xs
xsm
sm
md
lg

“นิว ชัยพล” เล่านาทีชีวิตลูกคนที่ 2 คลอดก่อนกำหนด ด้าน “เมษา” ยังไม่พร้อมปิดอู่ ตั้งเป้ามีลูก 4 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นิว ชัยพล - เมษา” เล่านาทีชีวิตลูกคลอดก่อนกำหนด รับแปลกใจท้องนี้คลอดธรรมชาติ ทั้งๆ ที่ท้องแรกผ่าคลอด เหมือนสิ่งที่แปลกใหม่ในประเทศไทย บอกมีความสุขได้ใช้เวลากับลูกๆ ลั่นยังไม่ปิดอู่ตั้งเป้ามี 4 คน เผยท้องต่อไปเป็นแฝดก็จบเลย แพลนกลับมารับงานละครควบคู่เลี้ยงลูก

หลังจากที่นักแสดงหนุ่ม “นิว ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต”ได้ออกมาแจ้งข่าวดีว่าทายาทคนที่ 2 ได้ลืมตาดูโลกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการคลอดของภรรยา “เมษา กิตติมา วงศ์สวัสดิ์” ในครั้งนี้ได้มีเหตุที่ต้องพากันเข้าห้องคลอดฉุกเฉินและต้องคลอดก่อนกำหนด ล่าสุดได้เจอ นิว ชัยพล ที่มาพร้อมภรรยา เลยได้ถามไถ่ถึงเรื่องนี้ว่า

เมษา : “นาทีชีวิตเลยค่ะ ประสบการณ์ชีวิต ก็เป็นการคลอดแบบฉุกเฉิน แต่ว่าทุกอย่างก็ปลอดภัยผ่านมาได้ด้วยดี

นิว : “ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วเราดูฤกษ์ไว้ว่าเป็นวันเสาร์ แต่พอดีว่าคืนนั้นประมาณตีหนึ่งตีสอง เมษาเริ่มปวดท้องขึ้นมา เขาก็ปลุกเราขึ้นมาบอกว่าปวดท้องถี่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัญญาณที่จะคลอดธรรมชาติเอง แต่เราก็แปลกใจว่าเราเคยผ่าคลอดมา เราก็เลยรีบไปโรงพยาบาลปรากฎว่าปากมดลูกเปิดครบ 10 เซนฯ แล้ว หมอก็มาฉุกเฉินตอนนั้น แล้วก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นต้องคลอดธรรมชาติ 

เราก็ตกใจกันมากเพราะว่าปกติแล้วถ้าผ่าคลอดมาท้องต่อไปก็ต้องผ่าคลอดไม่ใช่เหรอ แต่กลายเป็นว่าเราต้องคลอดธรรมชาติมันก็เลยเป็นเหมือนสิ่งที่แปลกใหม่ในประเทศไทยเล็กน้อย รวมถึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะฉุกเฉินหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณหมอที่ทำให้เก่งมากๆ ทำให้ทุกอย่างปลอดภัยดีแต่ว่าทุกอย่างฉุกเฉินจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เข้าห้องคลอดด้วย

คลอดที่ห้องรอคลอดเลยทุกอย่างเข็นมาตรงนั้นคลอดตรงนั้นเลย จริงๆ มันก็เกิดขึ้นได้ก็แนะนำคุณพ่อคุณแม่ว่าถ้าเริ่มมีอาการอะไรก็แล้วแต่ไปโรงพยาบาลสำคัญสุดเลยถ้าไปช้ากว่านั้นมีสิทธิ์ที่จะอันตรายของชีวิตได้ถามว่าเครียดไหม ณ ตอนนั้น ไม่เครียดเลย เพราะตั้งใจจะไปหาคุณหมอ ก็ไม่รู้ว่ามันอันตรายขนาดนี้แต่พี่สาวเขาบอกว่าให้รีบไปหาคุณหมอดีกว่า”

