“ณวัฒน์” ยันมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ยังไงก็ต้องปักตะกร้า ใครไม่พร้อม ไม่ชอบ ไม่ต้องมาให้ตกรอบ ไล่ไปประกวดเวทีอื่น อวยยศ “กชเบล” เต็งหนึ่ง ขายไปแล้วกว่า 30 ล้าน ไม่ขอพูดถึง “หมอของขวัญ” อีก ไม่ร่วมงานกันอีกแล้ว ท้า “เต๋า ทีวีพูล - ลีน่า จัง” อยากฟ้องเชิญเลย รออยู่ ไม่ให้ความสำคัญ “มิสแกรนด์ฝรั่งเศส” สละตำแหน่ง ลั่นธรรมะจัดสรร มองล้างสต๊อก ควบคู่ล้างซวย
เดินทางมาร่วมชมการประกวดด้วยตัวเองเลยสำหรับ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” กับการประกวด MISS UNIVERSE SAMUT SAKHON – BUENG KAN 2025 Presented By AuthoDenex ของ PD “คุณวรรณ วนัชพร พรพงศ์อธิคม” ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ซึ่งณวัฒน์ก็เผยว่าภูมิใจที่เห็นการทุ่มทุนและทุ่มเทขนาดนี้ พร้อมบอกให้ผู้เข้าประกวดบางคนไปเพิ่มเติมในส่วนที่ตัวเองยังขาด ขอให้ดูนางงามรุ่นพี่เป็นตัวอย่างก็ได้
“ก็ตื่นเต้นนะครับ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่มีศิลปินชายผู้ซึ่งมีกระแสมาร่วมงานด้วยกับสมุทรสาครและบึงกาฬ ก็เป็นอีกมิตินึงนะครับ ธรรมดาเราจะเจอแต่ขาประจำ เจอแต่แฟนคลับที่บอกลักษณะได้ว่ามางานยูนิเวิร์สหรือแกรนด์แน่นอน แต่ครั้งนี้เราประเมินไม่ได้ มีทั้งหัวสีม่วง หัวสีเขียว หัวสีทอง ไม่ค่อยแน่ใจว่าเขามาดูนางงามหรือมาดูนักร้อง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งความสุขและความสนุกที่คุณวรรณจัดให้ เอาจริงๆ โดยเนื้องาน 80% ผมพอใจนะ อย่างแรกเลยต้องชมความตั้งใจของไดเรกเตอร์ประจำจังหวัดด้วย หลายจังหวัดทำดีมาก อย่างนนทบุรี ฉะเชิงเทราก็ดี และวันนี้ก็คิดว่าจะต้องปังอีก เพราะเมื่อกี้แอบไปชะโงกดูเวทีแล้วก็ใช้ได้ ทุกคนไม่สนเลยว่าจะขาดทุนหรือกำไร สนใจอย่างเดียวว่าเราจะต้องไม่เสียหน้า อันนี้ก็ถือเป็นความภูมิใจ
ส่วนตัวผู้ชนะเองยังไงก็แล้วแต่ ผมว่า 90% ก็ไปได้ดี อาจจะมีบ้างบางคนที่อาจจะขัดความรู้สึกแฟนนางงามสไตล์ยูนิเวิร์ส เช่นอาจจะออกแนวน่ารัก คิวต์ๆ หรือบางคนออกหวาน เหมือนประกวดเดินสาย แต่อย่าเพิ่งไปคิดอะไรเยอะแยะ เพราะทุกคนยังมีเวลาปรับปรุง ก็ฝากบางท่านที่รู้ตัวแล้วว่าอาจจะต้องไปปรับแต่งนิดนึง วิธีการเดินหรือปรับแต่งรูปร่าง ไม่ได้บูลลี่นะครับ เพราะการประกวดมันเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะพูดถึง หลายคนไปตีความว่าพูดถึงรูปร่างคือการบูลลี่ มันผิดเรื่องที่เราจะคุยกันนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากชนะ อยากเข้ารอบลึก คุณก็ไปดูแลตัวเองเพิ่มสำหรับบางท่านเท่านั้น แต่ไม่ได้เยอะครับ”
เผยเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ กับ มิสแกรนด์ก็คนละแบบกัน
