับมาก็ถ่ายภาพอีก 1 ครั้งเป็นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ลูกหมีก็เซ็นชื่อพร้อมกับพยานแล้วถ่ายภาพอีกครั้งหนึ่งแล้วก็ส่งไปให้กับจำเลย แล้วก็ถ่ายภาพส่งให้จำเลยแล้วบอกให้จำเลยเก็บไว้นะ จำเลยก็ตอบว่าโอเค ซึ่งตรงนี้ทางจำเลยก็ไม่ได้ปฏิเสธโต้แย้งตั้งแต่แรกเลยว่า หนี้ไม่ถูกต้องหรืออะไร เพราะฉะนั้นศาลก็มองว่าตรงนี้เป็นมูลหนี้ที่เกิดขึ้นจริงมาจากการร่วมลงทุน

เพราะฉะนั้นการที่ศาลพิพากษาแล้วว่า หนี้ทั้งหมด 2 ล้านบาท แต่ทำไมหลายคนสงสัยทำไมนี่มันพิพากษาแค่ 1,739,000 บาท เพราะว่าหลังจากที่จำเลยทำสัญญาเงินกู้วันที่ 2 มีนาคม 2567 จำเลยมีการโอนเงินมาให้กับเจ้าหนี้ประมาณ 4-5 ครั้ง รวมทั้งหมด 261,000 บาท ยอดมันก็เลยหักไปเหลือ 1,739,000 บาท ก็คือตามข้อเท็จจริงเลย แล้วดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2567 ก็สรุปมาให้คร่าวๆ ณ ปัจจุบัน อันนี้รวมดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นแล้วประมาณที่ต้องจ่าย 2,065,062 บาท ซึ่งอันนี้มันไม่ได้หายไปไหนเลยก็คือมีดอกเบี้ย แต่ว่าการที่เงินต้นเขาจ่ายมาแล้วศาลก็หักให้ก็ยุติธรรม อันนี้ทางโจทย์ก็รับได้อยู่แล้วเพราะว่าเขาจ่ายมาแล้วก็ยอมรับได้ ก็ประมาณนี้

แล้วก็จะมีค่าธรรมเนียมเขาก็ต้องใช้แทนคืนแล้วด้วยที่วางของศาลไป 3,000 บาท อันนี้คือประเด็นแรกสัญญาเงินกู้ ไม่ใช่เป็นหนี้ที่ผิดกฎหมายที่เขาพูดเสมอว่า เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย แล้วเจ้าหนี้เก็บดอกเบี้ยโหด แล้วตอนนี้ก็ถูกแจ้งความที่สน.ทองหล่อ แล้วด้วย เรื่องนี้ประเด็นนี้ว่าเจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย”

ลั่นรอเงินโอนค่าทนายความอยู่ บอกหากได้จะนำไปทำบุญ
ทนายกุ้ง : “ตอนนี้เขาตอบโต้มา เขาไม่ได้พูดถึงว่าจะชำระเงิน เขาพูดถึงแต่ว่าเขาจะจ่ายให้ทนายเดชาเลย 3,000 บาท ให้แบ่งกับทนายกุ้งคนละ 1,500 บาท ซึ่งอันนี้ก็รออยู่ค่ะรอโอนมาแล้วจะไปทำบุญอนุโมทนาบุญด้วยแล้วกันเรื่องหนี้ไม่ได้พูดถึงว่าจะจ่ายเมื่อไหร่จะยังไง ซึ่งเราก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าหนี้เหลือเท่าไหร่ตามนั้น ก็ชำระมาแต่เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องหนี้ เขาพูดถึงแค่ค่าทนายความ 3,000 บาท

ลูกหมี : “ตัวเขายังไม่ได้บอกว่าจะชำระคืนลูกหมีใช่ไหม ยังไม่ได้พูดค่ะ”

ทนายกุ้ง : “ค่าทนายความพูดเฉยๆ แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายเหมือนกัน”

