“บีม - ออย” เผย “น้องพีร์” ติดสกินชิพ พ่อรับน้อยใจลูกชายติด “อาตั้ม” สามี “บัว สโรชา” มากกว่า เผยพาลูกไปเรียนตีกอล์ฟสังเกตเห็นว่ากีฬานี้มีสมาธิมากขึ้น บอกอนาคตยังไม่รู้ว่าชอบอะไร แต่ตอนนี้หันมาสนใจด้านดนตรีมากขึ้น
เป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นมากจริงๆ สำหรับครอบครัวนักร้องหนุ่ม “บีม กวี ตันจรารักษ์” และแม่ “ออย อฏิพรณ์” ที่มีลูกแฝด 2 คู่ 4 คน “น้องพีร์-น้องธีร์” และ “น้องอัยวา-น้องอัญญา” มาเติมเต็มความรัก ความอบอุ่นให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น แถมงานนี้คุณพ่อคุณแม่ยังส่งเสริมให้ลูกๆ ได้มีทักษะด้านกีฬาอีกด้วย โดยจะเห็นจากภาพที่เจ้าตัวน้อยโชว์วงสวิงตีกอล์ฟนั่นเอง
ล่าสุด บีม กวี ควงภรรยา ออกมาอัปเดตพัฒนาการของลูกๆ หลังมาร่วมงานแถลงข่าว MamyPoko X Butterbaer ณ ลานอีเดน 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เผยว่า ลูกชายยังชื่นชอบกีฬาตีกอล์ฟ จะใช้เวลาอยู่ที่สนามกอล์ฟประมาณ 2 ชั่วโมง มีช่วงให้ฝึกซ้อมและผ่อนคลาย แถมช่วงนี้ก็มีความสนใจมีแข่งกับเพื่อนๆ ว่าใครตีไปได้ไกลกว่ากัน จากที่สังเกตจะเห็นว่ากีฬาประเภทนี้ช่วยให้ลูกชายมีสมาธิมากขึ้น
ออย : “ล่าสุดเห็นลงคลิปน้องไปตีกอล์ฟ ไม่เคยอยู่ในหัวสมองเลยค่ะ”
บีม : “เป็นกิจกรรมที่น้องเขย (อาตั้ม พิพัทธ์ วิริยะเมตตากุล) นำพามา”
ออย : “คือน้องตั้ม อาตั้มของน้องพีร์ ไม่น่าเชื่อว่าคุณตั้มเขาจะมีเกณฑ์ในการเลี้ยงลูกแบบเข้มข้นมาก เรียนแบบนี้ๆ กลายเป็นว่าเราต้องไปเรียนด้วย”
บีม : “เหมือนเขาชวน เราก็เออ ดีนะ”
ออย : “ตอนแรกเขาชวนเรารู้สึกไม่เอา ไปตีกอล์ฟแล้วยังไง รู้สึกว่าเตะบอลพอแล้ว”
บีม : “ซึ่งเตะบอลเขาก็เป็นคนชวนเหมือนกัน”
บอกลูกไปตีกอล์ฟทำให้มีสมาธิขึ้น
บีม : “เราคิดว่าการตีกอล์ฟเป็นกีฬาที่ดีนะ ทำให้เขามีสมาธิเขาสามารถโฟกัสอะไรได้ จากตอนแรกๆ ตีแค่ 2-3 ไม้”
ออย : “ตอนแรกๆ เรียกว่าเสียดายเงิน เสียดายค่าสนามไม่เห็นอนาคตเลย ตีแล้วลูกหล่นอยู่ตรงนี้ ตีไปพักนึงเดินไปขุดดิน ขุดทรายข้างหน้า เอามาป้ายหน้า ถุงมือดำปี๋เหมือนตอนไปเตะบอลเข่าดำมาก ไม่รู้เตะบอลยังไงทำไมเข่าดำ ดำจนเราต้องเอาคัตเติ้ลบัตถูเพราะมันฝังลงไปมันดำจริง”