“ไม่เหมือนแกรนด์แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เราเป็นคนละสไตล์เลย ผมว่าคนตัวสูงมาแรงค่อนข้างเยอะ และเน้นโชว์การเดินก็ยังคงสตรองอยู่ ผมเชื่อมั่นว่าคนได้รอง 1 รอง 2 หลายจังหวัดบางคนก็เสียดาย อยากให้ชนะ ผมเชื่อว่าสักวันนึงในสัปดาห์หน้าหรือก่อนที่เราจะเสร็จสิ้นในเดือนนี้ เขาจะต้องไปชนะสักที่นึงแน่ๆ เพราะฉะนั้นเปอร์เซ็นต์ของนางงามที่จะเป็นแกรนด์อาจจะมีแค่ 10% อันนี้ต้องยอมรับ แต่โดยหลักแล้วผมก็ไม่เห็นใครที่จะมาคัดว่าคนนี้จะต้องร้องเพลงเก่ง คนนี้จะต้องน่ารัก คนนี้จะต้องเล่นโซเชียลเก่งมาก ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น คนที่ได้มาทุกคนยืนหนึ่งคือเรื่องของการใช้รูปร่าง โดยเฉพาะความสูงพอสมควร และเป็นบิวตี้ควีนในเรื่องของการเคลื่อนไหว การเดิน ผมว่าน่าจะเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้ครับ
ที่แน่ๆ เราคงมี 3B อยู่ ให้มีความเป็นบิวตี้ควีน ไม่ว่าจะเสื้อผ้าหน้าผม หรืออิริยาบถใดๆ ก็ตาม อย่างที่ 2 คือต้องฝึกสมองมาเยอะๆ วันนี้คุณอาจจะไม่ต้องฝึกเยอะ เพราะว่าคู่ต่อสู้ของคุณง่าย แต่สักวันนึงเมื่อคุณเข้ากองใหญ่แล้ว คู่ต่อสู้คุณเยอะมาก สมองคุณอาจจะไม่พอ ต้องไปฝึก ก็คือฝึกไม่ประมาทคู่ต่อสู้ และต้องไม่รู้สึกตื่นเต้นจนเกินไป เพราะความตื่นเต้นจะทำให้สติปัญญาสมองคุณหายไปชั่วครู่
และสุดท้ายศึกษาหาความรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านการประกวดนางงาม เราไม่ปิดนะครับคุณอาจจะดูปีก่อนหน้านี้ใครก็ได้ที่คุณคิดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในแบบอย่าง คุณลองดูอิริยาบถ วิธีการในการประกวดของเขา และที่สำคัญยุคนี้เป็นยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ก อยากให้ทุกคนเน้นโซเชียลเน็ตเวิร์กให้หนัก เพราะว่านั่นคือฐานเสียง ฐานกำลัง ฐานกองเชียร์ที่คุณจะกอบโกยมากที่สุด เพื่อเป็นตัวดันหลังให้คุณประสบความสำเร็จครับ”
บอกการปักตะกร้าขายของถือเป็นเรื่องปกติ
“เริ่มจากการปักตะกร้า สวย แต่ต้องปักตะกร้า อันนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะเราหาเงินให้กับน้องๆ ทุกคนอยู่แล้ว อย่าไปคิดอะไรเยอะ ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป เราก็ยังคงยึดมั่น เราเป็นตัวเรา ถ้าใครสนใจที่เป็นตัวเรา ก็สามารถมาจอยกับเราได้ แต่ถ้าใครไม่สนใจที่เป็นลักษณะเรา ก็เลือกไม่บริโภคได้ เราไม่ว่ากัน เราจะไม่ไปบลัฟซึ่งกันและกัน เพราะเป็นเส้นทางคนละเส้นทางกันครับ มันเป็นเรื่องแล้วแต่ความคิด ผมว่านะใครคิดอะไรก็แล้วแต่ มันไม่ผิดหรอกครับ แต่สุดท้ายคนที่ไปก่อนก็ย่อมประสบความสำเร็จก่อน ถามว่าใครไม่ทำบ้าง