ลั่นหาก 30 วัน ยังไม่ชำระหนี้ตามคำสั่งศาล เตรียมจัดการยื่นยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลายทันที
ทนายเดชา : "ก็ต้องยื่นขอออกคำบังคับมีเวลา 30 วัน ถ้า 30 วันเขาไม่ชำระ ตอนนี้ก็ต้องตั้งเรื่องออกมายึดทรัพย์ ก็นับจากวันตัดสิน 30 วัน พอ 30 วันไม่จ่ายขอออกหมายบังคับคดีหลังจากนั้นก็ต้องไปสืบทรัพย์ ถ้าสืบทรัพย์แล้วไม่พบว่ามีทรัพย์สินก็ฟ้องล้มละลาย ซึ่งคุยไว้เรียบร้อยแล้วว่าถ้าเราดูว่าเขาไม่มีทรัพย์สินเราก็ฟ้องล้มละลายทันทีเลย”

ลูกหมี : “เตรียมใจไว้แล้วค่ะ ถามว่าเชื่อไหมเขาก็มีเงินมีทรัพย์ ก็ 50 - 50 เพราะว่ามันมีเจ้าหนี้รายอื่นที่เขาดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว แล้วศาลก็สั่งให้ชนะคดีแล้ว แล้วเขาก็ยอมความกัน เจ้าหนี้รายงานคู่กรณีต้องจ่ายเดือนละ 3,000 บาท ช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2567 เขาจ่ายแค่เดือนเดียวเท่ากับเดือนธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม จนปัจจุบัน เดือนละ 3,000 เขาก็ยังไม่จ่าย กับเจ้าหนี้อีกรายนึง”

ยื่นฟ้อง ปู มัณฑนา ทั้งหมด 5 คดี ทั้งฟ้องฐานผิดสัญญากู้ยืม , ข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 รวมไปถึงคดีหมิ่นประมาทอีก 3 คดี
ทนายเดชา : “ตอนนี้คุณลูกหมีมีฟ้องลูกหนี้เป็นคดีฉ้อโกงกับพ.ร.บ.เช็ค ซึ่งกำลังจะฟังคำสั่งวันที่ 17 มิถุนายน”

ลูกหมี : “คือตอนนี้มี 5 คดี คดีที่แถลงวันนี้คือคดีผิดสัญญาเงินกู้ วันที่ 17 มิถุนายนนี้ ก็เป็นคดีฉ้อโกง แล้วก็ 3 เป็นคดีหมิ่นประมาท”

ทนายกุ้ง : “มีไต่สวนไปบางคดีแล้ว ศาลจังหวัดนนทบุรีก็มีบังคับรับฟ้องคดีหมิ่นประมาท อีก 2 คดีก็อยู่ระหว่างการฟังคำสั่ง ก็อยู่ระหว่างการไต่สวน ทั้งหมด 5 คดีที่ทางเจ้าหนี้ฟ้องไป”

เตรียมแจ้งความเท็จกลับ
ลูกหมี : “หลังศาลตัดสิน เขาก็มีการโพสต์เหมือนกับว่าพูดเรื่องเงินค่าทนาย 3,000 บาท ที่ศาลสั่งให้ทางคู่กรณีชำระ เขาก็โพสต์บอกว่าเดี๋ยวให้เดย์ 3,000 หนึ่งโพสต์แล้วอีกโพสต์นึงก็บอกว่าอย่าลืมแบ่งให้กุ้งด้วยนะ 1,500 เราก็เลยบอกว่าโอนเลยๆ โอนเลยค่ะเชียร์ให้โอน”

ทนายกุ้ง : “3,000 บาท เดย์แบ่งให้กุ้งคนละ 1,500 บาท”

ทนายเดชา : “เรารู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบอะไรความคิดนะ เขาไม่ได้รู้สึกว่าเขาต้องรับผิดชอบคุณลูกหมีหรือว่าเราอะไรแบบนี้ เราคิดเอาเองนะ เราคิดว่าเขายังไม่รู้ว่าเขาต้องมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ แล้วเขาก็ยังมีพฤติกรรมที่เราดูแล้วไม่ค่อยแฮปปี้ เช่นไปยืนอยู่หน้าสน.ทองหล่อหลายครั้ง ว่าไปแจ้งความทนายบ้าง แจ้งความทนายไปทั้งหมดคนละ 2 คดี ทนายเดชา 2 คดี ลูกหมีอีก 4 คดี ก็หมิ่นประมาทเขา จนล่าสุดก็ไปแจ้งความว่าลูกหมีปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมาย 1 คดี แล้วก็ไปให้ตำรวจทองหล่อโทร.มาให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปรับทราบข้อกล่าวหาว่า เราปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยผิดกฎหมาย ซึ่งวันนี้ศาลตัดสินไว้แล้วว่าเราไม่ได้ปล่อยดอกเบี้ยผิดกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเงินกู้นอกระบบคุณลูกหมีก็ปรึกษาเรา”

