“เตย เมษินี” เม้าธ์สามี “โจอี้ บอย” สอบผ่านช่วยเลี้ยง “น้องโซอี้” ได้ดี เผยเปลี่ยนไปแบบคาดไม่ถึง กลายเป็นแด๊ดดี้สายอบอุ่น ประทับใจไม่ลืมเมียหาเวลาสวีต ส่วนลูกคนที่ 2 ขอเบรกก่อนเพราะยังไม่อยากเหนื่อยอีกรอบ แพลนสร้างบ้านใหม่-หาโรงเรียนให้ลูกสาวแล้ว
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคุณแม่ที่ทั้งสาวและสวยมากจริงๆ สำหรับ “เตย เมษินี เจตวงษ์” ภรรยาของแรปเปอร์ชื่อดัง “โจอี้ บอย” หรือ “อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต” หลังให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อย “น้องโซอี้” ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ล่าสุด เตย เมษินี อุ้มลูกสาววัย 4 เดือน มาร่วมงานแถลงข่าว “MamyPoko X Butterbaer” ที่ ลานอีเดน 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมทั้งเผยถึงพัฒนาการว่าลูกสาวเป็นเด็กเลี้ยงง่าย เห็นใครคุยก็อยากคุยด้วย
“ดีค่ะเพราะว่าตอนนี้น้อง 4 เดือน เริ่มมีหยิบจับของเข้าปาก เพิ่งไปเจอคุณหมอก็พัฒนาการดีมากๆ ค่ะ ถามว่าเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไหม ถ้าคนอื่นก็บอกว่าเลี้ยงง่าย แต่เราลูกคนแรกรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กเรียบร้อย ก็สำหรับเราก็เลี้ยงง่ายค่ะ
ตอนนี้ก็เริ่มพูดแล้ว เริ่มมีเสียงอ้อแอ้ แต่ว่าอาจจะยังไม่เป็นคำอะไร แต่เวลาเห็นเขาคุยกันก็อยากจะคุยด้วย คุณพ่อเห่อค่ะ ดูแลลูกดีมากๆ ค่ะ เขาก็จะคอยเล่นกับลูกตอนเช้า ตื่นมาคุณพ่อเขาก็จะมาหาลูกก่อน”
งง “โจอี้ บอย” เปลี่ยนไปแบบคาดไม่ถึง กลายเป็นแด๊ดดี้สายอบอุ่น
“จริงๆ เขาเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลยนะคะ คือตั้งแต่คบกันแล้วก็เริ่มแต่งงาน เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เขามีความอบอุ่นมากขึ้นในแบบที่เราก็ไม่เคยเห็น แล้วพอมีลูกขึ้นมา เป็นคุณพ่อที่น่ารักมากๆ อย่างที่เราคาดไม่ถึงเลย
ตอนนี้เป็นคุณแด๊ดดี้สายอบอุ่นไปแล้ว ใช่ค่ะ เขาจะเน้นแบบช่วงนี้กิจกรรมก็เน้นกีฬา กับกลับบ้านมาเล่นกับลูก เขาก็จะดูแลสุขภาพมากขึ้น ตอนนี้ก็เน้นติดน้อง ตอนนี้เหมือนพี่โจ้ผ่อนงานลงเพื่อที่จะให้อยู่กับลูกมากขึ้น แต่ก็ยังมีแบบว่าอะไรที่น่าสนใจเขาก็ยังรับอยู่ เตยว่าเขาอยากอยู่กับลูกมากกว่า เวลาไปต่างจังหวัดหรืออะไรเขารู้สึกว่าเขาห่างลูกช่วงนี้ลูกกำลังน่ารัก
ถามว่าเคยคิดไหมว่าเราจะเห็นโมเมนต์นี้จากพี่โจอี้ คือมันก็เกินคาดค่ะ เพราะว่าพอเราเห็นเขาอยู่กับลูกภาพนั้นตอนเช้าๆ แล้วเป็นธรรมชาติเราก็จะรู้สึกว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนน่ารักมากๆ คนนึงเลย อ่อนโยนเป็นโมเมนต์ที่เขาอยู่กับลูกเราก็ใจฟู”
โวสามีสอบผ่านในการเลี้ยงลูก บอกอาบน้ำให้ลูกเก่งกว่าตนเสียอีก