เมษา : “เหมือนจริงๆ ต้องเล่าว่าตอนแรกเรายังไม่เครียดเพราะว่าเราไม่เคยคลอดธรรมชาติก็เลยไม่รู้ว่าอาการเป็นยังไงบ้าง แต่เขาบอกว่าต้องมีอาการท้องแข็งเจ็บท้องทุกๆ 1-2 นาที มีมูกเลือด มีน้ำคร่ำแตก ซึ่งตอนแรกเหมือนเราปวดท้องเฉยๆ แล้วท้องมันก็แข็งแต่ไม่ได้ทุกนาที เลยรู้สึกว่าอาจจะยังไม่ใช่เจ็บเตือนหรือเปล่า 

สักพักนึงเวลาผ่านไปไม่นานอาการทุกอย่างมันค่อยๆ มาแล้วมันมาแบบเร็วมาก อย่างเขาบอกว่าปากมดลูกจะเปิดใช้เวลาเป็นวันแต่ของเราคือไม่กี่ชั่วโมง ไปถึงโรงพยาบาลปุ๊บเปิด 10 เซนฯ ซึ่งสิ่งที่ต้องบอกว่าตอนแรกยังไม่เครียดเพราะว่าปวดท้องเราก็คิดว่าเป็นโปรเซสปกติไปถึงคุณหมอคงมาแล้วก็ผ่าปกติ แต่พอไปถึงคุณหมอดันบอกว่าผ่าไม่ได้แล้วเห็นผมเด็กแล้วจะออกมาแล้ว”

นิว : “คุณหมอมาถึงคือปากมดลูกเปิดจนจับโดนผมน้องแล้ว”

เมษา : “แล้วก็บอกว่าต้องคลอดธรรมชาติแล้ว ตอนนั้นก็เริ่มเครียดเพราะว่าเราเคยได้ยินเรื่องมาว่าถ้าผ่าท้องแรกท้องสองก็ต้องผ่า เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่มดลูกจะแตกแผลจะปริหรือเป็นอันตรายทั้งแม่ทั้งลูก แต่ว่า ณ วินาทีนั้นเรารู้สึกว่าต้องเชื่อใจคุณหมอซึ่งคุณหมอก็มีการอธิบายว่าเพราะลูกลงมาต่ำมากๆ แล้วถ้าตอนนั้นต้องเลือกระหว่างผ่าแล้วดึงย้อนขึ้นมากับคลอดธรรมชาติซึ่งเสี่ยงเหมือนกันเนี่ยเขาแนะนำว่าคลอดธรรมชาติจะดีกว่า ก็เลยเป็นไปตามนั้น”

เผยน้องแข็งแรงปลอดภัยดี
นิว : “แข็งแรงปกติครับ”

เมษา : “แข็งแรงปลอดภัยทุกอย่างมาก จริงๆ ถือว่าคลอดค่อนข้างง่ายเบ่งประมาณ 3 ทีก็ออกเลย แล้วก็ขอบคุณพี่นิวด้วยคือช่วยทุกอย่างเลย กลายเป็นบุรุษพยาบาลท่านหนึ่งเลยเพราะว่าไม่ได้เข้าห้องคลอดจริงๆ อยู่ห้องเตรียมคลอดเขาต้องช่วย ช่วยย้ายเตียงช่วยเปลี่ยนชุดทุกอย่าง”

นิว : “เราก็ต้องเข็นเตียงเพราะหมอต้องเอาไฟเข้ามา เอาตู้อบเด็กเข้ามา เพื่อรักษาอุณหภูมิ ต้องทำอะไรเยอะมากวันนั้นก็เป็นอะไรที่ไม่ทันได้ตื่นเต้นทุกอย่างมันฉุกเฉินหมดแต่ว่าก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดีครับ ตอนนี้ครบหนึ่งเดือนแล้ว”

เมษา : "ดีค่ะแข็งแรงดีเลี้ยงง่าย กินเก่งมากค่ะ ตอนนี้น้ำหนักเยอะมาก 4.5 โลแล้ว"

นิว : “เกินเกณฑ์ไปนิดนึงแต่ว่าก็ไม่เป็นไรเพราะว่าตอนทิวทัศน์ก็เกินเหมือนกัน แต่เราเลี้ยงด้วยนมแม่ 100 เปอร์เซ็นต์เราก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วเกินเกณฑ์ก็ไม่เป็นไรให้เขากินให้อิ่มและให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะว่านมแม่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับทารกอยู่แล้ว”