ผมสรุปง่ายๆ เลยนะ ทุกคนอยากทำหมด แต่ทำเป็นหรือเปล่าเท่านั้นเอง หลายๆ คนที่ไลฟ์คนดูแค่หลักสิบ หลักร้อยมันก็ยาก ผมเข้าใจ บางคนนั่งขายตั้งนานได้แค่ 1-2 ออเดอร์หรือ 10 ออเดอร์ ผมก็เข้าใจ ความพยายามของคุณต้องเพิ่มขึ้น แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ แต่ไม่ใช่ว่าคุณล้มเลิกในสิ่งที่คุณอยากทำ แล้วคุณกลับมาพูดว่าถ้าเกิดสวยแล้วไม่ต้องปักตะกร้า ผมว่ามันก็เป็นการปลอบประโลมจิตใจคุณ แต่ความสำเร็จจะไม่มาเยือนคุณก็แค่นั้น”
บอกเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มีปักตะกร้าแน่นอน ใครที่ไม่ชอบ ไม่ต้องมาให้เสียเวลา
“กชเบล (ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์) ถือว่าเป็นตัวเต็งสำหรับการปักตะกร้า ตั้งแต่เริ่มประกวดจนถึงตอนนี้ ผมว่ากชเบลได้ปักตะกร้าไปแล้วรวมถึงงานที่ทำไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน เพราะว่าเดือนแรกที่เขาลงมาจากเวทีเขาได้หลัก 10 ล้าน และช่วงระหว่างแข่งขันเขาได้อีกประมาณ 10 ล้าน แมตซ์สุดท้ายเขาได้ 6 ล้าน และมีรับจ้างอีกรายละล้าน อย่างน้อยน้องต้องถึง 30 กว่าล้าน แล้วรองๆ ลงมาก็มีหลายคนนะครับ ก็ถือว่าเป็นอาชีพนึงที่มั่นคง ลองคิดดูนะ 10 ล้านน้องก็ได้ 1 ล้าน 30 ล้านน้องก็ได้ 3 ล้าน นี่คือรายรับที่บริสุทธิ์และมาจากลำแข้ง ฝีไม้ลายมือตัวเอง น่าที่จะเคารพมากกว่าที่จะไปคิดเป็นอย่างอื่น
ยังไงมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ก็ปักตะกร้านะครับ ถ้าใครคิดว่าไม่อยากปัก ถอนตัวได้เลย ไม่ต้องประกวด เพราะที่นี่ยังไงก็ปัก เพราะมันคือเรื่องงาน เพราะเราบอกแล้ว B ที่ 1 คือ Business ถ้าใครไม่ปักก็เหลือ 2B จะมาทำไมให้ตกรอบ มาทำไมให้เสียเวลา อย่ารั้งกันเลยดีกว่า ถ้าไม่ปักก็รีบไปครับ มีที่ไม่ปักเยอะแยะ ไปเลยครับ”
ไม่ขอพูดถึง “หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์” ไม่ขอตอบโต้ด้วยอีก
“ไม่เอาแล้ว ไม่อยากคุย คนนี้ผมไม่ตอบโต้เลย ที่ไม่ตอบโต้ไม่ได้หมายความว่าอะไร แต่ผมไม่อยากที่จะเอาสิ่งที่เรากำลังดำเนินอยู่ไปเรื่อยเปื่อย มากเรื่องมากความ มันไม่มีประโยชน์สำหรับผมเลย ผมยืนยันคำนั้น เขาเริ่มต้นก่อน ผมตอบโต้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ผมมีสิทธิ์ หลังจากผมตอบโต้ เขาตอบโต้กลับ ผมขอหยุด ก็เป็นสิทธิ์ของผม ไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่าอะไรใดๆ กับผมเลย จะซัปพอร์ตใคร จะทำอะไร จะดีแค่ไหนเป็นสิทธิ์ที่เขาทำได้ ผมยังยืนยันเหมือนเดิม และอย่าไปตำหนิเลยครับว่าที่ผ่านมาขายได้เท่าไหร่ ถ้าคุณจะพูดคุณต้องพูดตั้งแต่ทำงานเสร็จ ถ้าไม่พอใจอะไรก็แล้วแต่ พูดเลย แต่ไม่ใช่เอาเก็บไว้ แล้วตอนนี้มาพูดเพื่ออะไร
ไม่ได้เกี่ยวกับผมนะ เพราะนั่นคือมิสแกรนด์กรุงเทพฯ และเขาใช้มิสแกรนด์กรุงเทพฯ เป็นของจังหวัด ไม่ได้ใช้กองผม เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่าเสียใจแทนก็คือผมเสียใจแทนผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์กรุงเทพฯ มากกว่า และเสียใจกับน้อง เพราะทุกคนทำงานด้วยความตั้งใจ ถ้าไม่ถูกใจบอกกันได้เลย ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ และบอกเลยทันทีดีกว่ามาบอกตอนนี้ ก็เลยกลายเป็นว่าหรือมันคือวัตถุประสงค์อื่น”