“ใครเห่อกว่ากัน เตยว่ามันคนละแบบ คือประมาณว่าเราก็จะมีหน้าที่เลี้ยงลูกทั้งวันทั้งคืน ตอนกลางคืนเราก็จะให้เข้าเต้าอะไรใดๆ แต่ว่าตอนเช้าหรือช่วงที่พี่โจ้เขาว่างก็จะเป็นเขาที่มีหน้าที่เล่นกับลูกซะส่วนใหญ่ ถือว่าสอบผ่านค่ะ คือจริงๆ เราว่าพ่อกับแม่มีหน้าที่ต่างกัน คือเราอาจจะแบ่งกันว่าใครทำอะไรยังไง อย่างพี่โจ้ไม่ได้เก่งในส่วนของเปลี่ยนแพมเพิส เขาชอบอาบน้ำให้ลูกนะ เราอาบน้ำให้ลูกน้อยกว่าพี่โจ้อีก พี่โจ้เขาจะชอบอาบน้ำให้ลูก เขาชอบเห็นลูกแบบเล่นน้ำ”
เผยสามีอยากมีลูกสองคน
“เราว่าพี่โจ้อยากจะมีคนต่อไป แต่เราแอบรู้สึกเหนื่อยนิดนึงขอพักก่อน คุณหมอก็แนะนำให้ผ่านไปสักปีสองปีก่อน จะปีนึงก็ได้หรือว่าสองปีเพราะว่าด้วยสภาพร่างกายของคุณแม่ที่จะแข็งแรงขึ้นก็อาจจะพร้อมสำหรับพี่คนโตที่เขาจะมีภาวะเป็นพี่มากกว่า ก็เลยอาจจะเป็นเรื่องของอนาคตต่อไป
ถามว่าในใจเราอยากจะมีสักกี่คน เราอยากมีแค่คนเดียว แต่พี่โจ้อยากมีสองคน ตอนนี้เราเหมือนเพิ่งผ่านการมีลูกมา ซึ่งเขาก็โตขึ้นเรื่อยๆ เราก็อยากซึมซับโมเมนต์นี้ไปแบบค่อยๆ สโลว์ๆ ยังแบบไม่อยากเหนื่อยอีกรอบ”
รับมีลูกเวลาครึ่งชีวิตจะหายไป
“หลายคนชมสวย ไม่ขนาดนั้นเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังเวิร์กเอาต์กับตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ (ดูแลตัวเองยังไงบ้างหลังมีลูกกับการพักผ่อน?) เราว่าต้องแบ่งเวลา ต้องยอมรับว่าการมีลูกต้องทำให้เราแบ่งเวลาครึ่งนึงของชีวิตไปกับลูก บางครั้งคุณแม่อาจจะรู้สึกท้อว่าทำไมเราถึงไม่มีเวลาให้ตัวเอง ตั้งใจทำอย่างนี้ไว้แต่มันทำไม่ได้ อยากบอกว่าเป็นเรื่องปกติมากเลย สมมติว่าเราตั้งวันหนึ่งว่าช่วงนี้ออกกำลังกาย ช่วงนี้พักผ่อน”
กลับมาสวีตหวานเหมือนเดิมแล้ว
“ช่วงแรกที่ลูกคลอดก็น้อยลง เพราะว่าเราต้องเน้นเวลาให้ลูกเยอะมากๆ แต่ตอนนี้เราคิดว่าค่อนข้างที่จะลงตัว เหมือนพี่โจ้เขาก็จะน่ารัก แบบว่าเธอวันนี้ไปเที่ยวกันไหม วันนี้ไปกินข้าวกันไหม เขาก็จะพาเราไปกินข้าวเย็นกันสองคน ฝากพี่เลี้ยงไว้อะไรแบบนี้ ก็จะมีโมเมนต์นั้นซึ่งเราก็รู้สึกน่าประทับใจว่าเขาก็คิดถึงเราตลอดเวลา”
โชคดีที่ตนไม่มีอาการซึมเศร้าหลังคลอด
“เราว่าเราไม่มีนะคะ เพราะว่าเหมือนเราเอ็นจอย ไม่เครียดอะไรเลย คิดว่าเป็นคนโชคดี คิดว่าเรื่องซึมเศร้าเป็นเรื่องของฮอร์โมน คือจริงๆ มันก็เป็นได้กับทุกคน แต่ว่าบางคนร่างกายไม่ได้มีความผิดปกติหรือว่าฮอร์โมนโอเคอาจจะไม่ได้มีปัญหาตรงนั้น แต่ว่าเราแค่โชคดีเฉยๆ แล้วก็คนรอบตัวด้วยค่ะ แฮปปี้ด้วย”
เตรียมสร้างบ้านใหม่เพื่อลูกสาว
“มองไกลตรงนี้พี่โจ้ก็มองว่าสร้างบ้านใหม่ บ้านที่อยู่ตอนนี้ยังไม่น่าจะพอสำหรับลูกเวลาโตขึ้น อาจจะโตพอสำหรับเขาตอนเป็นเบบี๋ ตอนนี้มองหาที่ที่จะสร้างบ้านให้กับลูก จริงๆ เขาก็มีที่อยู่แล้วแต่เรารู้สึกว่าก็อยากให้มันดีที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องของที่อยู่อาศัย แล้วก็มองถึงเรื่องโรงเรียนลูกค่ะ ไม่ได้มองอะไรมาก ก็เตรียมโรงเรียนให้ลูกแล้วค่ะ อาจจะเป็นโรงเรียนอินเตอร์ค่ะ ใครมีที่น่าสนใจก็แนะนำมาได้นะคะ ตอนนี้คือคุณแม่ต้องทำการบ้านแล้ว”