บีม : “แต่หลังจากที่ตีไปสัก 2-3 ครั้ง เรารู้สึกว่าเขามีสมาธิเพิ่มขึ้น พี่ธีร์เห็นชัดเพราะว่าเขาสามารถจดจ่อกับสิ่งอะไรได้นาน อย่างเช่นพอกลับมาวาดรูปเขาก็ลองวาดได้นานขึ้น”
ลั่นเริ่มเห็นอนาคตโปรกอล์ฟกลายๆ
บีม : “เริ่มไปออกรอบทีนึง จะเรียกว่าออกรอบก็ไม่ถูกเพราะมันเป็นสนามเล็กๆ มีแค่ไม่กี่หลุม แต่วันก่อนที่เขาแข่งกันตีเขาตีไกลขึ้น”
ออย : “เริ่มเห็นอนาคตเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ลูกเริ่มไกลเริ่มแบบ 60 หลา”
บีม : “เราคิดว่าดีนะ เราก็คิดว่าอยากจะลองตีไปเรื่อยๆ”
ออย : “นี่ก็เริ่มดีเริ่มเห็นอนาคต บางลูกตีดีเรียกว่าสปอนเซอร์ต้องเข้า สปอนเซอร์เข้าได้แต่เป็นบางลูก ถามว่าเขาชอบหรือยัง เขาบอกว่าเขาก็ชอบนะ แต่ว่าบางทีเด็กพอเขาต้องเรียนอะไรยาวๆ บางทีเขาก็จะเริ่มเบื่อ ฉะนั้นตอนนี้โปรก็เลยให้เรียนแค่ครึ่งชั่วโมงแล้วที่เหลือก็ปล่อยฟรีสไตล์ว่าจะซ้อมไหมหรือว่าจะวิ่งเล่นอิสระ รวมๆ แล้วก็ประมาณ 2 ชั่วโมง จริงๆ ตีประมาณ 15 นาที”
บีม : “เรียกว่าพัฒนา เราว่ามันจะสนุกตรงที่ว่าตีแข่งกัน เขาก็จะมีลูกของน้องบัว สโรชา อย่างน้องวายุ น้องวาตะ เขาจะเป็นก๊วนเดียวกันก็จะตีแข่งกัน แบบใครตีไกลกว่า”
เผยลูกหันมาเอาดีด้านดนตรีเพิ่มอีก
ออย : “จริงๆ ตอนนี้เหมือนเราโยนหินถามทางเพราะว่าเด็กตอนนี้เขายังไม่รู้ โลกเขายังไม่ได้กว้างขนาดนั้น เขายังไม่รู้ว่าข้างนอกมีอะไรบ้าง เราก็ต้องเป็นคนเสิร์ฟให้เขาแบบนี้เอาไหม แต่ไม่ใช่ว่าแบบนี้เอาไหมแล้วเล่นครั้งหนึ่งและก็จะไม่เอา เราว่าแรกๆ อาจจะต้องบังคับให้มันเป็นวินัยก่อนแล้วเดี๋ยวเราจะรู้เองว่าเหมาะไม่เหมาะอันนั้นค่อยเลิก แต่อย่างน้อยเขาก็มีอะไรติดตัวไปแล้ว”
บีม : “ตอนนี้เขาเริ่มชอบร้องเพลง ร้องเพลงสไปเดอร์แมน”
ออย : "ตอนนี้จะเริ่มไปดนตรีเล่นเปียโน ตอนนี้รู้สึกว่าลูกเรียนเยอะมาก จนแม่จะไม่ค่อยมีเวลาเป็นของตัวเอง"
บีม : “มีพาไปเข้าห้องอัดมาแล้ว ถามว่าอยากให้ลูกเหมือนเราไหม เราว่าอยู่ที่เขาดีกว่าว่าเขาชอบอะไร เราก็อยากจะหากิจกรรมหลายๆ อย่างให้เขาลองเพราะว่าสุดท้ายเราก็นึกถึงตอนเป็นเด็กว่า ถ้าเราได้ลองสิ่งนี้ตั้งแต่เด็กเราอาจจะรู้สึกว่าชอบมันก็ได้ อาจจะหาตัวเองเจอตั้งแต่เด็กๆ”
ออย : “ชื่นใจร้องไม่ได้เพี้ยนเยอะ ยังกล้อมแกล้มได้ ไม่ได้ฟังดูว่ามันเพี้ยนแล้วก็จังหวะได้”
