“มาสุ” ตัดสินใจ 1 วินาทีประเดิมซีรีส์วายครั้งแรก “LOVE LIKE A BIKE ปั่นไปให้ถึงรัก” ประกบคู่ “ตี๋ ธนพล” ลั่นเป็นวายในแบบผู้ใหญ่ เคมีเชื่อมกันทันทีแทบไม่ต้องละลาย ตั้งใจทำงาน อบอุ่น ทำให้ต่างคนต่างไม่มีกำแพง ซีนหวานไม่ต้องปรับ ฟีลลิ่งอยู่ตรงหน้า
ประเดินเล่นซีรีส์วายครั้งแรกสำหรับพระเอกหนุ่ม “มาสุ จรรยางค์ดีกุล” พร้อมประกบคู่กับ “ตี๋ ธนพล จารุจิตรานนท์” ในเรื่อง “LOVE LIKE A BIKE ปั่นไปให้ถึงรัก” ในงานบวงสรวง มาสุ ได้เล่าถึงการตัดสินใจมาทำงานซีรีส์วายครั้งแรกรวมถึงเคมีคู่ตี๋
มาสุ : “จริงๆ ตัดสินใจวิเดียวเองครับ เพราะคาแร็กเตอร์มันตรงกับผม มันก็เหมือนแคสไปแล้ว และพอทราบว่ามีเรื่องเกี่ยวกับจักรยานด้วยก็ทันทีเลยวิเดียว ตอนแรกยังไม่ทราบว่าเล่นกับใคร แต่พอรู้ว่าเป็นตี๋ก็ดีใจมากนะ (เรื่องการพลิกบทบาทมาเล่นซีรีส์วาย?) จริงๆ ก็มีกังวลใจนะเพราะว่ามันใหม่มากสำหรับเรา แต่ตอนที่เจอตี๋ครั้งแรกตอนที่ไปเวิร์กช็อปกันก็รู้สึกว่าง่ายแล้ว เพราะตี๋จะเป็นคนไกด์ให้หมดเลยว่ามันจะมีกิจกรรมแบบไหน ลองทำความรู้จักกัน ผมก็มีชวนตี๋ไปทำกิจกรรมข้างนอก
ไม่ได้ปรับอะไร ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนที่ทุกอย่างฟิลลิ่งอยู่ตรงหน้าเลย ตอนที่เราถ่ายตรงนั้นเกิดความรู้สึกอะไรขึ้นเราก็เป็นไปตามนั้น ก็คือเรียลตรงนั้น”
ตี๋ : “เรียกได้ว่ายกเอาประสบการณ์ที่ผ่านมามาบอกเขา แต่สุดท้ายก็ต้องมาเริ่มใหม่อยู่ดีครับเพราะว่าตอนนี้วายของเราก็ได้พัฒนาไปมากๆ แล้ว ก็ได้มีการศึกษาว่าตอนนี้เทรนด์ไปถึงไหนแล้วทำอะไรกันบ้างแล้ว ก็มีศึกษาบ้างว่าเดี๋ยวนี้สาววายเขาชอบแบบไหนยังไง แล้วก็พยายามทำให้ธรรมชาติที่สุด รู้สึกว่าคู่ของเราจะเน้นเคมีแบบตรงหน้าธรรมชาติ เขารู้สึกยังไง ตี๋รู้สึกยังไงก็ใส่ออกมาได้เลย เอาความเป็นตัวเองออกมา
คนจะมองว่าวายก็คือเด็กใหม่ที่มีความเป็นเฟรชชี่ใช่ไหมครับ มีความแบบว่าใหม่ๆ มาเจอกันเลยมันก็จะได้เคมีใหม่ๆ แต่ของตี๋กับพี่มาสุเรียกได้ว่าเรามีประสบการณ์กันมาบ้างแล้วเลยจะใช้จุดเด่นของแต่ละคนออกมามากกว่า อย่างพี่มาสุก็จะมีจุดเด่นของเขาถนัดเรื่องด้านกีฬา อย่างตี๋ก็จะเป็นด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เรื่องกิน เราก็เอาจุดเด่นของแต่ละคนมารวมกันเป็นเคมีใหม่ (พร้อมเสิร์ฟแล้ว?) ใช่ครับ เป็นแบบวายที่โตขึ้นอีกสเต็ปนึง”