เผยทิวทัศน์ช่วยเลี้ยงน้องได้ดีมาก
เมษา : “ช่วยมาก”

นิว : “ทุกวันครับ หอมเช้าหอมเย็น น้องชื่ออะไรครับ”

ทิวทัศน์ : “น้องฟ้า”

นิว : “น้องน่านฟ้าครับ ก็หอมเช้าหอมเย็น หอมทั้งวัน อยากอุ้มน้องตลอดเวลา”

บอกหลังคลอดฉุกเฉินต้องฟื้นฟูร่างกายเพราะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เมษา : “ดูแลปกติ คือจริงๆ ถามส่วนตัวคิดว่าคลอดธรรมชาติเนี่ยฟื้นตัวเร็วกว่าผ่าถ้าถามเรานะ แต่ว่าถ้าเทียบกับคนที่คลอดธรรมชาติปกติกับของเราที่ฉุกเฉินจริงๆ ก็มีปัญหาบางอย่างเหมือนกัน ที่เราเจอด้วยความที่น้องน่านฟ้าตัวค่อนข้างใหญ่คือออกมาเนี่ย 3.55 คือจริงๆ เขาบอกว่าถ้าเกิน 3.5 ไม่แนะนำให้คลอดธรรมชาติด้วยเพราะเด็กตัวใหญ่ อย่างตอนที่คลอดออกมาใหม่ๆ ก็จะมีปัญหาเรื่องการปัสสาวะไม่ปกติก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูค่ะ”

นิว : “ใช้เวลาในเรื่องของพอน้องตัวใหญ่แล้วก็ไปชนกับกระเพาะปัสสาวะทำให้อักเสบและมีแผลในนั้นก็ต้องใช้เวลาฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น ตอนนั้นอยู่โรงพยาบาลนานขึ้นด้วยเพราะคุณหมออยากเฝ้าดูอาการให้ปลอดภัยที่สุดก่อนที่จะกลับบ้าน แต่ตอนนี้ก็ปกติแล้ว”

ยังไม่ปิดอู่ อยากมีลูก 4 คน
นิว : “ลูกสาว ลูกชาย ครบแล้วไหม”

เมษา : “ครบทั้งสองเพศค่ะ อยากไปต่ออีก ได้ไหม (หันไปถามนิว)

นิว : “คุณแม่อยากไปต่ออีก”

เมษา : “ปกติจะมีแต่คุณพ่ออยากไปคุณแม่จะพอ แต่อันนี้คือถ้าถามเรา เรารู้สึกว่าอยากมีอีก รู้สึกว่ามีลูกแล้วค่อนข้างจะเติมเต็มชีวิตและเราทั้งคู่รู้สึกว่ามีความสุขในการเลี้ยงลูกสนุกในการเลี้ยงลูกและเห็นพัฒนาการของเขาเติบโต รู้สึกว่ามันเติมเต็มครอบครัวเรา แล้วตอนนี้รู้สึกว่าถ้าถามว่ามี 2 คนก็ยังคิดว่าน่าจะไปต่อไหว แต่ก็คุยๆ กันว่า เดี๋ยวดูก่อนอีกทีนึงแล้วกันแต่ยังไม่ถือว่าปิดอู่ ก็อยากมีไม่เกิน 4 คน”

นิว : “2-4”

เมษา : “ขั้นต่ำคืออยากมี 2 อยากให้เขามีพี่น้องกัน แต่ยิ่งมีเยอะมันก็ยิ่งสนุกสนานแล้วก็อบอุ่น ลึกๆ เราก็ยังอยากมีอีก”

ไม่อยากกำหนดเพศปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ
นิว : “ก็แล้วแต่ครับเราเป็นครอบครัวที่รอธรรมชาติอย่างเดียวไม่ได้ไปกำหนดเพศเขาต้องไปทำหรืออะไร ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ ก็อยู่ที่ว่าคนต่อไปถ้าจะมาเป็นเพศชายเพศหญิงก็แล้วแต่

