ถอดหน้ากาก เจเร็ท เลโต – จากดาราฮอลลีวูดสู่ข้อกล่าวหาฉาว และข้อกังขาเรื่องลัทธิ
ในโลกของฮอลลีวูด การสร้างภาพลักษณ์คือศิลปะ แต่สำหรับ เจเร็ท เลโตชายผู้คร่ำหวอดในวงการทั้งภาพยนตร์ ดนตรี และแม้กระทั่ง…วาทกรรมความศรัทธา ภาพลักษณ์ของเขากลับกลายเป็นปริศนา ที่สังคมยังไม่อาจให้คำจำกัดความได้ชัดเจน
นักแสดงที่เคยได้รับรางวัลออสการ์ ศิลปินร็อกผู้สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนเพลงทั่วโลก และล่าสุด...บุคคลผู้ตกเป็นประเด็นร้อนเรื่องพฤติกรรมคล้าย "ผู้นำลัทธิ" และข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศจากหญิงสาวจำนวนมาก ชื่อของเลโตจึงไม่ได้เป็นเพียง "คนดัง" แต่กำลังกลายเป็นประเด็นสาธารณะที่สะท้อนคำถามใหญ่ในวัฒนธรรมคนดังร่วมสมัย
เจเร็ท เลโต เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงจากการเป็นนักแสดงดาวรุ่งในซีรีส์ My So-Called Life ก่อนจะโด่งดังอย่างต่อเนื่องจากบทบาทใน Requiem for a Dream, Dallas Buyers Club (ที่ทำให้เขาได้รางวัลออสการ์ในปี 2014), Blade Runner 2049 และการรับบทโจ๊กเกอร์ใน Suicide Squad
อย่างไรก็ตาม เลโตไม่ใช่แค่นักแสดง เขาคือศิลปินผู้ก่อตั้งวง Thirty Seconds to Mars ร่วมกับน้องชาย แชนนอน เลโต ในปี 1998 วงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อกนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ด้วยแนวดนตรีที่เน้นความเข้มข้นทางอารมณ์และท่วงทำนองแบบไซไฟเหนือจริง โดยเฉพาะกับกลุ่มแฟนเพลงที่เรียกตัวเองว่า “The Echelon” ซึ่งเปรียบเสมือน “สาวก” แห่งจักรวาลของเลโต
เสียงกระซิบเริ่มดังขึ้นในปี 2019 เมื่อเลโตโพสต์ภาพกิจกรรมค่ายแฟนคลับที่จัดขึ้นบนเกาะในโครเอเชีย โดยมีแฟนเพลงแต่งชุดขาว เดินตามเขาราวกับผู้นำจิตวิญญาณ พร้อมแคปชั่น “Yes, this is a cult” บนคลิปโปรโมต
แม้เลโตจะอธิบายว่าเป็น “มุก” ที่เล่นกับคำว่า “cult following” (การมีแฟนคลับเหนียวแน่นแบบลัทธิ) แต่หลายฝ่ายกลับมองว่ามันไม่ใช่เรื่องขำ โดยเฉพาะเมื่อมีการขายบัตรเข้าร่วมค่ายถึง 6,500 ดอลลาร์ และมีรายงานว่าผู้เข้าร่วมส่วนมากเป็นผู้หญิงวัยรุ่นที่ “คลั่งไคล้แบบไร้เงื่อนไข”
กิจกรรมที่จัดขึ้นรวมถึงโยคะ การฝึกจิต และการใช้เวลาร่วมกับเลโตในบรรยากาศที่ปิด – คล้ายกับรูปแบบที่พบได้ในลัทธิทางจิตวิญญาณหลายแห่ง โดยมีเลโตในฐานะ “ผู้นำสูงสุด” ที่แทบจะไร้การตั้งคำถาม
แฟนคลับ หรือ ผู้ศรัทธา?
ในการสัมภาษณ์กับ The New York Times ปี 2013 เลโตยอมรับว่า “ไม่ชอบคำว่าแฟน” และกล่าวว่า
“เรามีครอบครัว มีสาวก มีผู้ศรัทธา... ไม่ใช่แค่ผู้ฟังเพลง”
เขาเสริมว่าเคยได้รับของขวัญจากผู้ติดตาม รวมถึง “ใบหูที่ถูกตัดจริง” พร้อมโน้ตว่า “Are you listening?” – เขาบอกว่าทำเป็นสร้อยคอใส่ไว้
แม้จะพูดติดตลก แต่เรื่องราวเหล่านี้ได้สร้างภาพของชายที่มีอำนาจอย่างสูงเหนือกลุ่มผู้ติดตาม — สถานะที่หลายฝ่ายมองว่าอันตรายโดยเฉพาะเมื่อพลังศรัทธาถูกใช้ในทางที่ผิด
เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ประเด็นของเลโตพลิกไปอีกขั้น เมื่อมีผู้หญิงอย่างน้อย 9 คนออกมาแฉว่าเคยถูกเลโต “คุกคามหรือกระทำอนาจาร” โดยหลายรายกล่าวว่าถูกล่อลวงภายใต้ภาพลักษณ์ของแฟนคลับหรือกิจกรรมกลุ่ม
อัลลี เทลซ์ ดีเจชื่อดัง กล่าวว่าเธอถูกเลโตทำร้ายทางเพศเมื่ออายุต่ำกว่า 18 ปี
ลอร่า ลา รู เล่าว่าเลโตเดินเปลือยออกมาหาเธอในห้องพักขณะเธอยังเป็นเยาวชน
อีกหลายรายกล่าวว่า พวกเธอถูกชักชวนให้เข้าร่วมค่ายในโครเอเชีย ก่อนถูกกดดันให้ทำสิ่งที่ไม่สบายใจ
แม้เลโตยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ตอบโต้โดยตรง แต่ทีมกฎหมายของเขาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่า “ไม่เป็นความจริง” และเป็นความพยายามบิดเบือนชื่อเสียงของศิลปิน
นักสังคมวิทยาหลายรายชี้ว่า กรณีของเลโตสะท้อนปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “celebrity guru complex” – เมื่อคนดังที่มีอิทธิพลกลายเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณโดยไม่ได้ตั้งใจ (หรืออาจจะตั้งใจ) ซึ่งหากขาดการตรวจสอบ กลุ่ม “สาวก” อาจกลายเป็นเหยื่อได้โดยไม่รู้ตัว
ลัทธิหลายแห่งในประวัติศาสตร์ เช่น NXIVM หรือ Heaven’s Gate เริ่มต้นจากแนวคิด "ฝึกจิต" หรือ "พัฒนาตัวเอง" แต่จบลงด้วยการล่วงละเมิดทั้งกายและใจ — นักวิเคราะห์หลายคนจึงเริ่มตั้งคำถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในแวดวง Thirty Seconds to Mars นั้นกำลังเดินเข้าสู่เส้นทางเดียวกันหรือไม่