ยืนยันไม่ขอร่วมงานด้วยอีก
“บอกแล้วว่าพื้นที่นี้มีไว้สำหรับพวกเรา เราก็ไม่รู้จักวงการอื่น เรารู้จักเฉพาะวงการนางงามและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มันเป็นพืันที่ของพวกเรา บางทีนักวิชาการเขาอาจจะไม่เข้าใจเรา เหมือนหมออีกท่านนึงผมก็ไม่ได้พูดถึง เพราะผมคิดว่าเขาไม่รู้จักวงการเราหรอก เขาอยากจะพูดก็ไม่เป็นไร แล้วแต่เขา ให้เราอยู่แบบเราดีกว่า แล้วก็ทำงานตามสไตล์ของพวกเรา คนที่เติบโตมาด้วยกันจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นเราไม่ว่ากัน เราให้เกียรติเขา จะพูดอีกเราก็ให้เกียรติ เราไม่ได้ตอบโต้และไม่ได้ให้ความรู้สึกอะไร ก็เคยคุยกัน เคยเจอกันที่ออฟฟิศผม แต่ตอนนี้ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นครับ
ถ้าผมพูดว่าไม่รู้จัก เขาก็จะบอกว่าคิดเหรอว่าใครอยากรู้จัก ก็เอาเป็นว่าเราเคยรู้จักกัน เบอร์มี ไลน์มี และเคยมาหาที่ออฟฟิศ เคยรู้จักกับคนที่ผมสนิท และเคยร่วมงานกัน เปิดงานกันหลายที่ ก็ถือว่าเป็นอดีตที่เราเคยมีความผูกพันในลักษณะนึง แต่ ณ ตอนนี้ไม่มีอะไรครับ หลังจากนี้ก็คงไม่มีอะไรจะต้องร่วมกันครับ เราก็พูดไปชัดเจนว่าเราไม่เอา แจ้งไปทุกจังหวัดแล้วด้วย การเอาหรือไม่เอาเป็นสิทธิส่วนตัวของผมนะครับ ไม่ต้องไปคิดอย่างอื่นว่าไปถามเขาหรือยังว่าจะเอาไหม เราไม่จำเป็นต้องรอถามใคร เพราะว่าตนเป็นที่พึ่งและใช้สิทธิของตัวเองแชร์ออกไป ที่เราพูดไปแบบนี้คือเราชัดเจนแล้วเราถึงพูด
เขาก็มีสิทธิที่จะพูดและทำอะไรก็ได้ แต่เราขออยู่เงียบๆ ของเรา เหมือนตอนนี้ผมก็ไม่ได้ตอบโต้ใครแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอวตารองค์ไหนก็แล้วแต่ แม้จะนัวเนียกับผมไม่เลิก ผมก็ให้ทนายของบริษัทเป็นคนดูแล ก็คือยุติความรู้สึกไปให้หมด เพราะว่ามันเกินกว่าการเยียวยาในบางกรณีครับ ก็คือไม่ยุ่งครับ ไม่ได้หมายถึงเคสนี้นะ หมายถึงเคสทั่วๆ ไปที่กำลังเข้าคิวมิส สน.อยู่นะครับ”
บอกเร็วๆ นี้ได้เห็นแน่ว่าจะมีมิส สน. กี่คน
“เราทำให้เห็นว่าเราทำงานไม่ได้พูดอย่างเดียว เราทำให้เห็นภาพ เรามีมิส สน. รอบสุดท้ายเพิ่งเข้าประกวดจริงๆ ถ้าทำทันภายในอาทิตย์นี้ก็อาจจะแจ้งว่ามีประมาณกี่ราย ผมเคยฟ้องที่ชัดเจนเลยมีประมาณ 3 รายในประวัติศาสตร์ที่มาจริงๆ และโดนจริงๆ ที่เหลือส่วนมากมาอภัยนอกรอบ และครั้งนี้มีความรู้สึกว่ามันเริ่มใส่ร้ายกันหนักเกิน การใส่ร้ายคนมันทำให้คนเชื่อไปเรื่อยเปื่อย ผมถึงต้องท้าออกรายการว่าผมให้เงิน 100 ล้าน ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงนะ แต่ผมก็ยังไม่เสียเงิน 100 ล้านจนวันนี้ ผมเป็นคนชัดเจน เมื่อผมคิดว่ามันเยอะไปแล้ว เจ้าหน้าที่ของบริษัทก็มีหน้าที่ต้องดูแลผมและแบรนด์ของบริษัท ก็เลยเป็นทนายของบริษัท และเป็นคณะกรรมการความเสี่ยงของบริษัท