เมษา : "ถ้าจะมาเป็นแฝด ก็แล้วแต่ ก็ปิดอู่ได้เลย”

นิว : “ถ้าแฝดก็ปิดอู่ได้เลย 100 เปอร์เซ็นต์ครับผม ไหวครับไหว ก็ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่เราอยู่ด้วยมา 2 ปีแล้ว มีความสุข ถามว่าเหนื่อยไหม มากครับ แต่ก็มีความสุขมากเช่นกัน ตอนนี้ก็ไม่ได้ถ่ายซีรีส์หรือละครมาหนึ่งปีกว่าๆ แล้ว

เรามาอยู่กับน้องทิวทัศน์กับน้องน่านฟ้ามาก็รู้สึกว่าอยากจะบอกพ่อแม่มือใหม่ทุกคนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของลูกไม่ใช่เงินหรืออะไรทั้งนั้นแต่คือเวลาที่มันมีให้เขา ไม่ว่าจะสอนอะไรหรือทำอะไรก็แล้วแต่แค่เรามีเวลาอยู่กับเขาโตไปพร้อมกับเขา เขาจะเห็นว่าเราเป็นแบบอย่างพัฒนาการต่างๆ เขาจะมาเร็วมากๆ

จากสิ่งที่เราเจอมาประสบการณ์ของเราที่เลี้ยงทิวทัศน์มา 1 ปีเต็ม จะรู้ว่าเขามีพัฒนาการที่ดีมากๆ แล้วก็เร็วมากเราอยู่กับเขา 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีมือถืออะไรทั้งนั้นกลายเป็นว่าเขาโฟกัสกับเราเห็นเราเป็นตัวอย่าง ทำตามเราถามเราคุยกับเราแม้ว่าจะถามซ้ำๆ แต่ทำไปครับพัฒนาการเขาและทำให้เขาออกมาเป็นฐานที่สำคัญมากๆ สำหรับเด็กคนหนึ่ง เราก็จะทำกับน่านฟ้าเช่นเดียวกันทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วกันแต่ตอนนี้ก็เริ่มกลับมารับงานแล้วครับก็จะแบ่งอะไรให้เต็มที่”

เคาะสนิมกลับมาทำงานในวงการบันเทิง
เมษา : “จ้างได้ค่ะ ติดต่อมาได้”

นิว : “ตอนนี้ก็เริ่มพิจารณาแล้วว่าจะเริ่มเรื่องไหนบ้างก็มีติดต่อมาหลายเรื่องเหมือนกัน แต่ก็อยากจะทำทีละเรื่อง เพราะมีอีกหนึ่งหน้าที่ที่เป็นคุณพ่ออย่างเต็มตัวด้วย ก็ขอทีละเรื่องแล้วก็อยากจะเลือกเรื่องที่เราออกไปทำแล้วเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ให้มากที่สุด ก็อยากจะทำ 2 สิ่งที่เรารักให้ได้ดีที่สุดครับผม”

เมษา : “โอเคค่ะ ไม่เคยขอว่าต้องเลิกทำงานแต่ว่าเขาเองที่เป็นคนอยากใช้เวลาอยู่กับลูกด้วย ดังนั้นเราก็รู้สึกว่าการที่เขาอยากจะกลับไปรับงานในวงการเราไม่เคยห้ามเลย เพราะมันก็เป็นอีกหนึ่งความสุขของเขาและที่สำคัญคือเป็นกำลังทรัพย์ของครอบครัว (หัวเราะ) อย่างตอนนี้ก็โอเคเพราะว่าเราลาคลอดอยู่อารมณ์เหมือนแปะมือกันตอนนี้เราก็มาโฟกัสในการเลี้ยงลูกคนเล็กก็กะว่าจะให้นมแม่ 1 ปี ให้นม 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็ดูลูกอยู่แล้ว แล้วก็ช่วยดูลูกคนโตได้ก็แปะมือกันกลับไปทำงานได้ค่ะ



















กำลังโหลดความคิดเห็น