เคมีปรับจูนง่ายมาก เชื่อมกันทันทีแทบไม่ต้องละลาย ตั้งใจทำงาน อบอุ่น ทำให้ต่างคนต่างไม่มีกำแพง
ตี๋ : “ครั้งแรกคิดว่าต้องปรับจูน แต่พอเข้าซีนพอได้เวิร์กช็อปกลายเป็นว่าผ่านวันนั้นไปก็รู้สึกว่าง่ายมาก เพราะพี่มาสุมืออาชีพมาก เราทำงานง่ายด้วย พอได้คนที่มีประสบการณ์มาบวกเราที่มีประสบการณ์มาแล้วมันเร็วมากขึ้นเราทำการบ้านได้ง่ายขึ้น”
มาสุ : “ผมดีใจที่เป็นเขา นี่พูดจริงๆ รู้สึกว่ามันทำให้ทุกอย่างง่ายไปหมดแล้วตี๋เป็นคนที่คุยได้ทุกเรื่อง นอกจอนี่ผมคุยกับเขาตลอดนะ หรือว่ามีอะไรปรึกษาก็คุยกันตลอด รู้สึกว่าทำให้การทำงานหน้ากล้องมันกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เรียกว่าเคมีเชื่อมกันแทบไม่ต้องละลายเลยตี๋กับผมมีอะไรคือสามารถทักคุยกันได้เลย มันเลยทำให้หน้างานยิ่งง่าย เขาทำการบ้านมาหนักมากๆ เรียกว่าหนักที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาแล้ว”
ตี๋ : “พี่มาสุเป็นผู้ชายที่ดูแล้วอบอุ่นแล้วรู้สึกว่าปกป้องเราได้ ก็รู้สึกว่าเข้ากับตัวละครที่ผมรับนะ เพราะตัวละครที่ผมรับจะดูแลตัวเองไม่ค่อยได้ ขาดความมั่นใจแล้วก็กลัวทุกอย่างแต่พอมีคนนึงที่สามารถปกป้องเราได้มันจะทำให้เรารู้สึกแบบว่าสื่อสารความรู้สึกนี้ได้อย่างดี”
มาสุ : “เสน่ห์ของเขาคือเป็นคนตั้งไจเป็นตั้งใจที่กำลังพอดีด้วยทำให้คนที่อยู่รอบข้างทำงานด้วยแล้วมีความสุข ทำให้ทุกอย่างมันง่ายมันง่ายทันทีเลยเมื่อได้ทำงานกับตี๋ ทำการบ้านโหดมากตั้งแต่เล่นละครมาไม่เคยเจอใครทำการบ้านหนักเท่าตี๋ เก่งมาก นึกออกแล้วเวลาผมทำงานกับเขาก็คือเป็นความรู้สึกที่ไม่มีกำแพง”
มีเขินและตื่นเต้นเวลาเข้าซีนหวานกัน
มาสุ : “เขินอยู่แล้ว”
ตี๋ : “มีตื่นเต้นบ้างครับ”
มาสุ : “ฝากด้วยนะครับซีรีส์เรื่อง Love Like a Bike ปั่นไปให้ถึงรัก ไม่ได้มีแค่มามาสุกับตี๋นะครับยังมีอีกหลายคู่เลยแต่ละคู่ก็เป็นแต่ละสไตล์ความเดือดก็ต่างกัน แต่รับรองว่าถูกใจคนดู แล้วก็เป็นซีรีส์อีกเรื่องนึงที่ให้อะไรบางอย่างกับคนดู”
ตี๋ : “ฝากตี๋กับมาสุไว้ด้วยนะครับ ในเรื่องก็จะมีคู่หญิงหญิงด้วยนะครับ ก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยครับหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบเคมีใหม่ๆ อาจจะเป็นวายที่เติบโตมากขึ้น”