ซึ่งบริษัทเราคณะกรรมการคือสภาทนายความแห่งประเทศไทย เราพูดได้เลย ดร.วิเชียร ชุบไธสง ก็ถือว่าใหญ่ที่สุด และมาทำหน้าที่ในบริษัทเรา เป็นทั้งคณะกรรมการอิสระความเสี่ยง เป็นทั้งบอร์ดบริษัท เขาก็ไม่ยอม เพราะฉะนั้นวันนั้นที่มากันคือทนายเบอร์ต้นๆ ประมาณ 5-6 คน เพื่อมาลงลึกในทุกคลิปว่าฟังแล้วคลิปนี้บอกอะไรบ้าง เข้าข่ายไหม มีโอกาสเข้าข่ายกี่เปอร์เซ็นต์ และทางเขาก็เอากลับไปเพื่อดูแลอีกครั้งนึง และจะประกาศผลผู้เข้ารอบ
พูดง่ายๆ อย่างแรกคือการใส่ความเท็จ ก็คือการให้ร้ายผู้อื่นโดยใช้ข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบเพื่อให้ผู้อื่นเสียหาย ก็คือการหมิ่นประมาทแบบชัดเจน อย่างที่สอง การใช้คำไม่สุภาพ เป็นคำที่ผิดตามกฎหมาย อย่างที่สามการที่กล่าวถึง แต่ใช้เทคนิคไม่พูดชื่อ ปัจจุบันการไม่พูดชื่อมันก็หมิ่นประมาท แต่ยุคเก่าคือคนที่ชอบใช้อักษรย่อเพื่อให้ตัวเองรอด แต่ปัจจุบันถ้าคุณบอกว่านักแสดง ก. แล้วคุณบอกลักษณะที่บอกได้ว่าเขาคือใคร คุณก็โดน และถ้าบอกว่า ก. แล้วมีคนเฉลยอยู่ข้างล่าง คุณก็โดน เพราะฉะนั้นมันมีโอกาสโดนได้เสมอ ก็เดี๋ยวคอยดูผลอีกทีครับ”
ไม่สน “มิสแกรนด์ฝรั่งเศส” ขอสละตำแหน่ง
“มิสแกรนด์ฝรั่งเศสเหรอ ปล่อยเขาไปเถอะ ถามว่าเรารู้ก่อนไหม ไม่รู้ ใครจะไปรู้เรื่องของเขา เขาอยากทำก็ทำ แต่ตอนนี้เราได้ท็อปเท็นใหม่แล้วเรียบร้อย เรามาฉลองคนใหม่ดีกว่า รองทั้ง 5 และที่ 1 ครบถ้วน เรามีความสุขของเรา ปล่อยเขาไปเถอะ คนที่ทำอะไรแปลกๆ มักจะไม่ได้ผลลัพธ์อะไรเสมอ ปล่อยเขาไปอย่าไปสนใจครับ เอาจริงๆ ไม่ได้อ่านครับ เราไม่ได้ให้ความสำคัญถึงขนาดต้องไปอ่าน คนแบบนั้นเราจะไปเอาอะไร
เราเหนื่อยแล้ว ไม่อยากเอา แม้กระทั่งอินเดียตอนนี้ก็ได้ข่าวว่าจะไปเวทีโน้นเวทีนี้ เอาไปเลย เห็นโพสต์ว่าอยากไปเวทีโน้นนี้ ไปเลย ถ้าไปแล้วยังไปไหนได้ก็ไปเลย ไปไกลๆ ด้วย คิดว่าเป็นอาถรรพ์ไหมท็อป 5 เหลือแค่ 2 ยังดีไม่เหลือคนเดียวนะ เรามองโลกในแง่ดี เหลือ 2 ดีกว่าเหลือ 1 ไม่เป็นไรหรอกครับ ธรรมะจัดสรร คนไม่ดีหรือสิ่งต่างๆ มันเกิดขึ้นคือประสบการณ์ในการเคลียร์ แลนซ์ เซลล์ ก็ถือว่าเราล้างสต็อก ควบคู่ไปกับการล้างซวย (หัวเราะ)”
ยินดีถ้า “เต๋า ทีวีพูล” และ “ลีน่า จัง” จะฟ้องกลับตน ขอให้รีบๆ ฟ้อง รออยู่
“ตามสบายครับ ยินดี เป็นสิทธิของใครของมันครับ ถ้าเขาคิดว่าสิทธิของเขาจะฟ้องเราได้ เชิญเลยครับ มันเป็นเรื่องปกติ สิทธิเราคือของเรา สิทธิเขาคือของเขา เขาอยากฟ้อง ฟ้องเลย ไม่มีปัญหา ยินดีครับ รอให้ฟ้องอยู่ เต็มที่เลยครับ กี่คดีก็ได้เชิญครับ ขอให้ชัด ขอให้มั่น มาเลยครับ ไม่มีปัญหา รออยู่นะ มาเร็วๆ อย่าช้า รีบฟ้อง”