ลูกหมี : “ก็คิดว่าจะมีการดำเนินคดีเรื่องแจ้งความเท็จ”

ทนายเดชา : “เพราะว่าไปกล่าวหาว่าเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบคิดดอกเบี้ยผิดกฎหมาย ตอนนี้ศาลตัดสินแล้วว่ามันไม่มีการคิดดอกเบี้ยผิดกฎหมาย ลูกหมีก็จะดำเนินคดีแจ้งความเท็จต่อไป”

ไม่หวั่นหากอีกฝ่ายยื่นอุทธรณ์
ทนายเดชชา : “คดีนี้เป็นแค่ศาลชั้นต้น ยังมีศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา”

ลูกหมี : "อีก 2 ศาลเราไม่กลัวค่ะเพราะว่าเท่าที่เข้าใจนะคะ ตอนที่สืบพยานเหมือนหลักฐานของทางคู่กรณีนิดเดียวมันไม่เยอะ แล้วของเราหนาแบบนี้เลย (มีหมายมาหรือยังว่าเขาจะอุทธรณ์ต่อ?) ก็น่าจะอุทธรณ์นะคะ เพราะเห็นเขาโพสต์ว่าเขาก็น้อมรับคำพิพากษาจากศาล แล้วนี่ก็คือแค่ศาลชั้นต้น เขาก็คงสู้ต่อไป คิดว่าเขาน่าจะอุทธรณ์ค่ะ คิดว่าเขาน่าจะมีเงินจ่ายค่าทนายเยอะค่ะ”

ทนายเดชา : “อีก 2 ศาลถามว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ศาลนึงก็ประมาณสัก 1 ปี โดยเฉลี่ย เขาก็สามารถอุทธรณ์ไปถึงชั้นฎีกาได้ แต่คดีนี้ถ้าอ่านคำพิพากษาดีๆ แล้ว คดีนี้ชนะคดีเพราะว่าคุณลูกหมีเขาเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ คือตอนไปเอาสัญญากู้มาพอกรอกข้อความปุ๊บเอามือถือถ่ายรูปไว้ แล้วก็ส่งให้แมสเซนเจอร์เอาไปให้จำเลย แล้วจำเลยก็ลงชื่อเป็นคนแรกในฐานะผู้กู้ แล้วจำเลยก็ส่งสัญญากู้กลับมา ลูกหมีก็ถ่ายรูปไว้อีก พอหลังจากนั้นลูกหมีก็ลงชื่อลงในสัญญากู้เป็นคนที่ 2 แล้วก็ในฐานะผู้ให้กู้ แล้วในฐานะพยานก็ถ่ายรูปอีก แล้วก็ส่งไปให้จำเลยอีก พยานหลักฐานตัวนี้ทำให้ชนะคดี คือจำเลยก็ไม่คิดว่าลูกหมีจะมีหลักฐานอันนี้อยู่ในคำพิพากษา เพราะจำเลยเขาต่อสู้เป็นสัญญาปลอม ซึ่งมันเป็นการเบิกความที่ไม่เป็นความจริง”

ลูกหมี : "เขาต่อสู้ตั้งแต่ต้นเลยว่า ลูกหมีให้เซ็นกระดาษเปล่า เหมือนเซ็นให้เพราะลูกหมีขอทุกอย่างคือแบบว่ายอมเขา เขาอยากได้อะไรก็ได้ เขาให้เซ็นกระดาษเปล่าอะไรแบบนี้”

ทนายเดชา : “ซึ่งมันขัดกับพยานหลักฐาน ซึ่งคุณลูกหนี้ทายไว้ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ตัวนี้ทำให้เขาแพ้คดี”

เชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มี คิดว่าจะชนะคดียืนตามศาลชั้นต้น
ทนายเดชา : “ตามพิจารณาหลักฐานเรายังเชื่อว่าคำพิพากษาก็น่าจะยังเหมือนเดิม เหมือนเดิมเพราะมันไม่ใช่ลักษณะการปล่อยเงินกู้ ถ้าปล่อยเงินกู้อย่างที่ทางทนายความของฝ่ายจำเลยไปแถลงข่าวที่หน้าโรงพักทองหล่อมีชาร์ตมีอะไรเงินเข้าเงินออก พวกนั้นถ้าเราไปดูเช็คการสนทนาเราจะเห็นชัดเลยว่ามันพูดถึงเรื่องการลงทุนและเงินปันผล มันไม่ได้มีการพูดเกี่ยวกับเรื่องการกู้ยืมเลย”

ทนายกุ้ง : “ก็คงเหมือนเดิม ประเด็นหลักๆ เลยทางทนายจำเลยเขาต่อสู้ว่าทางลูกหมีปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เดือนละประมาณ 1,000-2,000 เปอร์เซ็นต์ จริงๆ แล้วดูได้ไลน์ที่โจทก์และจำเลยคุยกันในนั้นจะเขียนแต่บอกว่าการลงทุน ขายสินค้า รับลูกค้า แบ่งกำไร ซึ่งมันมีอยู่แค่นี้เอง ไม่มีการพูดถึงเงินกู้หรืออะไรเลย เพราะฉะนั้นการที่เขาจ่ายเงินมาก่อนที่จะทำสัญญาเงินกู้ ตรงนั้นไม่ต้องคืนไม่ต้องหักด้วย เขาจ่ายมาแล้วที่เขาต่อสู้มาเสมอว่า เขาจ่ายคืนมาแล้ว 2,600,000 บาท หักลบกลบหนี้มันก็เหลือแค่ 1,500,000 บาท จริงๆ แล้วอันนั้นศาลไม่ได้นำมาตัดสินเนื่องจากว่ามันเป็นเงินที่เขาจ่ายมาก่อนทำสัญญาเงินกู้ เพราะฉะนั้นเงินนั้นก็ไม่ต้องคืนก็ไม่ต้องนำมาหักด้วย ถือว่าเป็นกำไรที่ได้จากการลงทุน เพราะฉะนั้นที่นำมาหักคือเงินส่วนที่เซ็นสัญญาแล้วเท่านั้นเอง ว่าทำไมยอดมันถึงเหลือเท่านี้”

เผยอีกฝ่ายยื่นข้อเสนอหากผ่อนจ่าย ให้ตนไปออกรายการ โหนกระแส เพื่อขอโทษ
ลูกหมี : “เดือนที่แล้วที่มีการสืบพยานในศาล เขาก็ขอมาว่าจะจ่ายเราเดือนละ 100,000 บาท แล้วก็ให้เราถอนแจ้งความ 5 คดี แล้วก็ให้เราไปออกรายการโหนกระแส ไปขอโทษออกรายการ โดยที่เราไปออกรายการกับทนาย เราก็ถามว่าแล้วจำเลยจะไปไหม เขาก็บอกว่าไม่ไป เราก็มองแล้วว่ายิ่งเจ้าหนี้คนอื่นเดือนละ 3,000 บาท ยังไม่ได้เลย แล้วเราจะได้เหรอ 100,000 บาท แล้วเราลงทุนเงินก้อนไป 2,000,000 ล้าน เราจะได้กลับมาแบบยิบย่อยแล้วเรายังต้องขอโทษออกสื่ออีก ต้องออกรายการเฉพาะโหนกระแสเท่านั้น เราก็คิดว่ารายการโหนกระแสไปออกรายการมันก็เป็นเรื่องใหญ่ เราไม่ได้มีอำนาจในการที่ว่าฉันไปออกได้ คือเขาต้องการแบบนี้เราก็เลยไม่ได้ยอมเรื่องนี้ เราก็เลยบอกว่าดำเนินคดีต่อไปได้เลย”