บีม : “เวลาร้องเพลงในรถเขาก็จะร้องตาม สมมติว่าประโยคมาเต็มๆ เขาก็จะร้องได้ 2 คำสุดท้าย (แสดงว่าเลือดคุณพ่อแรงเหมือนกัน?) ก็ดำน้ำแล้วมาโผล่ตอนปลาย จริงๆ 4 คนเลย อัญญาก็ฮัมเพลง”
ออย : “อัญญาได้ 2 คำสุดท้ายอย่างที่บีมบอก แต่อัยวาได้ทั้งเพลงนะแต่ไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าสมมติไม่เปิดเพลงนางสามารถร้องเองได้คนเดียว ร้องตลอดทางตั้งแต่เริ่มจนถึงสถานที่”
บีม : “มีขอเพลงพอขึ้นรถแล้วขอเพลง ขออันนี้หน่อยค่ะ”
รับน้อยใจลูกชายติดสกินชิพอาตั้ม
ออย : “เหมือนอาตั้มกับน้องพีร์จริตเขาได้กัน น้องพีร์เป็นคนสกินชิพ ด้วยความที่เราอยู่กับลูกทั้งวันเราสกินชิพพอแล้วลูก จังหวะนี้ขออยู่เฉยๆ บ้าง แต่นางคือจะสกินชิพตลอดเวลา”
บีม : “เขาจะตลอดเวลาเลยนะ สมมติว่าเราทานข้าว เราทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่เขาจะมาคลอเคลียมานั่งตักมาทำทุกอย่างร่วมกับเรา”
ออย : “บางทีมาขี่คอตอนพ่อกินข้าว เราก็จะบอกว่าน้องพีร์ออกไปก่อนให้พ่อกินข้าวก่อน ไม่ไป แล้วเวลาขึ้นมานั่งบนตักก็ไม่ได้เอาก้นมานั่งเอาหัวเข่านั่ง เจ็บมาก”
บีม : “อย่างตั้มอาทิตย์หนึ่งจะเจอกันสัก 2-3 ครั้ง เขาก็จะได้คลอเคลียกันเต็มที่ แล้วก็จะดูภาพออกมาโอ้โหตลอดเวลา”
ออย : “พ่อก็จะอิจฉา”
บีม : “น้อยใจครับบางที (หัวเราะ)”
ออย : “บางทีเรากลัวตั้มเขาก็จะรำคาญ บางทีน้องพีร์เขาจะสกินชิพเยอะ เราก็จะบอกเขาว่าน้องพีร์ถ้าหนูไม่สนใจพ่อลุกไปเสียม้านะลูก คนอื่นเขาอยากเป็นลูกพ่อนะ ถ้าสมมติว่าหนูไปยุ่งกับอาตั้มเยอะๆ พี่วายุเขาจะมายึดพ่อไปเลยนะ ล่าสุดเขาไปเจออาตั้มเขาเดินไปบอกอาตั้มว่าวันนี้น้องพีร์จะไม่เล่นกับอาตั้มแล้วนะ นางเป็นเด็กเปิดเผยไม่มีความลับเลย ดีไม่บอกว่าแม่สอน”
บีม : “อาตั้มไม่มาเขาก็ถาม เขาจะมีบอกว่าคิดถึง”
ออย : “คิดถึงอาตั้ม อยากจะไปบ้านอาตั้ม”
รับชอบให้ลูกคลอเคลีย
บีม : “เราชอบนะไม่ได้ไม่ชอบนะ เราก็เคยอยู่กับเขาตลอดเวลาอยู่แล้ว เป็นครอบครัวที่แบบอบอุ่นจนแบบเป็นเตาอบแน่ๆ เราอยู่ด้วยกันกับลูกตลอดเวลา เรานอนกับเขาอยู่แล้ว แยกเตียงกันแต่ตื่นเช้ามามานอนอยู่ข้างๆ (สมบัติหารบ้านละ 3?) ถ้าอยากหารทางโน้นได้เลยลูก ยินดี น่าจะดี”