ลั่นถูก ปู มัณฑนา ฟ้องกลับ 4 คดี บอกรู้สึกเหนื่อยที่ต้องไปพิมพ์ลายนิ้วมือ
ลูกหมี : “เขาแจ้งความเรา 4 คดีเป็นคดีหมิ่นประมาท เราก็ไปพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว 4 คดีก็ 40 นิ้ว ก็นานมากเสียเวลาและเหนื่อยมาก ทางตำรวจก็ไม่ได้ติดต่ออะไรก็ยังไม่ได้มีอะไรเราไปพิมพ์ลายนิ้วมือนานมากแล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้ว”

ทนายกุ้ง : “คือเราไม่ต้องรอหมายเรียก คือเขาแจ้งความปุ๊บตำรวจโทร.มา เราก็ไปเลย เราไม่ต้องรอให้ตำรวจออกหมายเรียก เราพิมพ์ลายนิ้วมือให้เรียบร้อยตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ยังเงียบอยู่”

ลูกหมี : “เดี๋ยวอีก 1 คดี เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่เขาแจ้งมา คดีดอกเบี้ยเกินอัตรา ที่สน.ทองหล่อเหมือนกัน เราก็ต้องไปอีก”

ทนายกุ้ง : “ไม่ได้หนีไปไหนทุกครั้งที่ตำรวจโทรศัพท์มาไปตลอดไปทันที”

มองคนมีการศึกษาไม่โพสต์ข้อความใช้อารมณ์ ถ้ายังไม่หยุดอาจต้องฟ้องกันจนตาย
ลูกหมี : “เขาโพสต์ตลอดเวลาอยู่แล้ว เขาก็โพสต์นั่นโพสต์นี่ตลอดเวลา ซึ่งการโพสต์เช่นหมิ่นประมาท เขาโพสต์ว่าเราที 14 ข้อความ 20 ข้อความ แล้วการโพสต์ของเขาใช้คำที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่นทั้งลูกหมี ทนายกุ้ง ทนายเดชา ซึ่งคนที่จะอายุ 50 แล้ว การมีการศึกษาเขาจะไม่ทำกันแบบนี้ มันเป็นการโพสต์ด้วยอารมณ์แล้วก็ใช้คำไม่สุภาพสำหรับความเป็นผู้หญิง ลูกหมีว่าเดี๋ยวเขาก็โพสต์อีกเรื่อยๆ ซึ่งคดีหมิ่นประมาทเราก็ชนะทุกองค์ประกอบในการโพสต์ของเขา ถ้าเขาไม่ได้หยุดการกระทำแบบนี้ คดีมันก็คงจนวันตาย เขาก็คงฟ้องเราไปจนวันตาย หมายความว่าเขาต้องหยุดการกระทำแบบนี้วิธีคิด วิธีคิดเขาเป็นแบบนี้การโพสต์ว่าคนอื่นดูหมิ่นเหยียดหยาม แล้วการหมิ่นประมาทของลูกหมี เหมือนแบบว่าบอกลูกหมีไม่มีงานทำ ลูกหมีไม่มีคุณค่าลูกหมีไปแยกสามี ลูกหมีไม่มีสามี ลูกหนีไปคดโกงเอาเปรียบคนอื่น ลูกหมีไปกินข้าวไม่จ่ายคือตัวเองดูดีหมด แต่คนที่แย่เป็นลูกหมีแบบนี้เหรอคะ

ลูกหมีเป็นครูสอนบุคลิกภาพ ทำงานช่วยสังคมมาตลอด 25 ปี เราก็รู้สึกว่ามันก็ต้องฟ้องกลับหมิ่นประมาท เหมือนกับถ้าเกิดไม่มีตัวอย่างแบบนี้คนอื่นเขาก็เคยทำแบบนี้อีก ซึ่งเห็นตัวอย่างแล้วนะคะอะไรที่ดีก็เอาเป็นแบบอย่าง อะไรที่ไม่ดีก็อย่าทำเพราะว่าทุกคนมีคุณค่าของตัวเอง การที่คุณทำตัวแบบนี้คุณค่าของตัวเองมันก็ลดลง แล้วยิ่งคนที่มีครอบครัวมีลูก วันหนึ่งลูกเต้าเขาจะเคารพคุณหรอ เราก็มองในเรื่องของสถาบันครอบครัว มันเกินความเป็นหญิง เกินความคนที่มีการศึกษา มันดูแล้วมันก็เหมือนแบบไม่ใช่”

























กำลังโหลดความคิดเห็น